"เดอะ ฟอเรสเทียส์" ชูนิวโมเดล "ดิ แอสเพน ทรี" เจาะซิลเวอร์เจน "ดูแลองค์รวมตลอดชีวิต"
"เดอะ ฟอเรสเทียส์" ชูนิวโมเดล "ดิ แอสเพน ทรี" ผสานที่พักอาศัย พร้อมด้วยบริการ และการดูแลตลอดชีวิตแบบครบวงจรด้วยมาตรฐานระดับโลก การช่วยเหลือดูแลตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
ในห้วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ความผันผวนและความไม่แน่นอนต่างๆ ทั้งเชิงเศรษฐกิจ สังคม การแพร่ระบาดของโรค ฯลฯ ที่ก่อให้เกิดความกังวลใจ และสั่นคลอนวิถีการใช้ชีวิตของผู้คนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญและโจทย์ใหญ่ที่ท้าทายแนวคิดนักการตลาด ธุรกิจสินค้าและบริการต่างๆ จะนำพา “ลูกค้า” ก้าวข้าม Pain Point เหล่านี้เพื่อให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้อย่างไร? โดยเฉพาะ “ที่อยู่อาศัย” ซึ่งต้องควักกระเป๋าจ่ายด้วยมูลค่าสูง!
กิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย กล่าวว่า พฤติกรรมผู้บริโภคในขณะนี้ ยิ่งเมื่ออายุมากขึ้น และในเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหามากมายที่ทำให้ยากต่อการคาดเดาอนาคต ผู้คนต้องการเอาความไม่แน่นอนต่างๆ ออกไปจากชีวิต
ดังนั้น การสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของบ้านในอนาคตโดยปราศจากความกังวลและความไม่แน่นอนในทุกๆ เรื่องออกไปให้ได้มากที่สุด คือคำตอบและโจทย์ตั้ง! ของการพัฒนาแนวคิดใหม่ในการเป็นเจ้าของบ้านแบรนด์ “ดิ แอสเพน ทรี” ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 398 ไร่ของ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” โดย MQDC โครงการมิกซ์ยูส มูลค่า 125,000 ล้านบาท ที่กำลังก่อสร้างบนถนนบางนาตราด กม.7 นับเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยเวลานี้
ภายใต้แนวคิดใหม่ของการเป็นเจ้าของบ้าน “ดิ แอสเพน ทรี” เป็นการผสานที่พักอาศัย พร้อมด้วยบริการ และการดูแลตลอดชีวิตแบบครบวงจรด้วยมาตรฐานระดับโลก การช่วยเหลือดูแลตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน บริการดูแลทำความสะอาด รวมถึงประกันสุขภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จะช่วยเหลือผู้พักอาศัยที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปโดยเฉพาะ ซึ่งทั้งหมดนี้รวมอยู่ในราคาขายบ้านแล้ว เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด ที่เรียกว่า “การดูแลแบบองค์รวมตลอดชีวิต” หรือ Holistic Lifetime Care ในการเป็นเจ้าของบ้าน
“การลงทุนครั้งเดียวในการซื้อที่อยู่อาศัยที่ ดิ แอสเพน ทรี ทำให้เราสามารถขจัดความกังวลและความไม่แน่นอนทั้งหมดในหลายๆ เรื่องไปได้ เช่น จะเกิดอะไรขึ้นกับค่าครองชีพรอบตัวเราที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี จึงนับว่าเป็นข้อเสนอที่คุ้มค่า และนำมาซึ่งความสบายใจอย่างแท้จริง”
เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับ “เจ้าของบ้านในอนาคต” โดยปราศจากความกังวล แม้แต่ค่าส่วนกลางที่โดยปกติอาจจะต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในคอนเซ็ปต์ใหม่นี้ก็จะได้รับการยกเว้นด้วยเช่นกัน
สำหรับที่อยู่อาศัยแบรนด์ ดิ แอสเพน ทรี จะมาช่วยเติมเต็มองค์ประกอบของที่อยู่อาศัยต่างๆ ในโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ อาทิ แบรนด์ Whizdom, Mulberry Grove และ Six Senses ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทในการสร้างชุมชนที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง และความหลากหลายของช่วงอายุ ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสะดวกสบายง่ายดาย และใกล้ชิดธรรมชาติ
เฮ จูน พาร์ค ประธานผู้อำนวยการดิ แอสเพน ทรี ที่ เดอะ ฟอเรสเทียส์ กล่าวเสริมว่า ที่พักอาศัยพร้อมบริการดูแลตลอดชีวิตท่ามกลางพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ “ดิ แอสเพน ทรี” มีจำนวน 290 ห้อง ขนาดตั้งแต่ 83-253 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนพื้นที่ 23 ไร่ ใจกลางโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ทำให้เกือบทุกบ้านมองเห็นวิวทิวทัศน์ของป่าปลูก 30 ไร่
“ดิ แอสเพน ทรี เจาะกลุ่มเป้าหมายคนที่มีความพร้อมทางการเงิน อายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และกำลังมองหาบ้านที่เหมาะสม เป็นบ้านที่จะช่วยให้สามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระ มีความหมาย ปราศจากความกังวล มีสุขภาพที่สมบูรณ์ พร้อมบริการด้านสุขภาพและการดูแลครบวงจรแบบมืออาชีพที่เข้าถึงได้เมื่อถึงช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดของชีวิตของพวกเขาในทศวรรษหน้า”
แนวคิดรูปแบบใหม่ในการเป็นเจ้าของบ้าน นอกเหนือจากการอยู่อาศัยตลอดชีพแล้ว ยังรวมไปถึงการบริการและการดูแลสุขภาพตลอดชีวิตแบบครบวงจร บริการทำความสะอาด การจัดเตรียมอาหารสำหรับความต้องการพิเศษทางด้านโภชนาการ การสามารถเข้าถึงพื้นที่รับประทานอาหารส่วนกลางร่วมกับเพื่อนบ้าน และ “คลับเฮาส์” ที่มีกิจกรรมทางสังคมต่างๆ อาทิ ศิลปะ เวิร์กช็อปงานฝีมือ โปรแกรมการออกกำลังกายทางร่างกายและจิตใจเป็นประจำ โดยหลากหลายกิจกรรมเหล่านี้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และที่มากกว่านั้นคือ โปรแกรมประกันสุขภาพที่ครอบคลุมความต้องการทางการแพทย์และการพยาบาลจนถึงอายุ 99 ปี ตอบโจทย์และตรงใจบรรดาซิลเวอร์เอจ!
ดิ แอสเพน ทรี ยังประกอบด้วย Health & Brain Center ที่มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง พร้อมให้บริการดูแลผู้อยู่อาศัย หากจำเป็น
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของ “ดิ แอส เพน ทรี” คือ การดีไซน์ที่เน้นความปลอดภัย การบำรุงรักษาที่ง่าย ไม่ว่าจะพื้นที่ห้องน้ำที่กว้างขวางเป็นพิเศษ ทางเดินและประตูทางเข้าที่กว้างกว่าปกติ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันแบบ Fully-fitted และ Semi-decorated
ทั้งนี้ ในช่วงเปิดตัววันนี้ ถึง 31 พ.ค. 2565 ดิ แอส เพน ทรี จัดแคมเปญพิเศษ “Best Friends Forever” มอบส่วนลดสูงสุด 2.1 ล้านบาท และสิทธิพิเศษสำหรับผู้แนะนำ
“เดอะ ฟอเรสเทียส์” ตั้งอยู่ในพื้นที่ศักยภาพระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีองค์ประกอบพื้นที่เชิงพาณิชย์ และพื้นที่ส่วนกลางจำนวนมากที่มุ่งเน้นเรื่องการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีและการมีสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพ สำหรับ โครงการที่พักอาศัยใน เดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้แก่ “มัลเบอร์รี โกรฟ” คอนโดมิเนียมแบบ low-rise จำนวน 6 อาคาร มีห้อง 16 แบบ ขนาด 63-1,027 ตารางเมตร “มัลเบอร์รี โกรฟ” บ้านสไตล์คลัสเตอร์โฮม รองรับครอบครัวใหญ่หลากหลายเจนเนเรชั่น จำนวน 37 หลัง 3 ขนาด 4-6 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 1,000-1,600 ตารางเมตร
คอนโดมิเนียมแบรนด์ “วิสซ์ดอม” แบบ high-rise 3 เจาะคนเริ่มต้นทำงาน วัยสร้างครอบครัว ครอบครัวใหม่ และคนรักสัตว์เลี้ยง มีห้อง 7 แบบ ขนาด 35-205 ตารางเมตร
"ดิ แอสเพน ทรี" โครงการที่พักอาศัยแบบ Holistic Lifetime Care มีทั้งคอนโดมิเนียม และ Sky Villa Residence และแบรนด์ “ซิกส์เซนส์” วิลล่าระดับซูเปอร์ ลักชัวรี ที่บริหารและจัดการโดยซิกส์เซนส์แบรนด์เซอร์วิสระดับโลก
ปัจจุบัน ที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์ต่างๆ ในโครงการ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” มียอดขายกว่า17,200 ล้านบาท ราว 40% ของที่อยู่อาศัยทั้งหมด