เปิด จ.ม. “ไฮเน็คกี้” บิ๊กไมเนอร์ ถึง “ประยุทธ์” จี้ยกเลิก “ไทยแลนด์พาส” ด่วน!
เปิดจดหมายจาก “ไฮเน็คกี้” บิ๊กบอสแห่งเครือไมเนอร์ อินเตอร์ฯ ถึงนายกฯ “ประยุทธ์” แนะรัฐบาลยกเลิกระบบ “ไทยแลนด์พาส” และมาตรการ “Test & Go” ด่วน เร่งฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ แข่งกับนานาประเทศที่ประกาศ “เปิดประเทศเต็มรูปแบบ”
นายวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT กล่าวในหนังสือยื่นถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 18 เมษายน 2565 ว่า แม้สำนักข่าวต่างๆ จะรายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้น ภายหลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการยกเลิกการตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย แต่กระนั้นผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเดือนเมษายนนี้มีจำนวนเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 11,623 คน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ยังน้อยมาก เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยต่อวันจำนวนกว่า 50,000 คนในเดือนเมษายน 2563
ถึงแม้ว่าจะมีการยกเลิกการแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย แต่ผู้เดินทางยังต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว และต้องทำการจองและชำระเงินค่าที่พักในโรงแรม 1 คืน อีกทั้งยังต้องซื้อประกันสุขภาพ เพื่อขอรับวีซ่าและหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย (Thailand Pass) นั่นหมายถึงว่า ผู้เดินทางต้องผ่านกฎระเบียบหลายๆ ขั้นตอนกว่าจะเดินทางเข้าประเทศไทยได้
เนื่องจากสถานการณ์ของการเดินทางในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนต่างๆ ทำให้นักท่องเที่ยวต้องการความยืดหยุ่นในการวางแผนการเดินทาง มาตรการใดๆ ที่มีเงื่อนไขเพิ่มเติมหรือมีข้อจำกัดด้านการเดินทางจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจเดินทางเข้าประเทศนั้นๆ ดังนั้นเราจึงเห็นหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีเศรษฐกิจพึ่งพาการท่องเที่ยวจากต่างชาติ ได้ยกเลิกมาตรการเกี่ยวกับการเดินทางเข้าประเทศทั้งหมด เพื่อเร่งฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ
ยกตัวอย่างเช่น ประเทศสิงคโปร์ที่ได้ประกาศยกเลิกมาตรการกักตัว รวมถึงการลงทะเบียนขออนุญาตเข้าประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 และประเทศกัมพูชาที่ได้กลับมาเปิดให้บริการขอ Visa on Arrival สำหรับผู้เดินทางต่างชาติทุกคน ยกเลิกข้อกำหนดให้แสดงผลตรวจ RT-PCR ของโควิด-19 และยกเลิกข้อกำหนดในการตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (ATK) เมื่อเดินทางมาถึงประเทศกัมพูชาตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2565 เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายประเทศในภูมิภาคยุโรป ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง และประเทศมัลดีฟส์ ที่ได้มีการผ่อนคลายมาตรการที่เข้มงวดของตนเองด้วยเช่นกัน ดังนั้นประเทศไทยจึงควรเลือกที่จะยึดตามหลักปฏิบัติที่ใช้กันในหลายๆ ประเทศ โดยการยกเลิกข้อจำกัดด้านการเดินทางทั้งหมด และกลับมาใช้กฎการเข้าประเทศเดิมของประเทไทย ดังเช่น ในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19
“ผมเชื่อว่า รัฐบาลไทยควรตระหนักว่าการติดเชื้อโอมิครอนจากในประเทศนั้นมีอัตราสูงกว่าการติดเชื้อจากต่างประเทศในสัดส่วนที่สูงถึง 99 ต่อ 1 และผมยังเชื่อมั่นในประชาชนชาวไทยที่มีความเข้าใจในลักษณะโรคประจำถิ่นของเชื้อโอมิครอนและพร้อมรับมือให้เข้ากับวิถีชีวิตใหม่”
ดังนั้นเงื่อนไขที่ต้องมีการขออนุมัติเข้าประเทศล่วงหน้าและข้อกำหนดในการตรวจเชื้อโควิด-19 เมื่อเดินทางถึงประเทศไทยนั้น ไม่มีความจำเป็นและไม่มีประสิทธิผล ผมขอเสนอให้มีการยกเลิกระบบการขอหนังสือการเดินทางเข้าประเทศไทย (Thailand Pass) ข้อบังคับเรื่องการทำประกันสุขภาพ และการตรวจโควิดเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยอย่างทันที เนื่องจากเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนครบโดสหรือใบรับรองแพทย์ กรณีหายจากการติดเชื้อโควิด-19 นั้นก็เพียงพอต่อการอนุญาตให้เข้าประเทศแล้ว
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจัดเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีความสำคัญกับเศรษฐกิจไทย ดังนั้นการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนจึงมีความจำเป็นอย่างมาก ผมและผู้ประกอบการธุรกิจรายอื่นๆ พร้อมที่จะทำงานกับรัฐบาลเพื่อช่วยกันวางแผนฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทย เพิ่มความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว กระตุ้นอุปสงค์ ตลอดจนวางแนวทางด้านสุขภาพและอนามัยเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ความพยายามต่างๆ เหล่านี้ เมื่อรวมกับการสื่อสารที่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการเดินทางเข้าประเทศ จะช่วยให้ธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทยประสบความสำเร็จ
“ผมขอขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับการพิจารณาของท่านนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้ หากท่านมีคำถามหรือข้อกังวลอื่นใด ผมหวังว่าจะมีโอกาสได้หารือในรายละเอียดกับท่านและคณะทำงานของท่านต่อไป” นายวิลเลี่ยมกล่าว