ศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่ จ่อดีเดย์ ก.ย.นี้ พร้อมรับ APEC 2022 ปักธงสร้างอีเวนท์แพลตฟอร์มใหม่แห่งเอเชีย
โฉมใหม่ "ศูนย์ฯ สิริกิติ์" จ่อดีเดย์ ก.ย.นี้ ออกแบบโมเดิร์นร่วมสมัย ผสมผสานความเป็นไทยและสากล เผย 5 ไฮไลท์ อัดแน่นด้วยศักยภาพสู่การเป็นอีเวนท์แพลตฟอร์มใหม่แห่งเอเชีย พร้อมรับ APEC 2022 ภายใต้แนวคิด "เปิดกว้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล"
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (Queen Sirikit National Convention Center หรือ QSNCC) ผู้ให้บริการด้านสถานที่จัดงานอีเวนท์และงานประชุมแห่งแรกของประเทศไทย ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนานกว่า 30 ปี และผ่านการจัดงานทั้งในระดับประเทศและนานาชาติมากกว่า 20,000 งาน พร้อมกลับมาให้บริการใหม่โดยตั้งเป้าสู่การเป็น "The Ultimate Inspiring World Class Event Platform for All" ที่เป็นมากกว่าศูนย์ประชุม
โฉมใหม่ "ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์"
การยกระดับศูนย์การประชุมสิริกิติ์เพื่อให้เป็นอีเวนท์แพลตฟอร์มใหม่แห่งภูมิภาคเอเชีย นับเป็นภารกิจสำคัญของทีมงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีรายละเอียดมาก ซึ่งนับตั้งแต่เริ่มดำเนินการพัฒนาโครงการในเดือนกันยายน 2562 ปัจจุบันการก่อสร้างมีความคืบหน้าแล้วกว่า 80% โดยได้เริ่มส่วนงานในเฟสสุดท้าย ที่เป็นส่วนของการตกแต่งโครงการ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "สืบสาน รักษา ต่อยอด" ซึ่งเป็นการสืบสานของเดิมที่มีอยู่เพื่อเป็นฐานความคิดในการพัฒนา รักษา และถ่ายทอดความเป็นไทยร่วมสมัยเหมาะกับเวทีโลก และต่อยอดภาพลักษณ์ใหม่ที่มีความโมเดิร์น เป็นสากลมากขึ้น ทำให้ผู้ที่มาเยือนศูนย์ฯ สิริกิติ์สามารถเข้าถึงความงดงามของสถาปัตยกรรมและงานศิลป์ที่สอดแทรกอยู่ทั่วบริเวณ
โดยทีมออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปวัฒนธรรมไทยและลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของผ้าไทย ซึ่งได้ถ่ายทอดไว้ในการออกแบบห้องประชุมและพื้นที่โดยรวม เพื่อสะท้อนความปราณีต วิจิตร บรรจง ผ่านองค์ประกอบสถาปัตยกรรม และการออกแบบแสงในพื้นที่ห้องจัดงาน ทำให้สถาปัตยกรรมของศูนย์ฯ สิริกิติ์ มีความเป็นเอกลักษณ์ งดงาม โดดเด่นไม่ซ้ำใคร
โฉมใหม่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ จะผสมผสานความเป็นไทยและความเป็นสากลให้เบลนด์เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัวและมีเสน่ห์ กล่าวคือมีความเป็นไทยโมเดิร์นมากขึ้น รับกับการเป็น Digital Age แต่ยังคงรักษาคุณค่าของคำว่า Heritage ไว้ได้อย่างครบถ้วน
นอกจากความโดดเด่นในงานสถาปัตยกรรมแล้วในแง่ศักยภาพ ศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่นี้สามารถรองรับการจัดงานประชุมและอีเวนท์ระดับเวิลด์คลาสได้ทุกรูปแบบอย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยพื้นที่รวมกว่า 3 แสนตร.ม.หรือใหญ่กว่าเดิม 5 เท่า มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคครบครัน รองรับได้ทั้งการจัดงานนิทรรศการ คอนเสิร์ต การประชุม งานสัมมนา และอีเวนท์ไฮบริด หลากหลายรูปแบบ โดยพื้นที่รองรับการจัดการประชุมและนิทรรศการ ประกอบด้วยฮอลล์ขนาดใหญ่ 2 ฮอลล์ ห้องจัดประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ 2 ห้อง และยังมีห้องประชุมย่อยอีกกว่า 50 ห้อง
การตกแต่งภายในที่ผสานความเป็นไทยและความเป็นสากลไว้อย่างลงตัว
การกลับมาครั้งใหม่นี้จะเป็นการกำหนดนิยามบทใหม่ของอุตสาหกรรมไมซ์ ด้วยความพร้อมทั้งด้านสถานที่ บริการ และประสบการณ์ในการจัดงานอีเวนท์ที่มีความชำนาญและเป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยหลังจากเปิดรับจองการจัดงานเมื่อเดือน ส.ค. ปีที่ผ่านมา ก็ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นจากผู้จัดงานระดับนานาชาติ ขณะนี้มีอีเวนท์จองใช้บริการต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 ที่เปิดให้บริการยาวข้ามไปจนถึงปีหน้า
ล่าสุด ศูนย์ฯ สิริกิติ์ได้รับความไว้วางใจจากคณะผู้จัดงานประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก ของรัฐบาลไทย รับเลือกให้เป็นพื้นที่จัดงาน APEC ประจำปี 2565 ในเดือน พ.ย.นี้ ต้อนรับผู้นำจาก 21 เขตเศรษฐกิจ ภายใต้แนวคิด "เปิดกว้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล" หรือ Open Connect Balance เป็นการประเดิมเปิดใช้ศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่เต็มรูปแบบ
ภายในศูนย์ฯ ยังมีพื้นที่รีเทลอีก 11,000 ตร.ม. ซึ่งเป็นการปรับใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 30% รวบรวมร้านค้าแบรนด์ชั้นนำทั้งร้านอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มอีเวนท์ซัพพอร์ต และกลุ่มแอคทีฟไลฟ์สไตล์ เตรียมรองรับผู้ใช้บริการ 13 ล้านคนต่อปี และบริเวณชั้น LG ยังเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินโดยตรง นอกจากนี้ยังเพิ่มที่จอดรถภายในอาคารกว่า 3,000 คัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้งแก่ผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงาน
พื้นที่รีเทล นับเป็นแหล่งรวม Active Lifestyle แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ตอบโจทย์คนเมืองทั้งกลุ่มครอบครัวและคนทำงาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Bangkok Active Lifestyle Mall (BALM) พร้อมที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ ด้วยการเป็นเดสติเนชั่นแห่งการสังสรรค์และดูแลสุขภาพควบคู่กัน
โดย ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โฉมใหม่ ประกอบด้วย 5 ไฮไลต์เด่นที่สร้างความแตกต่างและเป็นสุดยอดศูนย์ประชุมที่ดีที่สุดในประเทศไทย ได้แก่
- Accessibility ทำเลศักยภาพใจกลางเมืองบนถนนรัชดาภิเษก เชื่อมต่อแยกพระราม 4-รัชดา เข้าออกได้จาก 4 เส้นทางสำคัญของกรุงเทพฯ ได้แก่ ถนนพระราม 4 ถนนสุขุมวิท ถนนรัชดาภิเษก และ ถนนดวงพิทักษ์ พร้อมเชื่อมรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตรงถึงภายในศูนย์ฯ สิริกิติ์
- Safety ระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดตามมาตรฐานการดำเนินงานระดับสากล คำนึงถึงความปลอดภัยด้าน Life Safety เพื่อรองรับการจัดงานระดับโลกทุกรูปแบบ "Technology" ระบบโครงสร้างพื้นฐานรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในประเทศไทยรองรับได้ถึง 5G ในอนาคต สนับสนุนการจัดอีเวนท์รูปแบบออนไลน์และไฮบริดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อำนวยความสะดวกผู้จัดงานและผู้เข้าชมได้อย่างไร้ขีดจำกัด นอกจากนี้ ศูนย์ฯ สิริกิติ์ได้ติดตั้งระบบเข้าใช้งานพื้นที่แบบไร้สัมผัส และใช้ระบบบริหารอาคารอัจฉริยะ ในการควบคุมการให้บริการพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยขั้นสูงสุด
- Flexibility ศูนย์ฯ สิริกิติ์ได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างขั้นสูง Sliding Super Truss ในการติดตั้งโครงสร้างเหล็กที่รับน้ำหนักได้มาก ทำให้พื้นที่จัดงานของอาคารศูนย์ประชุมมีพื้นที่กว้างขวางและยืดหยุ่นสูงเพราะไม่มีเสาค้ำยัน จึงสะดวกต่อการจัดการระบบโลจิสติกส์และขนย้ายสินค้าจัดแสดงทุกประเภทเข้าในพื้นที่ในช่วงก่อนการจัดงาน รองรับการจัดประชุมและนิทรรศการหลากหลายรูปแบบได้พร้อมๆกัน
- Sustainability การก่อสร้างศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่นี้ เน้นการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า 25% และวัสดุที่นำไปรีไซเคิลได้มากกว่า 75% มีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และใช้อุปกรณ์อัตโนมัติเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและน้ำ ที่สำคัญเป็นศูนย์ประชุมแห่งเดียวที่ห้อมล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวผืนใหม่ล่าสุดของกรุงเทพฯ "สวนป่าเบญจกิติ" และเน้นการออกแบบอาคารเพื่อมุ่งสู่การรับรองตามมาตรฐานอาคารเขียว LEED ระดับ Silver
เตรียมนับถอยหลังการกลับมาของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในเดือนกันยายนปีนี้ ที่จะมาพร้อมกับรูปโฉมใหม่อัดแน่นด้วยศักยภาพการเป็นอีเวนท์แพลตฟอร์มที่รองรับการจัดงานทุกรูปแบบได้อย่างไร้ขีดจำกัด เสริมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร มาตรฐานทัดเทียมกับสถานที่จัดงานอีเวนท์ระดับโลกระดับนานาชาติ
ภาพถ่ายมุมสูง “ศูนย์ฯ สิริกิติ์” ที่ห้อมล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวของ "สวนป่าเบญจกิติ"
Bangkok Active Lifestyle Mall (BALM)