CSC - “WAIT & SEE” (วันที่ 22 มีนาคม 2565)

CSC - “WAIT & SEE” (วันที่ 22 มีนาคม 2565)

คาดรายได้ปี 65 ดีขึ้นตามอุตสหากรรมเครื่องดื่มที่ฟื้นตัวแต่ต้นทุนวัตถุดิบที่ทรงตัวสูงกระทบต่อกำไรปี 65

•    ปี 64 บริษัทมีกำไร 193 ลบ. -25%YoY ต่ำกว่าคาด 7% จากต้นทุนที่เร่งขึ้น บริษัทรายงานรายได้ปี 64 เท่ากับ 2,881 ลบ. +4%YoY สูงกว่าที่เราคาด 3% โดยรายได้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่เติบโตเพียง 2%YoY (Figure 2) เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยืดเยื้อ ทำให้ในระหว่างปี สถานบันเทิงยังถูกสั่งปิดให้บริการชั่วคราว และร้านอาหารไม่สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ขณะที่ %GPM ลดลงมาเหลือ 12.4% ต่ำกว่าที่เราคาดที่ระดับ 13.1% และลดลงจากปี 63 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 16.9% เนื่องจากราคาวัตถุดิบในปี 64 เร่งตัวขึ้นเร็วและแรงกว่า 103.6%YoY (Figure 3) จากคาดโต 92.4%YoY ซึ่งบริษัทมีต้นทุนวัตถุดิบคิดเป็นสัดส่วนกว่า 65% ของต้นทุนการผลิตรวม ส่งผลให้ปี 64 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 193 ลบ. -25%YoY ต่ำกว่าที่เราคาด 7%

•    ปรับลดประมาณการกำไรปี 65 ลง 12% สู่ 205 ลบ. +6%YoY เราคงประมาณรายได้ปี 65 ราว 3,086 ลบ. +7%YoY โดยเราคาดว่ารายได้จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นตามอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่ฟื้นตัว โดยแม้สถานการณ์
โควิด-19 ยังคงอยู่ อย่างไรก็ตาม ภาครัฐไม่ได้ใช้มาตรการเข้มงวดเหมือนปีก่อนๆ อาทิ ล็อคดาวน์ ห้ามนั่งในร้านอาหาร และห้ามร้านอาหารขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยยอดผลิตในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มในเดือนมกราคมที่ผ่านมาโตถึง 18.4%YoY (Figure 1) ขณะที่คาดการณ์แนวโน้มรายได้ทั้งปี 65 ของบริษัทในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มจะเติบโตราว 11%YoY (Figure 2) อย่างไรก็ดี เราปรับลดสมมติฐาน %GPM ลงสู่ 12.5% จากเดิมคาดที่ 13.3% ใกล้เคียงกับปี 64 ที่ 12.4% แต่ดีขึ้นจากช่วง 4Q64 ซึ่งอยู่ที่ 10.1% เนื่องจาก Bloomberg คาดการณ์ราคาวัตถุดิบในปี 65 ยังทรงตัวในระดับสูง และยังถูกปรับคาดการณ์เพิ่มจากเดิมอีกราว 5.9% (Figure 3) ทำให้เราปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 65 ลดลง 12% สู่ 205 ลบ. +6%YoY
 

•    คงคำแนะนำ “Wait & See” และปรับลดราคาเหมาะสมสู่ 37.00 บาท เราปรับลดราคาเหมาะสม CSC สู่ 37.00 (5Yr.-Avg PE = 9.4x) จากราคาเหมาะสมเดิม 40.00 บาท จากการปรับคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 65 ลดลงสู่ 4.0 บาทต่อหุ้น จากเดิมที่ 4.5 บาทต่อหุ้น เนื่องจากแนวโน้มราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ทรงตัวสูง นอกจากนี้ หากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนยืดเยื้อและรุนแรงขึ้น อาจทำให้ต้นทุนวัตถุดิบของบริษัทสูงขึ้นอีกเป็น Downside risk ที่อาจเกิดขึ้น เราจึงคงคำแนะนำ Wait & See

 

ความเสี่ยง

1) สถานการณ์ COVID-19 ที่ยืดเยื้อ
2) ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
3) สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนยืดเยื้อและรุนแรงขึ้น
4) ภัยพิบัติทางธรรมชาติ อุบัติเหตุ และอัคคีภัย