แม่ค้าสงขลาวอนรัฐลดเงื่อนไข ‘ผ่าน’ ด่านสะเดา
เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าชายหาดสมิหลา ฝากถึงรัฐบาล ขออ้อนวอน วิงวอน ขอความกรุณาช่วยเรื่องลดค่าส่วนต่างค่าเหยียบแผ่นดินที่ยังสูง 6,000- 7,000 บาท ถ้าตีเป็นเงินไทย
เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าชายหาดสมิหลา ฝากถึงรัฐบาล ขออ้อนวอน วิงวอน ขอความกรุณาช่วยเรื่องลดค่าส่วนต่างค่าเหยียบแผ่นดินที่ยังสูง 6,000- 7,000 บาท ถ้าตีเป็นเงินไทย นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเขาก็บอก ทำให้เข้าใจแล้วว่า ทำไมเราไม่ค่อยเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเลย เพราะเราอยู่กับนักท่องเที่ยว เพราะมันคือหัวใจหลักของชาวใต้ที่อยู่ติดชายแดนมาเลเซีย เราไม่สามารถทำธุรกิจเดินต่อไปได้และประเทศเราก็ไม่ได้กระเตื้องอะไรมากมายก็หลักๆของเราก็คือขายความเป็นไทยที่มี ถ้าเราลดค่าส่วนต่างตรงนี้ได้ผลตอบแทน ที่จะเข้ามาจะได้ดี ได้มากกว่านี้
นางณิชามล ชูมนุษย์ เจ้าของร้านณัชชาของฝาก บริเวณชายหาดสมิหลาสงขลากล่าวว่า สำหรับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ที่เปิดด่านพรหมแดนสะเดามา ทางร้านได้มีชาวต่างชาติที่มาซื้อของที่ร้านเพียงแค่ 2 รายและมีปัจจัย 2 อย่างที่เราได้รับรู้มา ปัจจัยแรกอาจจะเป็นค่าส่วนต่างที่เข้ามาในประเทศไทยค่อนข้างที่จะสูงนิดนึง ประเด็นที่ 2 อยู่ในช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งเราก็คิดและปลอบใจตัวเองว่าหลังจากนี้อาจจะดีขึ้น แต่ที่เราคิดตรงนี้ก็คือ ค่าส่วนต่าง การที่เขาเข้ามาในประเทศไทยและมีค่าส่วนต่างถึงจะเป็นหลักพัน แต่มันก็เยอะสำหรับต่อหัว ตรงนี้อยากให้แค่ช่วยว่า ปรับปรุงเรื่องตรงนี้หน่อย จะทำให้เศรษฐกิจบ้านเราดีขึ้นมากเลย ถ้าหากว่าส่วนต่างไม่เยอะถึงขนาดนั้น
สำหรับส่วนต่างที่เราได้รับรู้มาก็คือ 5,000- 6,000- 7,000 บาท ถ้าตีเป็นเงินไทยแล้วแต่ เพราะว่ามันต้องเข้าสแกน ไม่ได้กักตัว แต่ก็มีการตรวจระบบของเขาที่ทางด่านต้องทำ แต่เราได้รู้ราคามาจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาที่เราเจอ2วันที่ผ่านมา เขาก็บอก เราก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเราไม่ค่อยเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเลย
ถ้าเป็นไปได้ ถ้าทำได้ แต่ก็รู้ว่ามันยาก แต่ก็อยากให้ช่วยโดยอยู่ที่ 1,000 - 2,000 บาท จะดูดีมาก หรือไม่ก็ไม่มีเลย อันนี้สำหรับพวกแม่ค้าและนักท่องเที่ยวที่พูดกันเมื่อก่อนที่เขาเข้ามาค่าเหยียบแผ่นดิน มันก็ไม่เท่าไหร่เอง แต่ตอนนี้ค่าเหยียบแผ่นดินและค่าสแกนค่านู่นนี่นั่นอีกรวมแล้วอยู่ประมาณ 6,000 -7,000 บาทที่นักท่องเที่ยวต้องรับต่อหัว ซึ่งชาวมาเลเซียเงินเขากับเงินเราก็ไม่ได้ต่างกันเพราะแลกแล้วก็คือเกือบหมื่น ยังไม่รวมค่าที่พัก ค่ากิน ค่าน้ำมันอีก ที่เข้ามามันยาก ที่เศรษฐกิจบ้านเราจะกระเตื้องขึ้น ถ้ายังเป็นอยู่แบบนี้ อีกอย่างหนึ่งก็คือเราต้องดูหลังจากเดือนรอมฎอนแล้ว ก็คิดว่า ชาวมาเลเซียก็จะมีส่วนหนึ่งที่เขามีกำลังในการเข้ามาแต่อาจจะไม่เยอะเหมือนเราคนไทยที่มีกำลังเข้าไปในมาเลเซียแต่ก็ไม่เยอะ มันแค่กระตุ้นไม่กี่เปอร์เซ็นต์ในความคิดของแม่ค้าไม่กี่เปอร์เซ็นต์อย่างน้อยที่เราเห็น เอาเต็มที่เลยต่อวัน 5-6 คนที่เราคิดไว้
ฝากถึงรัฐบาล ขออ้อนวอน วิงวอน ขอความกรุณาช่วยเรื่องนี้ เพราะมันคือหัวใจหลักของชาวใต้ที่อยู่ติดชายแดนมาเลเซีย เพราะเราอยู่กับนักท่องเที่ยว เราอยู่กับชาวสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไน หากค่าส่วนต่างยังสูง เราก็ไม่สามารถทำธุรกิจเดินต่อไปได้อย่างสวยงามและประเทศเราก็ไม่ได้กระเตื้องอะไรมากมายก็หลักๆของเราก็คือขายความเป็นไทยที่มี ถ้าเราลดตรงนี้ได้ผลตอบแทนที่จะเข้ามาจะได้ดี ได้มากกว่านี้