สมาคมผู้ผลิตอาหารกระป๋อง ชงพาณิชย์ ขยายเวลาเว้นเก็บเอดี
สมาคมผู้ผลิตอาหารกระป๋อง ชงพาณิชย์ ขยายเวลาเว้นเก็บเอดี เหล็กทำกระป๋องอีก 6 เดือน ถึง พ.ย.65 หลังต้นทุนวัตถุดิบเหล็กทำกระป๋องพุ่ง บวกสงครามรัสเซีย-ยูเครนพ่นพิษ ทำเหล็กขาดแคลนหนัก
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานหอการค้าไทย และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ สมาคม ฯเตรียมทำหนังสือไปยังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเสนอขอขยายเวลาการชะลอการเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) สินค้าเหล็กสำหรับผลิตกระป๋อง คือเหล็กแผ่นเคลือบดีบุก (Tin Plate) และเหล็กแผ่นเคลือบโครเมียม (Tin Free Steel) ที่นำเข้าจาก จีน เกาหลี ไต้หวันและสหภาพยุโรปออกไปอีก 6 เดือน คือระหว่างเดือน มิ.ย.-พ.ย.2565 จากเดิมที่จะครบกำหนดเวลาผ่อนผันการชะลอเก็บในวันที่ 12 พ.ค.2565
ทั้งนี้เพื่อบรรเทาปัญหาภาระต้นทุนวัตถุดิบเหล็กม้วนที่ทำกระป๋องให้กับภาคอุตสาหกรรมอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นมาก จากปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมทั้งผลกระทบช่วงก่อนหน้ากรณีจีนลดกำลังการผลิต หากคิดเฉพาะผลกระทบกรณีจีนลดกำลังการผลิตยังไม่รวมผลกระทบกรณีสงคราม พบว่าในช่วง2ปีที่ผ่านมา เหล็กแผ่นเคลือบดีบุกราคาปรับเพิ่มขึ้น 88% โดยช่วงม.ค.2563 ราคานำเข้าอยู่ที่ 27,058 บาทต่อตัน และขยับขึ้นเป็น 51,015 บาทต่อตันช่วง ธ.ค.2564
ส่วนเหล็กแผ่นเคลือบโครเมียม ราคาปรับเพิ่มขึ้น 85% โดยช่วงม.ค.2563 ราคาอยู่ที่26415บาทต่อตัน และขยับขึ้นเป็น48790 บาทต่อตันช่วง ธ.ค.2564
นอกจากเหล็กแผ่นจะราคาแพงแล้ว ขณะนี้เริ่มขาดแคลนหนัก เพราะรัสเซียผู้ส่งออกรายใหญ่หยุดส่งออก ทำให้ผู้ใช้จากประเทศอื่นเข้ามาแย่งซื้อเหล็กในตลาดญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักของไทย ดันราคาให้สูงขึ้นต่อเนื่อง อยากให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามาช่วยดูแลต้นทุนให้ผู้ประกอบการ โดยชะลอการเก็บภาษีเอดีออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ และยังเป็นการช่วยดูแลเรื่องต้นทุนราคาอาหารสำเร็จรูปให้กับผู้บริโภคด้วย เพราะปัจจุบันอาหารกระป๋องมีสัดส่วนสูงถึง 70-80% ของสินค้าในอุตสาหกรรมอาหารทั้งหมด รวมทั้งยังช่วยรักษาความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมอาหารไทยด้วย