“อาคม”เร่งปฎิรูปภาษีนำรายได้ฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด
“อาคม”เสนอในเวทีเสวนารัฐมนตรีคลังอาเซียนระบุ การเร่งปฏิรูปภาคการคลัง โดยเฉพาะการปฏิรูปโครงสร้างภาษี จะเป็นแนวทางเพิ่มรายได้ให้ภาครัฐนำมาฟื้นฟูเศรษฐกิจยุคหลังโควิด
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าร่วมการเสวนาหัวข้อ “การเงินยั่งยืน:การระดมทรัพยากรทางการเงินเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจยุคหลังโควิด-19” ที่จัดขึ้นในช่วงเดียวกับการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน (ASEAN Finance Ministers’ Meeting: AFMM) ครั้งที่ 26
และการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน (ASEAN Finance Ministers’ and Central Bank Governors’ Meeting: AFMGM) ครั้งที่ 8 ที่มีราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ ประจำปี 2565 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน และผู้แทนจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank: AIIB) ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) และธนาคารโลก เข้าร่วม
โดยในการเสวนาได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นทางเศรษฐกิจและแนวทางในการระดมทรัพยากรภายในประเทศ (Domestic Resource Mobilisation: DRM) ผ่านกลไกการเงินที่ยั่งยืนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจยุคหลังโควิด-19
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ โดยได้กล่าวถึงความสำคัญในการปฏิรูปด้านการคลัง โดยเฉพาะการปฏิรูปภาษีเพื่อเป็นแหล่งรายได้ให้รัฐบาลใช้ดำเนินการโครงการต่างๆ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจยุคหลังโควิด-19 โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสในการจัดเก็บภาษี ซึ่งไทยได้ผลักดันให้มีการศึกษาประเด็นดังกล่าวภายใต้กรอบ AFMM รวมถึงเห็นชอบแนวคิดของ ADB ในการจัดสัมมนาในหัวข้อการระดมทรัพยากรภายในประเทศ เพื่อสร้างองค์ความรู้ให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้กล่าวถึงการดำเนินการของไทยในการส่งเสริมการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) อาทิ การออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการระดมทุน เพื่อนำไปใช้ในโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเป็นประโยชน์ต่อสังคม เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โครงการเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของวิกฤตโควิด-19 เป็นต้น ซึ่งรัฐบาลจะได้ส่งเสริมให้รัฐวิสาหกิจมีการออกผลิตภัณฑ์ด้านการเงินเพื่อความยั่งยืนเพิ่มเติมอีกด้วย
นอกจากนี้ นาง Sri Mulyani Indrawati รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสาธารณรัฐอินโดนีเซีย นาย Lawrence Wong รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสาธารณรัฐสิงคโปร์ รวมถึงผู้แทนจาก AIIB และธนาคารโลก ได้กล่าวถึงความสำคัญของการปฏิรูปภาษีเพื่อเป็นแหล่งรายได้ของรัฐบาลในการสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึง ความสำคัญในการระดมทุนร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อเติมเต็มอุปสงค์ในการจัดหาเงินทุนเพื่อสนับสนุนโครงการด้านการเงินที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ การเสวนาดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการหารือในภูมิภาคอาเซียน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการระดมทรัพยากรภายในประเทศและด้านการเงินที่ยั่งยืนต่อไป
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565 ได้มีการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน ซึ่งมีผลการประชุมสรุปได้ ดังนี้
1. การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน (ASEAN Finance and Central Bank Deputies’ Meeting: AFCDM) ซึ่งมีนายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงการคลัง ได้เป็นผู้แทนกระทรวงการคลังเข้าร่วมการประชุม โดยที่ประชุมได้รับทราบถึงความคืบหน้าและแผนการดำเนินงานของปี 2565 – 2566 ของแผนการรวมตัวทางการเงินการคลังอาเซียน (Roadmap for Monetary and Financial Integration of ASEAN: RIA-Fin) ใน 6 ประเด็นหลัก
ซึ่งได้แก่ (1) การเปิดเสรีบัญชีทุนเคลื่อนย้าย (2) การพัฒนาตลาดทุน (3) การเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน (4) การรวมตัวภาคการธนาคารอาเซียน (5) การเข้าถึงบริการทางการเงิน และ (6) ระบบการชำระเงินและธุรกรรมทางการเงิน โดยเน้นการดำเนินงานที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น พร้อมกับการพัฒนาให้เป็นมาตรฐานเดียวกันในอาเซียน
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าด้านความร่วมมือด้านการเงินที่ยั่งยืนในอาเซียน (ASEAN Sustainable Finance Cooperation) โดยเฉพาะการจัดทำเกณฑ์การจัดหมวดหมู่ด้านการเงินที่ยั่งยืนของอาเซียน (ASEAN Taxonomy) ซึ่งจะได้นำเสนอต่อที่ประชุม AFMGM ในวันที่ 8 เมษายน 2565 ต่อไป
ทั้งนี้ ผู้แทนกระทรวงการคลังได้แสดงความชื่นชมต่อความสำเร็จของการดำเนินงานของคณะทำงานการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน (Working Committee on Financial Services Liberalisation: WC-FSL) ของอาเซียน และได้สนับสนุนให้ประเทศสมาชิกอาเซียนลงนามในร่างพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงินภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน (ASEAN Framework Agreement on Services: AFAS) ฉบับที่ 9 ในโอกาสแรกต่อไป
2. การประชุมระหว่างกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาและเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน โดยที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินการคลังในการฟื้นฟูเศรษฐกิจในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจ เช่น การแพร่ระบาดของโควิด-19 สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และสถานการณ์เงินเฟ้อ เป็นต้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางในการส่งเสริมการเงินที่ยั่งยืนที่จะเป็นประเด็นสำคัญในการพัฒนาและผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมต่อไปในอนาคต รวมถึง แนวนโยบายด้านสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency) และแนวทางการกำกับสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งนี้ ผู้แทนกระทรวงการคลังได้แสดงข้อคิดเห็นในประเด็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีอากรด้วย
การประชุมในวันที่ 7 เมษายน 2565 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการร่วมมือกันของประเทศสมาชิกอาเซียนและองค์การระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการเงินของภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงหลังยุคโควิด-19 และให้ความสำคัญกับประเด็นด้านการส่งเสริมการเงินที่ยั่งยืน เพื่อให้การเติบโตทางเศรษฐกิจเดินหน้าไปพร้อม ๆ กับการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ การประชุมจะดำเนินต่อไปในวันที่ 8 เมษายน 2565 ซึ่งจะมีการนำเสนอความคืบหน้าในประเด็นต่าง ๆ ต่อการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ การประชุมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียนกับสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (ASEAN Finance Ministers and Central Bank Governors Special Session with International Financial Institutions) การประชุม AFMGM ครั้งที่ 8 และการประชุม AFMM ครั้งที่ 26
โดยจะมีการหารือในประเด็นสำคัญ อาทิ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและภูมิภาคอาเซียน การดำเนินการตามแผนงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ค.ศ. 2025 และการติดตามความคืบหน้าของหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนอาเซียน รวมถึงการพิจารณาให้การรับรองประเด็นสำคัญต่าง ๆ ภายใต้ความร่วมมือทางด้านการเงินอาเซียนต่อไป