‘เมตาเวิร์ส’เขย่าโลกธุรกิจ ‘บิ๊กคอร์ป’เร่งสร้างอีโคซิสเท็มต่อยอด

การ์ทเนอร์ อิงค์ คาดการณ์ภายในปี 2569 ผู้คน 25% ทั่วโลกจะใช้เวลาอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมงไปกับการทำงาน ชอปปิง เรียนรู้ เข้าสังคม หรือความบันเทิงในโลกเมตาเวิร์ส ที่กำลังกลายเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของการขับเคลื่อนองค์กรยุคใหม่

นายมาร์ตี้ เรสนิค รองประธานฝ่ายวิจัย การ์ทเนอร์ อิงค์ กล่าวว่า เมตาเวิร์ส กำลังสั่นสะเทือนโลกธุรกิจ โดยองค์กรทั่วโลกจะขยายและพัฒนาธุรกิจแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยย้ายจากธุรกิจดิจิทัลไปเป็นธุรกิจในเมตาเวิร์ส ซึ่ง 30% ขององค์กรทั่วโลก จะมีผลิตภัณฑ์และบริการพร้อมสำหรับดำเนินธุรกิจในเมตาเวิร์สในปี 2569

"ผู้ให้บริการพร้อมสร้างแนวทางการใช้ชีวิตในโลกดิจิทัลให้แก่ผู้ใช้หลากหลาย ตั้งแต่การเข้าร่วมคลาสเรียนแบบเวอร์ชวล การซื้อที่ดินดิจิทัลหรือสร้างบ้านเสมือนจริง แม้จะดำเนินอยู่คนละสภาพแวดล้อม แต่ท้ายที่สุดกิจกรรมทั้งหมดจะรวมอยู่ในเมตาเวิร์ส”

การ์ทเนอร์ ให้นิยามของ เมตาเวิร์ส ว่า เป็นพื้นที่เสมือนจริงที่เปิดโอกาสให้กลุ่มคนที่สนใจเรื่องเดียวกันมาแบ่งปันใช้ร่วมกัน โดยสร้างขึ้นจากการผสมผสานความเป็นจริงทางกายภาพและดิจิทัล เพื่อมอบประสบการณ์ที่สมจริงขึ้น ตลอดจนเข้าถึงผ่านอุปกรณ์ตั้งแต่แท็บเล็ตจนถึงจอแสดงผลแบบสวมศีรษะ

ทั้งนี้ การไม่มีผู้ให้บริการใดเป็นเจ้าของเมตาเวิร์สรายเดียว ซึ่งการ์ทเนอร์คาดว่า จะมีรูปแบบเศรษฐกิจเสมือนจริงเกิดขึ้นและขับเคลื่อนโดยสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัล (NFTs) และเมตาเวิร์ส ยังกระทบทุกธุรกิจที่โต้ตอบสื่อสารกับผู้บริโภคทุกวัน

ขณะที่ บทวิเคราะห์จากบลูมเบิร์กอินเทลลิเจนซ์ ระบุ ความเฟื่องฟูของแพลตฟอร์มใหม่นี้จะมีมูลค่าตลาดทั่วโลกเพิ่มไปเป็น 8 แสนล้านดอลลาร์ ภายในปี 2567 จากมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์เมื่อปี 2563

เอไอเอส เตรียมอินฟราฯ 5จี รองรับ

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส บิ๊กคอร์ปชั้นนำของไทย กล่าวว่า สิ่งที่เอไอเอส ได้ทำในวันนี้ คือ เรื่องอินฟราสตรัคเจอร์ หรือโครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับเรื่องเมตาเวิร์สให้แข็งแรง

“ในเรื่องเครือข่ายที่จะรองรับเมตาเวิร์สในอนาคต ไม่ต้องเป็นห่วงเลยใน 5จี ที่ผ่านมามีนักลงทุนมาถามเรื่องการขยายและลงทุนเครือข่าย 5 จี ไปทำไมจำนวนมาก เพราะวันนี้ยังไม่จำเป็นที่จะขยายให้ครอบคลุม 80-90% ให้ได้ แต่ต้องเตรียมไว้รองรับเมตาเวิรส์”

ทั้งนี้ เอไอเอส มองว่า เมตาเวิร์ส เป็นเทคโนโลยีโลกเสมือนครั้งใหม่ที่มาแรง ซึ่งได้เตรียมพร้อมระยะนึงแล้วไม่ว่าจะเป็น เอไอเอส 5จี เพลย์ เออาร์/วีอาร์ , V-Avenue.Co แหล่งรวมศูนย์การค้าชั้นนําและเอสเอ็มอี บนโลกเสมือนจริงแห่งแรกของโลกที่นําเทคโนโลยีวีอาร์ ผสานกับ โครงข่าย 5จี

นอกจากนี้ เอไอเอส เตรียมความพร้อมด้วยการพัฒนานวัตกรรม Metaverse Human หรือบุคคลใน โลกเสมือนจริงคนแรกของไทย อย่าง “ไอ-ไอรีน” Brand Ambassador ใน เอไอเอส แฟมิลี่คนใหม่ ซึ่งเป็น KOL ผู้มีอิทธิพลยุคเมตาเวิร์ส สร้างโอกาสธุรกิจร่วมกับเทคโนโลยี 5จี เพื่อผลักดันและสร้างเมตาเวิร์สในไทย

เชื่อ “เมตาเวิร์ส” กระทบหลายมิติ

นายก้องเกียรติ หิรัญเกิด ผู้เชี่ยวชาญด้านเออาร์ วีอาร์ เกมเพื่อการศึกษา และอุปนายกสมาคมอีเลิร์นนิ่งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นิยามของ เมตาเวิร์ส ในมุมมองของผู้พัฒนาและผู้ใช้งาน ยังไม่มีจุดที่บรรจบกัน แม้หลายเทคโนโลยีจะเป็นเทคโนโลยีด้านเสมือนจริงเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้เป็นเมตาเวิร์ส เพราะปรัชญาของเมตาเวิร์ส คือ ต้องโยกย้ายระหว่างแพลตฟอร์มได้โดยมีองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่

1.Reality Technology ซึ่งโลกจริงและโลกเสมือนติดต่อร่วมกันได้

2.บล็อกเชนที่ทุกคนดูข้อมูลได้แต่แก้ไขไม่ได้ มีคอนเซ็ปต์แบบกระจายศูนย์

3.Smart Contract การกระจายศูนย์แจกจ่ายการจัดข้อมูลให้รับรองจาก node ที่อยู่ทั่วโลกเวลาเดียวกันโดยไม่มีตัวกลาง

“เอสซีบี”บุกโลกเสมือนจริง

บริษัทเอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB10X) บริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เป็นองค์กรแรกที่ประกาศเข้าไปในเมตาเวิร์ส

นายอารักษ์ สุธีวงศ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด SCB10X กล่าวว่า ธนาคารตระหนักดีถึง Disruptive Technology จึงเตรียมความพร้อมสร้างธุรกิจใหม่

ทั้งนี้สนใจเมตาเวิร์สเพราะโตเร็วมาก และคาดการณ์ว่าโลกเมตาเวิร์สจะเติบโตขึ้นอีกใน 2-3 ปี ถึง 8 แสนล้านดอลลาร์ หรือ 24 ล้านล้านบาท ซึ่งเทียบเกือบ 2 เท่า หากเทียบกับจีดีพีไทย ดังนั้น SCB10x จึงเข้าไปลงทุนเมตาเวิร์ส โดยการเข้าไปซื้อที่บนแซนด์บ็อกซ์ ขนาด 3 คูณ 3 เพื่อเข้าไปทดลอง เพื่อใช้พัฒนาในด้านต่างๆ ซึ่งคาดว่าในระยะข้างพื้นที่ดังกล่าว อาจเปิดเป็นที่ประชุม จัดแฮกกะธอนได้

“เอสซีบี”เริ่มให้บริการสิ้นปี 65

นางมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด หรือ SCB 10X กล่าวว่า การตั้งสำนักงานใหญ่บนเมตาเวิร์สของ The Sandbox จะเปิดบริการภายในสิ้นปี 2565 แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 

1.อดีต (Past) เป็นโซนแรกที่นำเสนอเกี่ยวกับรากฐานความมั่นคงของ SCB ด้วยแลนมาร์ค “เยาวราช” ซึ่งเป็นเมืองแห่งการค้าขายที่สำคัญของไทยในอดีต 

2.ปัจจุบัน (Present) เป็นจุดที่เห็นสำนักงานใหญ่ของ SCB 10X บนโลก Metaverse เชื่อมต่อรถไฟฟ้าและเครื่องบิน 

3.อนาคต (Future) เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ สำหรับตึกสูงเพื่อสื่อถึงอนาคตของการเป็นโลกใหม่

โดยการเข้าไปบนโลก Metavers นั้น SCB 10X ตั้งเป้าหมายเป็นฮับเสมือนจริงของบริษัท ซึ่งจัดอีเวนท์เสมือนจริงเพื่อนแบ่งปันความรู้ให้ชุมชน อาทิ Happy Hour with Blockchain and Metaverse การจัดประชุมผู้ถือหุ้น การพบปะซีอีโอ การนำเสนอผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้ บริษัทวางแผนเปิดให้บริการตู้ถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ของ SCB บนโลก Metaverse อีกทั้งมองเป็นโอกาสในการสร้างศักยภาพในการดำเนินธุรกิจร่วมกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ

“จรีพร”พัฒนา“เมตาดับบลิว”

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงทุนใน “เมตาเวิร์ส” เป็นหนึ่งในสิ่งที่บริษัทกำลังเตรียมการด้วยการศึกษาความเป็นไปได้หลายอย่าง โดยโครงการที่ดำเนินการอยู่นั้นมีชื่อเรียกว่า “เมตาดับบลิว” โดยอาจซื้อที่ดินผืนหนึ่งบนแซนด์บ็อกซ์แล้วให้ลงทุนในนั้น ตั้งแต่ด้านนิคมอุตสาหกรรม โลจิสติกส์ ธุรกิจสุขภาพ

นอกจากจะมองเมตาเวิร์สในภาคธุรกิจแล้ว ยังมองถึงการใช้ชีวิตของผู้คนในอนาคต เช่น การสร้างโลกเสมือนจริงที่ใช้เป็นพื้นที่พบปะเพื่อตอบโจทย์ในเรื่องไลฟ์สไตล์ รวมทั้งสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของคนหลายกลุ่ม อาทิ การทำกิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุ สร้างสวนสาธารณะเป็นที่นัดพบ หรือสถานที่เพื่อการศึกษา เพื่อสร้างสังคมที่ลดข้อจำกัดในการเดินทางและความไร้พรมแดน

“พารากอน”บนโลกเสมือนจริง

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปีนี้พร้อมก้าวสู่โลกเสมือนจริงเต็มรูปแบบภายใต้โปรเจค “Mniverse” โดยนำเทคโนโลยีเมตาเวิร์ส และ WEB 3.0 มาสร้างเป็นแพลตฟอร์ม VIRTUAL SOCIAL SPACE & COMMUNITY ให้ผู้คนจากทุกมุมโลก รวมถึงลูกค้า Mcard ที่มีกว่า 5 ล้านใบ สร้างตัวตนอวตาร์ก้าวเข้าสู่ในโลกเมตาเวิร์ส รวมทั้งแบรนด์พันธมิตรธุรกิจสร้างพื้นที่และจัดกิจกรรมการตลาดกับผู้คนในโลกเสมือนเมตาเวิร์สและต่อมายังโลกจริงได้แบบไร้รอยต่อ

ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม “Mniverse” มี BRANDVERSE ผู้พัฒนาระบบบริการด้านเมตาเวิร์สของไทยเป็นพันธมิตรร่วมพัฒนาและต่อยอดแพลตฟอร์มสร้างโอกาสธุรกิจใหม่ โดยนำ AR VR MR (Mixed Reality) และสร้างโลกเสมือนจริงของห้างสรรพสินค้าพารากอนในโลกออนไลน์ คอนเซ็ปต์ MIRROR-THE-WORLD technology ลูกค้าเสมือนเดินช้อปอยู่ในโลกจริงที่ห้าง พร้อมคลิกซื้อสินค้าได้ทันที

อีโคซิสเต็มใหม่ต่อยอดธุรกิจ

นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและฟันซิสเท็มมา ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเอสเซ้นส์ ผงซักฟอกเปา น้ำยาล้างจานไลปอนเอฟในเครือสหพัฒน์ กล่าวว่าบริษัทเข้าสู่โลกเมตาเวิร์สใน 2-3 เดือน เบื้องต้นเปิดตัวโครงการ “Lion Metaverse” เริ่มต้นทำบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะผู้บริโภคใช้สมาร์ทโฟนสแกนคิวอาร์โค้ดที่ตัวบรรจุภัณฑ์ เพื่อเข้าถึงข้อมูลรายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้ง่าย

อีกองค์กรยักษ์ใหญ่เคลื่อนสู่เมตาเวิร์ส คือ กลุ่มบุญรอด โดย นายปิติ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า เมตาเวิร์สเป็นอีโคซิสเทมใหม่ของโลกอนาคต จะมีบทบาทต่อดำเนินชีวิตส่วนตัวของผู้บริโภค มีผลต่อภาคธุรกิจ และสร้างโอกาสให้เศรษฐกิจใหม่บนโลกดิจิทัลมีมูลค่ามากขึ้น

โดยบริษัทนำร่องธุรกิจอาหารภายใต้ บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ เข้าไปลงทุนบนแพลตฟอร์มจาก้าเวิร์ส (Jakaverse) อาณาจักรโลกเสมือนจริงเพื่อต่อยอดธุรกิจอาหารกว่า 10 แบรนด์ เช่น ซานตาเฟ่ ,ซานตาเฟ่ อีซี่ และคลาวด์คิท

แบรนด์หรูปักหมุดโลกเมตาเวิร์ส

นายสรรพาทิตย์ บูรณสมภพ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสร้างสรรค์ของกลุ่มบริษัท ดรีม แบงคอก และไฮพ์โอวัน ไฮบริด ครีเอทีฟ คอมพานี ซึ่งเป็นครีเอทีฟ เอเยนซีให้บริการสินค้าอัลตร้า ลักชัวรี กล่าวว่า แบรนด์หรูหราเริ่มทำตลาดในโลกเมตาเวิร์สมากขึ้น อย่างเช่นกุชชี (GUCCI) เปิดร้านบนแพลตฟอร์ม ZEPETO ซึ่งเป็น 1 ใน 6 เมตาเวิร์สที่ใหญ่สุดในโลก

นอกจากแบรนด์หรู สินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร ยังมีรองเท้านันยาง ซื้อพื้นที่ 42 บล็อก สร้างอาคารรองเท้าแตะบน Metaverse Thailand และสร้างเครื่องหมายการค้า “ช้างจักรวาล” ในโลกเสมือนจริง

สร้างประสบการณ์เยี่ยมชม

นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมตาเวิร์สถือเป็นช่องทางใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ในการประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าเยี่ยมชมโครงการในโลกเสมือนจริง โดยไม่ต้องเดินทางไปในสถานที่จริง

นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า เครือเซ็นทาราให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมตาเวิร์สตัวอย่างเช่น บนหน้าหน้าเว็บไซต์ของเครือเซ็นทาราได้นำเทคโนโลยีชมวิดีโอเสมือนจริงมาให้ลูกค้าได้เห็นห้องพักและโรงแรมได้แล้ว หากนำเมตาเวิร์สเข้ามาใช้ทำให้ลูกค้าสร้าง Avatar เพื่อเยี่ยมชมโรงแรมหรือพบเจอลูกค้าคนอื่นที่มาเยี่ยมเยือนโรงแรมผ่านเมตาเวิร์ส