“เจ้าสัว” ขอพื้นที่สแน็คสไตล์ไทย เสิร์ฟข้าวตังมินิ ชิงแชร์ 5% ตลาด 40,000 ล.

“เจ้าสัว” ขอพื้นที่สแน็คสไตล์ไทย เสิร์ฟข้าวตังมินิ  ชิงแชร์ 5% ตลาด 40,000 ล.

“เจ้าสัว ข้าวตังมินิ” เปิดเซ็กเมนต์ใหม่ ดันมูลค่าตลาดสแน็ค 40,000 ล้านบาท ให้ใหญ่ยิ่งขึ้น ทุ่ม 60 ล้านบาท ทำตลาดแบรนด์เจ้าสัว หวังสร้างการเติบโต 2 หลักต่อเนื่อง

นางสาว ณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เตียหงี่เฮียง (เจ้าสัว) จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ระบาด ทำให้คนไทยเดินทางน้อยลง และกระทบธุรกิจการจำหน่ายสินค้าของเจ้าสัว เพราะการซื้อของฝากต่างๆลดน้อยลง และทำให้ปิดช้อปบางส่วน จนปัจจุบันเหลือเจ้าสัวช็อปให้บริการ 80 สาขา แต่ภาพรวมบริษัทยังสร้างยอดขายเติบโตได้ 17%

สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจปีนี้ บริษัทจะใช้ 4 กลยุทธ์สร้างการเติบโต ได้แก่ 1. สินค้าเจ้าสัวจะเป็นส่วนหนึ่งในพฤติกรรมการรับประทานของผู้บริโภคในโอกาสต่าง ๆ เช่น กลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน ขนมอร่อยรองท้อง ขนมอร่อยเพลิน เป็นต้น 2.ขยายแบรนด์สู่ตลาดใหม่ รับเทรนด์ผู้บริโภครักสุขภาพ บริษัทจึงใช้วัตถุดิบที่ให้คุณค่าทางโภชนาการ และลดสัดส่วนวัตถุดิบที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับร่างกาย ซึ่งเน้นสินค้าใหม่ที่แตกต่างมาพร้อมคุณประโยชน์

3.เร่งการขยายตัวสู่ตลาดโลก เจาะกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนามหรือ CLMV ฮ่องกง จีน ยุโรป ออสเตรเลีย และสหรัฐฯซึ่ง ‘ข้าวตัง’ และสินค้ากลุ่มธัญพืชจะเป็นหัวหอกในการบุกตลาด ซึ่งปัจจุบันการส่งออกมีสัดส่วนยอดขายราว 15-20% และ 4.การสร้างองค์กรที่คล่องตัวยิ่ง ทำงานแบบ Agile working มีความสามารถด้านนวัตกรรมที่รวดเร็ว เพื่อรับพฤติกรรมของผู้บริโภค และการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนค่อนข้างรวดเร็ว พร้อมกันนี้ได้ดึงทีมงานรุ่นใหม่เสริมทัพด้วย

นอกจากนี้ ปี 2565 บริษัทยุ่งทุ่มงบ 60 ล้านบาท เพื่อทำตลาดสร้างการเติบโตให้แบรนด์เจ้าสัว ล่าุดได้พัฒนาสินค้าใหม่ “เจ้าสัว ข้าวตังมินิ” เข้าทำตลาด และจะผลักดันให้เป็นเซ็กเมนต์ใหม่ตลาดขนมขบเคี้ยว(สแน็ค)ด้วย เพื่อกระตุ้นให้ขนาดตลาดใหญ่ขึ้นด้วย จากที่ผ่านมารายงานหรือวิจัยตลาดต่างๆยังไม่นับข้าวตังเป็นสแน็ค มองเป็นเพียงสินค้าของฝาก ขนมขบเคี้ยวท้องถิ่นเท่านั้น

สำหรับตลาดสแน็คในประเทศไทยถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มากมูลค่าราว 40,000 ล้านบาท และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคในการทานสแน็คมองว่าไม่ได้มีแบรนด์ในใจมากนัก แต่เลือกทานเพราะโอกาส(Occasion) เป็นหลัก เช่น ทานช่วงเสพความบันเทิง รองท้อง เป็นต้น

ทั้งนี้ การทำตลาดเจ้าสัว ข้าวตังมินิ บริษัทตั้งเป้าจะสร้างการเติบโต 20% สอดคล้องกับภาพรวมของบริษัททั้งปีคาดจะเติบโตในอัตรา 2 หลัก ขณะที่ระยะยาว 3-5 ปี ต้องการผลักดันให้สินค้ามีส่วนแบ่งทางการตลาดในหมวดสแน็ค 5% 

“สแน็คเป็นสินค้าที่วัยรุ่น หรือผู้บริโภคอายุตั้งแต่ 18 ปี เริ่มรับประทานกันแล้ว ขณะที่เจ้าสัวกลุ่มลูกค้าหลักเดิมจะอายุ 25 ปีขึ้นไป การออกสินค้าสแน็คจึงช่วยขยายฐานสู่วัยรุ่น กลุ่มคนที่เด็กลงมา รวมถึงคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ที่สำคัญเราคาดหวังว่าการที่สแน็คข้าวตังเข้ามาทำตลาด จะส่งผลให้ตลาดสแน็คโดยรวมใหญ่ขึ้น เพราะจากเดิมเราขายสินค้าเป็นของฝาก แต่การทำตลาดครั้งนี้จะขยายช่องทางจำหน่ายให้กว้างขึ้นทั้งผ่านร้านค้าทั่วไป ห้างค้าปลีก ตลอดจนร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ”