สศอ. เผยดัชนี MPI ก.พ. โต 2.75% สศอ.คาดภาพรวมปี 65 ขยายตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน
สศอ. เผย ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม เดือน ก.พ. ขยายตัว 2.75% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดปี 65 ขยายตัวร้อยละ 3.5 – 4.5 พร้อมจับตาสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนอย่างใกล้ชิด
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมไทยขยายตัวใกล้เคียงกับช่วงก่อนหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 อยู่ที่ 102.00 เพิ่มขึ้น 2.75% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนด้านอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 64.80%
ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้ประมาณการ MPI ปี 2565 ขยายตัว 3.5 – 4.5% และ GDP ภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 2.2 - 3.2%
“เศรษฐกิจภายในประเทศกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้น หลังการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง รวมถึงการสนับสนุนผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของภาครัฐและการเปิดประเทศ ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมได้รับคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่องและการส่งออกขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ดังนั้น สศอ. จึงได้ประมาณการภาพรวมเศรษฐกิจอุตสาหกรรมปี 2565 ขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน"
อย่าไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในรัสเซียและยูเครนที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ส่งผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับสูงขึ้น ก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อขึ้น โดยในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า การผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดและนโยบายการเปิดประเทศส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ทำให้อุปสงค์ในประเทศทยอยฟื้นตัว สะท้อนได้จากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียม
ถึงแม้ผู้ประกอบการจะเผชิญกับแรงกดดันจากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาพลังงานและค่าขนส่ง ตลอดจนความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่ส่งผลต่อราคาวัตถุดิบนำเข้า
โดยภาพรวมผู้ประกอบการยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้ค่อนข้างดี สะท้อนได้จากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หมวดสินค้าอุตสาหกรรมเดือนกุมภาพันธ์เท่ากับเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยขยายตัวที่ 8.0% แม้ว่าราคาสินค้าและบริการหลายรายการจะปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก
สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ดัชนีผลผลิตส่งผลบวกในเดือน ก.พ. 2565 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่
น้ำมันปิโตรเลียม ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.88% จากผลิตภัณฑ์น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และน้ำมันเครื่องบิน เป็นหลัก โดยเป็นผลจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวแบบ test & go ส่งผลให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจใกล้ระดับปกติมากขึ้น การเดินทางที่เพิ่มขึ้นทำให้ความต้องการน้ำมันขนส่งเพิ่มสูงขึ้น
เบียร์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 40.94% จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้การบริโภคค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงตัวแทนจำหน่ายเร่งสต๊อกสินค้าสำหรับจำหน่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.18% จากความต้องการสินค้าในตลาดโลกที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ายังมีปัญหา Supply Shock ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ส่งผลให้มีการขาดแคลนชิปในตลาดโลก
ยานยนต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.22% จากผลิตภัณฑ์รถบรรทุกปิคอัพ รถยนต์นั่งขนาดกลาง และเครื่องยนต์ดีเซล เป็นหลัก โดยขยายตัวทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก หลังผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดและกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจใกล้เคียงในระดับปกติ รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศผ่านโครงการต่าง ๆ ของรัฐ และสินค้าเกษตรหลายรายการให้ผลผลิตดีและมีราคาสูง
เสื้อผ้าสำเร็จรูป (ผ้าทอ) ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 23.26% จากผลิตภัณฑ์ชุดกีฬา เสื้อยืด และชุดชั้นใน เป็นต้น มาจากการขยายตัวของตลาดส่งออกและตลาดในประเทศ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกา