"มูดี้ส์-ฟิทช์" จัดอันดับเครดิตSCB เป็นครั้งแรก ระดับ "Investment Grade"
"มูดี้ส์-ฟิทช์" จัดอันดับเครดิตSCB เป็นครั้งแรก ระดับ "Investment Grade" สะท้อนถึงสถานะการเงินที่แข็งแกร่งของ SCB ในระดับสากล -จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในตัวบริษัทให้กับกลุ่มนักลงทุนได้เป็นอย่างดี
Moody's Investors Service และ Fitch Ratings สองสถาบันจัดอันดับระดับสากล ประกาศอันดับความน่าเชื่อถือให้ กับ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB โดยมูดี้ส์จัดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและสกุลเงินในประเทศระยะยาว (Foreign and Local Currency Long-Term Issuer Rating) ที่ระดับ "Baa2" ด้านฟิทช์จัดอันดับเครดิตสากลระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating) ที่ระดับ "BBB"
ทั้งนี้ SCB นับเป็นบริษัทโฮลดิ้งด้านการลงทุนทางการเงินแห่งแรกของประเทศไทยที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือใน "กลุ่มระดับลงทุน" (Investment Grade) สะท้อนถึงสถานะการเงินที่แข็งแกร่งของ SCB ในระดับสากล ภายใต้กรอบบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบ นอกจากนี้ยังเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นในยุทธศาสตร์ของ SCBที่จะนำพาองค์กรสู่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินระดับภูมิภาค ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาวและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ มูดี้ส์และฟิทช์ประกาศอันดับเครดิตของ SCB ให้อยู่ในระดับ "Investment Grade" โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ SCB มีกรอบการกำกับดูแลที่แข็งแกร่ง การบริหารเงินทุนและการจัดการสภาพคล่องที่มีประสิทธิภาพและมีความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ตึงเครียด สะท้อนให้เห็นถึงการก้าวขึ้นเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มฯ ได้อย่างสมบูรณ์
SCB ได้วางรากฐานทางการเงินที่มั่นคงเพื่อก้าวสู่การเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินระดับภูมิภาค ด้วยวิสัยทัศน์ในการสร้างฐานลูกค้าอันแข็งแกร่งกว่า 200 ล้านราย และพันธกิจในการเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อระบบนิเวศทั้งในและต่างประเทศ การขยายเข้าสู่ธุรกิจการเงินส่วนบุคคลที่มีการเติบโตสูง รวมถึงธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มฯ โดยเร็ว
นายมาณพ เสงี่ยมบุตร Chief Finance & Strategy Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือใน "กลุ่มระดับลงทุน" (Investment Grade) ที่แข็งแกร่งจากสองสถาบันจัดอันดับชั้นนำในระดับสากล
ทั้งนี้อันดับความน่าเชื่อถือนี้จะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการระดมทุนในอนาคต และเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในตัวบริษัทให้กับกลุ่มนักลงทุนได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ SCBจะยังคงมุ่งมั่นสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน เพื่อให้มีความพร้อมในการลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคตอันใกล้