SPA คาดหวังการฟื้นตัวได้ในระยะยาว (23 มี.ค. 65)
คาดผลประกอบการจะสะดุดช่วงสั้นใน 1Q65 แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก (Figure 1) แต่ผลกระทบต่อธุรกิจสปารอบนี้ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้
โดยผู้บริหารคาดว่ารายได้อาจจะลดลงเพียงเล็กน้อย QoQ ใน 1Q65 ในระยะถัดไป ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้เอาไว้ที่ 500-600 ล้านบาท (สมมติฐานของเราอยู่ที่ 407 ล้านบาท) โดยอาจจะมี Upside จากประมาณการของเราจากการขายชุดตรวจ ATK สำหรับตรวจ COVID-19 (Figure 3) ซึ่งอาจจะทำให้เราต้องปรับเพิ่มประมาณการรายได้ขึ้นอีก
ผลประกอบการน่าจะผ่านจุดตํ่าสุดไปแล้ว
ในปี 2564 สาขาร้านสปาส่วนใหญ่ของบริษัทถูกปิดไปนานหกเดือนเต็ม (ระหว่างเดือนเมษายน และกันยายน 2564) ส่วนในปี 2565 เราไม่คิดว่าจะมีการใช้มาตรการที่เข้มงวดอีกครั้งเพราะผู้คนเริ่มคุ้นกับชีวิตที่ต้องอยู่กับ COVID-19 แล้ว ดังนั้น เราเชื่อว่าโมเมนตั้มกำไรของ SPA ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2564 และน่าจะฟื้นตัวได้ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก 2H65 ไป ทั้งนี้ สาขาร้านสปาของบริษัทกลับมาเปิดบริการแล้วประมาณ 80% เพิ่มขึ้นจากประมาณ 70% ใน 4Q64
ความเสี่ยงทางการเงินยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้
สัดส่วน D/E (ไม่รวมผลจากมาตรฐานบัญชี TFRS 16) เมื่อสิ้นปี 2564 อยู่ที่ 0.8x ซึ่งยังต่ำกว่า debt covenant ของ SPA ที่ 1.5x นอกจากนี้ หนี้ระยะสั้นทั้งหมดยังได้รับการผ่อนผันให้ยกเว้นการชำระเงินต้นไปจนถึงเดือนมีนาคม 2566 ซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับบริษัท ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาใหม่สองแห่งในปี 2565 ที่พัทยา และ Terminal 21 (พระราม 3)
Valuation & action
SPA ไม่ได้เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มนี้ของเราในช่วงนี้เพราะแนวโน้มผลประกอบการในระยะสั้นยังดูด้อยกว่าหุ้นอื่นในกลุ่ม อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มการฟื้นตัวในระยะยาว และ upside จากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกัญชงและกัญชา เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้ามายที่ 8.70 บาท อิงจาก P/E ปี 2566F ที่ 45.0x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว +0.5 S.D. ทั้งนี้ เราได้หัก discount ราคาเป้าหมายปี 2566F กลับมาหนึ่งปีโดยใช้ WACC ที่ 11.5%
Risks
COVID-19 ระบาดอย่างยืดเยื้อยาวนาน