‘ช้างดาว-ห่านคู่’ รวมตัวเฉพาะกิจ ออกสินค้าพิเศษ สร้างกระแสจับตลาดเจนวาย
ครั้งแรกในรอบ 69 ปี 2 แบรนด์ระดับตำนาน "ช้างดาว-ห่านคู่" ออกสินค้า Legendary Edition 10,000 ชุด ขายออนไลน์ผ่านไปรษณีย์ไทย หวังสร้างกระแสจับตลาดเจนวาย
เมื่อวันที่ 29 มี.ค.65 ที่สามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพฯ บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตรองเท้าช้างดาว และบริษัท โรงงานไทยแลนด์นิตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตเสื้อยืดห่านคู่ 2 แบรนด์ในตำนานวงการสินค้าเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายในประเทศไทยร่วมจับมือสร้างปรากฏการณ์เปิดตัวสินค้าใหม่ซึ่งผลิตร่วมกัน
ดร.จักรพล จันทวิมล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตรองเท้าช้างดาว กล่าวว่า หากนึกถึงเสื้อยืดสีขาวของคนไทย เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงเสื้อยืดตราห่านคู่เป็นอันดับแรก และหากนึกถึงรองเท้าแตะที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน ก็คือ รองเท้าแตะตราช้างดาว โดยทั้ง 2 แบรนด์เป็นสินค้ายอดนิยมที่อยู่คู่คนไทยมานานถึง 69 ปี มีจุดกำเนิดทางธุรกิจในปีเดียวกัน และผลิตสินค้าให้คนไทยใช้งานมากกว่า 100 ล้านชิ้น
ดร.จักรพล จันทวิมล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด
ทั้งนี้ ล่าสุด ห่านคู่ และช้างดาว ได้มีการคอลแลปทำสินค้าชุดพิเศษขึ้นมา โดยแนวคิดนั้นเริ่มต้นจากความบังเอิญที่ทั้ง 2 แบรนด์มีความเหมือนกันในหลายสิ่งอย่างน่าประหลาดใจ ตั้งแต่ผู้ก่อตั้งเป็นชาวจีนเหมือนกัน เข้ามาทำงานในเมืองไทย ผลิตสินค้าเครื่องแต่งตัวเหมือนกัน รวมถึงประสบความสำเร็จในช่วงเวลาเดียวกัน ผ่านประสบการณ์ อุปสรรคมามากมาย จนวันนี้สามารถสร้างเรื่องราวความประทับใจในเส้นทางของตนและยังคงเป็นสินค้ายอดนิยมคู่คนไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
โดยทีมนักออกแบบจึงตีโจทย์ออกมาโดยมุ่งเน้นผลิตสินค้าที่ยังให้ความรู้สึกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของทั้ง 2 แบรนด์ แต่สร้างตราสินค้าใหม่ในแบบพิเศษ ที่เน้นลายเส้นเฉพาะตัวของ ช้างดาวและห่านคู่ ให้อยู่ร่วมกันอย่างลงตัว สร้างแนวคิดการแต่งตัวในแบบเหนือกาลเวลา เหมือนย้อนกลับไปในสมัยยุค 5 ย. ตั้งแต่ผมยาว สะพายย่าม ใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ สวมรองเท้ายาง
นายคุณากร ธนสารสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงงานไทยแลนด์นิตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตเสื้อยืดห่านคู่ กล่าวว่า ทั้ง 2 แบรนด์ได้ร่วมกันทำสินค้ารุ่นพิเศษโดยนำสัญลักษณ์ของทั้ง 2 ฝั่งมาจัดวางในสินค้าของตัวเอง ได้แก่
1. เสื้อห่านคู่ รุ่นช้างดาว: เสื้อยืดคอกลมห่านคู่คลาสสิก สีขาว มาพร้อมกับลายพิมพ์พิเศษ “ช้างดาว : ห่านคู่” พร้อมระบุหมายเลขประจำเสื้อ ตั้งแต่ 00001 – 10000 ผลิตจาก ผ้า Cotton คุณภาพดี 100% ปราศจากสารระคายเคือง ใส่สบาย เนื้อผ้าบางเบา ซับเหงื่อและระบายความร้อนได้ดี ฝีเข็มละเอียด ใส่นานทนทาน
2. รองเท้าแตะช้างดาว รุ่นห่านคู่: รองเท้าแตะหูคีบช้างดาวคลาสิก รุ่น 200 พื้นสีเขียวห่านคู่ และหูสีน้ำเงินดั้งเดิมพร้อมกับลายพิเศษ “ห่านคู่” ผลิตจากยางธรรมชาติ 100% มีความยืดหยุ่น ทนทาน สวมใส่สบายเท้า
3. กระเป๋าย่ามช้างดาว: ห่านคู่ กระเป๋าย่ามที่ถูกออกแบบร่วมกันของช้างดาวและห่านคู่ โดยใช้ผ้าจากรองเท้านันยางและผ้าด้านในจากห่านคู่ มีช่องพิเศษสำหรับใส่เสื้อยืดและรองเท้าแตะโดยเฉพาะ เพิ่มความพิเศษให้กับภารกิจนี้อย่างลงตัว
"กลุ่มลูกค้าเสื้อยืดห่านคู่มีทุกเจนเนอเรชั่น แต่กลุ่มลูกค้าหลักก็คือกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ ซึ่งมีความผูกพันกับแบรนด์ การมาร่วมมือกันกับแบรนด์ช้างดาวในครั้งนี้ จะช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น ช่วยขยายกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเจนเนอเรชั่นวาย และกลุ่มเจนฯ Z ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่รู้จักแบรนด์แล้ว เห็นสินค้าเรามานานผ่านญาติพี่น้อง แต่ยังไม่เคยซื้อเป็นเข้าของ การทำตลาดโดยการร่วมมือกันเช่นนี้จะช่วยสร้างการรับรู้ว่า ความเก๋าบวกกับความเก๋ามันเจ๋งแค่ไหน" นายคุณากรกล่าว
ทั้งนี้สินค้าทั้งหมดจะผลิตจำนวน 10,000 ชุด โดยมีรหัสประจำเสื้อทุกตัว ตั้งแต่ 00001 – 10000 เพื่อเป็นที่ระลึกให้กับผู้ร่วมประสบการณ์พิเศษในครั้งนี้อีกด้วย
สำหรับช่องทางการขายสินค้ารุ่นพิเศษ ช้างดาวและห่านคู่ 10,000 ชุดผ่านไปรษณีย์ไทย โดย 1 ชุดประกอบด้วย เสื้อยืด รองเท้าแตะ และกระเป๋าย่าม จำหน่ายราคาชุดละ 990 บาท (ไม่มีค่าจัดส่ง) สามารถสั่งซื้อได้ทาง www.Thailandpostmart.com เริ่มจำหน่ายวันที่ 29 มี.ค.65 ตั้งแต่เวลา 19.53 น.เป็นต้นไป
สำหรับความเหมือนระหว่างแบรนด์ช้างดาวกับแบรนด์ห่านคู่ ได้แก่
1.เริ่มต้นธุรกิจก้าวแรกพร้อมกันในปี 2496
2. มีถิ่นกำเนิดของสินค้าที่มาจากเกาะด้วยกันทั้งคู่ ช้างดาวมาจากเกาะสิงคโปร์ และห่านคู่มาจากเกาะฮ่องกง
3. ทั้ง 2 แบรนด์เป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่มีอายุ 69 ปีเท่ากัน
4. ถูกกล่าวขานถึงมากที่สุดในยุค 5 ย. และคงกระแสนิยมสูงสุดถึงปัจจุบัน
5. ใช้วัตถุดิบหลักจากธรรมชาติในกระบวนการผลิต ช้างดาวผลิตจากยางพาราธรรมชาติแท้ 100% และห่านคู่ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%
6. มีจำนวนสินค้าในตลาดรวม 8 รุ่นเหมือนกัน
7. มีแฟนคลับหลากหลายช่วงวัยตั้งแต่เด็ก 4 ขวบ ถึงวัยเก๋า 80 ปี
8. ครองความเป็นเบอร์ 1 ของตลาดเหมือนกัน
9.มีเป้าหมายที่จะอยู่คู่แฟนคลับชาวไทยไปถึง 100 ปี