6 ผู้นำพรรค ชี้ ’อนาคต’ ประเทศ ในงาน THAILAND FUTURE
เนชั่น กรุ๊ป จัดงานดินเนอร์ทอล์ค ในหัวข้อ THAILAND FUTURE วานนี้ (28 มิ.ย.) โดยเชิญผู้นำพรรคการเมือง 6 พรรค ร่วมแสดงวิสัยทัศน์อนาคตของประเทศไทย ก้าวผ่านวิกฤตซ้อนวิกฤต ทั้งโควิดและผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประเด็นทางการเมืองมี 3 เรื่องที่พรรคการเมืองต้องทำ 1.พรรคการเมืองต้องนำพาประเทศไปสู่ประชาธิปไตย และคำว่าประชาธิปไตยจะต้องเป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 2.พรรคการเมืองต้องไม่แบ่งสี แบ่งฝ่าย ต้องทำเพื่อทุกคน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง หรือครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง
3.พรรคการเมืองต้องทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เมื่อไหร่ที่พรรคการเมืองบริหารประเทคแล้วโกง จะเป็นเงื่อนไขนำไปสู่การรัฐประหาร
ส่วนประเด็นทางเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ มี 5 ประเด็นที่พร้อมจะขับเคลื่อน 1.เน้นการสร้างเงิน และกระจายเม็ดเงินลงสู่ระบบ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ 2.ต้องทันโลก ทันสมัย 3.สร้างคนและพัฒนาคน 4. การเดินหน้าช่วยเหลือเกษตรกร และ 5.โครงการประกันรายได้ต้องเดินหน้าต่อ
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า เราต้องมาสร้างจุดแข็งให้ประเทศไทย ซึ่งประเทศมีความอุดมสมบูรณ์ถึง 10% ของประเทศ ทำให้ประเทศไทยพร้อมที่จะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของโลก แต่เราต้องหาสิ่งใหม่มาสร้างจุดแข็งให้ประเทศไทย โดยการนำเทคโนโลยีการเกษตร มาบวกกับปราชญ์ชาวบ้าน
ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนามีแนวคิดเกษตรสีเขียว มีแนวคิดทำคาร์บอนเครดิต และนำเทคโนโลยีบล็อกเซนที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมมาทำ “กรีนคอยส์” นี่คือแนวคิดที่จะทำให้ประเทศไทยเข้มแข็งขึ้น
ส่วนนางศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า หากไม่มีการปฏิรูปภาครัฐ ไม่มีทาที่งเศรษฐกิจไทยจะเดินหน้าได้ นโยบายต้องกระจายอำนาจผ่านท้องถิ่น เพื่อระเบิดพลังทางเศรษฐกิจ เพื่อทำให้ประชาชนรากหญ้าสามารถลืมตาอ้าปากได้ รัฐต้องสามารถปรับตัวยืนหยุ่นได้ ไม่ใช่รัฐที่แข็งอยู่แบบนี้
ที่ผ่านมาเอกชนติดกับดักภาครัฐ ไม่สามารถขยายทุนของตัวเองให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ดังนั้น เราต้องรื้อโครงสร้างภาครัฐเสียก่อน เพื่อเป็นก้าวแรกที่จะเติมเต็มศักยภาพให้ประชาชนได้
นายกรณ์ จาติวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า มาตรการด้านนโยบายที่อิงกับความคิดในอดีตใช้ไม่ได้แล้ว ปริมาณแรงงาน ทุน ที่ดิน ทักษะ ไม่เพียงพอแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ในวันนี้คือนวัตกรรม อนาคตของประเทศไทยต้องพึ่งพานวัตกรรม ต้องทำธุรกิจเชิงนวัตกรรม เราต้องสร้างนวัตกรรมด้วยการศึกษาที่ดีขึ้น มีบุคลากรที่ฝึกฝนมาอย่างดี ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้หากระบบราชการแบบปัจจุบันยังอยู่ เราต้องนำระบบราชการเข้าสู่ดิจิทัล ขอให้ระบบราชการอยู่ในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะทำให้ลดต้นทุน และมีความโปร่งใสที่ตรวจสอบได้
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า 30 ปีทางการเมือง ไม่เคยเห็นประเทศตกต่ำเท่าวันนี้ ซึ่งหนี้สินของประเทศสูงมาก โดยเกิดจากแนวคิดอำนาจนิยม ซึ่งต้องแก้ไข เราใช้เงินมากขึ้น มีโครงการประชานิยมแจกเงินแบบไม่มีประสิทธิภาพ ใช้งบประมาณ ใช้อำนาจรัฐ ในการซื้อเสียงล่วงหน้า
ที่ผ่านมา รัฐราชการออกแต่กฎระเบียบมากมาย คนประกอบอาชีพมีกฎเกณฑ์มากมายเป็นอุปสรรค จึงต้องปรับเปลี่ยนเป็นรัฐประชาชน ลดการออกกฎเกณฑ์ ซึ่งมีแต่เจ้าสัวขนาดใหญ่เท่านั้นที่มีแต่ได้ นอกจากนี้เราต้องแก้กติกา คือ รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
และนายอุตตม สาวนายน ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวว่า รากเหง้าของปัญหาอยู่ที่โครงสร้างของประเทศที่ไม่ทันโลก ไม่สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ และมีโครงสร้างรัฐราชการ ที่ไม่สามารถสนองตอบประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และโครงสร้างทางการเมืองที่ประชาชนตั้งคำถามว่า หากไม่มีการปฏิรูปจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา
เวลานี้จึงอยากเชิญชวนมาร่วมกันสร้างอนาคตประเทศไทย ที่สามารถพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ มีขีดความสามารถสร้างการแข่งขันให้ทันกับโลก เราต้องร่วมกันนำประเทศฝ่าวิกฤติครั้งนี้ให้ได้ สร้างความเข้มแข็งให้ระบบใหม่ และต้องได้รับความยุติธรรมในทุกมิติของการดำเนินชีวิต
ผมขอเสนอ 5 สร้างของพรรคสร้างอนาคตไทย 1.สร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง 2.พัฒนาภาคอุตสาหกรรม ประเทศไทยต้องเข้าสู่ดิจิทัล ยกเครื่องอุตสาหกรรม 3.สร้างสังคมที่เป็นธรรมและเกื้อกูล 4.สร้างคนและวิทยาการ 5.สร้างการเมืองที่สร้างสรรค์ ไม่สร้างความร้าวฉาน”