PTTEP ประสบความสำเร็จ ขายหุ้นกู้มูลค่า 1.2 หมื่นล้าน
PTTEP ประสบความสำเร็จในขายหุ้นกู้ แก่นักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ รวมเสนอขายหุ้นกู้และกรีนชูที่ 12,000 ล้านบาท โดยนำระบบ E-Bookbuilding มาใช้กำหนดอัตราดอกเบี้ย สนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนไทยให้ก้าวสู่สังคมดิจิทัล
นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า บริษัท ปตท.สผ. ศูนย์บริหารเงิน จำกัด
. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ได้เสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีผู้ค้ำประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มูลค่า 10,000 ล้านบาท ให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2565
โดยมียอดจองซื้อในช่วงเวลาที่เปิดให้นักลงทุนแสดงความจำนงในการจอง สูงถึง 2 เท่าของมูลค่าหุ้นกู้ที่เสนอขาย
บริษัทจึงตัดสินใจเพิ่มหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe option) อีก2,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ตอบแทนสม่ำเสมอท่ามกลางสภาวะตลาดที่ผันผวน รวมมูลค่าหุ้นกู้ที่เสนอขายสำเร็จในวันที่ 5 เมษายน 2565 ที่ 12,000 ล้านบาท
โดยหุ้นกู้ดังกล่าว แบ่งออกเป็น 3 ชุด ได้แก่ หุ้นกู้อายุ 5 ปี 7 ปี และ 10 ปี โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ ที่ 2.09% 2.69% และ 3.05% ต่อปี ตามลำดับ และการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ ปตท.สผ. เป็นผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ทั้งจำนวน
"แม้ว่า ปตท.สผ. จะเว้นจากการเสนอขายหุ้นกู้แก่นักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทยมานานกว่า 3 ปี แต่ยังคงได้รับความเชื่อมั่นและการตอบรับเป็นอย่างดี
โดยเงินที่ได้การระดมทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้เพื่อชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนดและเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงานในธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต" นายมนตรี กล่าว
ปตท.สผ. และบริษัทในกลุ่มยังคงความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนไทยให้ก้าสู่สังคมดิจิทัลจึงได้นำระบบสำรวจความต้องการซื้อตราสารหนี้แบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Bookbuilding) ที่พัฒนาโดยสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)มาใช้ในกระบวนการการกำหนดอัตราดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้ในครั้งนี้
ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญให้ผู้ออกหุ้นกู้พิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้ง สามารถแจ้งผลการจัดสรรไปยังผู้ลงทุนได้อัตโนมัติ นับเป็นอีกก้าวของการนำเทคโนโลยี มาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงานและการประมวลผลข้อมูลสำหรับธุรกรรมในตลาดทุนไทย
ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้ขึ้นทะเบียนกับสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยและได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ระดับ "AAA" ซึ่งถือเป็นอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุดของประเทศจากบริษัท ทริสเรทติ้งจำกัด
โดยมีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้