ทีมจะล้มเหลว หรือ ประสบความสำเร็จ ขึ้นอยู่กับ“คนที่นำทีม!”

ทีมจะล้มเหลว หรือ ประสบความสำเร็จ ขึ้นอยู่กับ“คนที่นำทีม!”

ในฐานะ "ผู้นำองค์กร" ท่านต้อง Back Up ผู้จัดการประเภทนี้ให้เต็มที่ ไม่ต้องกลัวใครจะว่าลำเอียง...เพราะผู้นำที่เก่ง ๆ จะต้องรู้ว่าควรลำเอียงกับใครเพื่ออะไรและไม่จำเป็นต้องอธิบาย !

Part.1.ผู้จัดการเก่งหรือไม่เก่ง...ดูได้จากศักยภาพและบุคลิกของลูกน้อง!

บางครั้ง เราสามารถประเมินได้คร่าวๆว่าผู้นำทีมไหนเก่งหรืออ่อน โดยที่ยังไม่ได้เจอไม่ได้คุยกับผู้นำทีมนั้น โดยดูจากลูกทีม!

ถ้าท่านได้คุยกับทีมงานหลายๆคน โดยที่ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับผู้นำทีม แล้วได้ยินแต่เสียงพร่ำบ่นถึงปัญหา โทษโน่นโทษนี่ หรือสีหน้าแววตา ท่าทางท้อแท้ ห่อเหี่ยวของลูกทีมหลายๆคนในทีม ท่านก็น่าจะพอมองออกว่า ทีมนี้เต็มไปด้วยปัญหา และผู้นำทีมหรือผู้จัดการทีม... น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา!

Part.2.ลองมาดูตัวอย่างจาก ผู้จัดการคนนี้...!?

(ถ้าอ่านแล้วนึกถึงหน้าใคร..ก็แสดงว่าผู้จัดการคนนั้น สร้างความประทับใไม่รู้ลืมให้กับท่าน ส่วนจะเป็นความประทับใจจริงๆ หรือประทับให้เจ็บใจก็ค่อยๆอ่านไปครับ!)

ผู้จัดการคนนี้.......เราสามารถเรียกได้ว่าเป็น “อัจฉริยะในการทำลายล้าง ! ” ด้วยศักยภาพการทำลายที่หลากหลายดังนี้....

เริ่มต้นด้วยการทำลาย “ขวัญและกำลังใจ” ของทีมงาน ได้ทุกๆวัน ด้วยสไตล์การบริหารและการสื่อสารแบบไม่สร้างสรรค์ เต็มไปด้วยอารมณ์ (บูด หงุดหงิดมันได้ทั้งวัน) แถมยังแล้งน้ำใจ เชี่ยวชาญในการจับผิดฆ่าลูกน้อง ฟ้องนาย ดีใส่ตัว ชั่วโทษลูกน้อง และร่ำร้องต้องการผลงานแต่ไม่เคยสอนงาน ไม่รู้จักคำว่า Coaching !

และด้วยความเป็นคนเจ้าอารมณ์ จึงทำให้แสดงศักยภาพที่มีเหลือล้น ด้วยการทำลาย ความร่วมมือที่ดีระหว่างแผนก เพราะปากแกว่งหาเรื่องไปได้ทุกแผนก โทษทุกหน่วยงานในกรณีเกิดความผิดพลาด(แต่โทษตัวเองไม่เป็น) และเชี่ยวชาญในการวิจารณ์แผนกอื่นแต่ไม่เชี่ยวชาญบริหารแผนกตัวเอง! 

เนื่องจากมีบุคลิก ลักษณะนิสัยใช้อารมณ์เป็นตัวตั้ง ขาดสติอยู่เสมอเมื่ออ้าปากพูด ศักยภาพที่ตามมาก็คือสามารถทำลายลูกค้า ทุกๆวันโดยไม่รู้ตัว ด้วยการปล่อยปละละเลยไม่แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกค้า ไม่สอนและไม่รู้วิธีสอนลูกน้องว่าต้องหาลูกค้ายังไง ต้องรักษาลูกค้าด้วยวิธีการใดบ้าง!

Part.3.ผู้จัดการคนที่สอง..... 

เราสามารถเรียกได้ว่าเป็น “ผู้ที่อาศัยความสงบ..สยบความเคลื่อนไหว !” ด้วยสไตล์ดังนี้...

โลกจะเปลี่ยนไปเร็วและคาดเดาได้ยากเช่นไร...คู่แข่งจะเก่งขึ้นเพียงใด ลูกค้าจะฉลาดขึ้นขนาดไหน...ลูกน้องรุ่นใหม่ๆ จะ

กระฉับกระเฉงมีไฟในการทำงานเพียงใดก็ตาม......ผู้จัดการประเภทนี้ ยังคง..เฉื่อย ไร้พัฒนาการ เกลียดการเรียนรู้ไม่ดูโลกภายนอก บอกกับทุกคนว่าทำตามหน้าที่....รักษาความสามารถที่มี(เมื่อสิบปีที่ผ่านมา) ฃ

ไม่กล้าและไม่ชอบเปลี่ยนแปลง....บริหารแบบเรื่อยๆมาเรียงๆ (อาจจะเข้าใจผิดคิดว่าชีวิตการทำงานของตนเองอยู่บริษัทนี้ได้ตลอดกาลปาวสาน!)ประคองตำแหน่งหน้าที่การงานไปวันๆ (และอาจจะคิดเข้าข้างตัวเองทุกคืนอย่าให้ใครมาแทนที่)

Part.4.ผู้จัดการคนที่สาม.....

เราสามารถยกย่องอย่างชื่นชม ได้ว่าเป็น “ผู้จัดการชั้นยอด” ด้วยเหตุผล...

เมื่อได้รับมอบหมายงานหรือภารกิจจากผู้บริหารระดับสูง...จะไม่เริ่มต้นมองหาแต่ปัญหา(แบบผู้จัดการคนแรก)และจะไม่ลังเลหรือใช้เวลาคิดแผนหลายชาติภพ(แบบผู้จัดการคนที่สอง) แต่จะเริ่มต้นด้วยความกระตือรือร้น ไม่ว่าภารกิจจะยากหรือง่าย และเริ่มหาวิธีที่จะบริหารหรือจัดการอย่างสร้างสรรค์

เมื่อมีเวลา (และเชื่อว่าทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน เพียงแต่ใครจะใช้เวลาได้มีประสิทธิภาพมากกว่ากันเท่านั้น)ผู้จัดการประเภทนี้จะพยายามหาวิธี สร้างและเพิ่มศักยภาพทีมงานตลอดเวลา เพราะรู้ว่า...ยิ่งสร้างคน คนที่ถูกสร้างก็จะยิ่งสร้างผลงาน ยิ่งพัฒนาทีมงานก็จะเท่ากับยิ่งพัฒนาตนเอง !

Part.5.อีกแค่สองเดือนก็จะปีใหม่แล้ว...

ถ้ายังปล่อยให้มีผู้จัดการคนแรก (ยิ่งมีหลายๆคนในองค์กร) ก็แสดงว่า องค์กรของท่านคงมี “กรรมสัมพันธ์” ที่ผูกพันกันมาหลายชาติภพ โดยที่ท่านไม่กล้าตัดสินใจหรือทำอะไรให้เด็ดขาด ...ก็ไม่รู้จะว่าไงและก็ไม่รู้จะช่วยยังไง กล้าๆหน่อยครับ! เรียกมาคุย ไม่ดีขึ้น ก็เชิญให้ไปทำลายที่อื่น ไม่ต้องคิดมาก!

ส่วนผู้จัดการคนที่สอง ซึ่งมักจะมีเยอะซะด้วยสิในแต่ละองค์กร ก็ต้องพยายามพัฒนา พยายาม Coaching ให้ได้ ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังคงไร้พัฒนา ก็ โปรโมตผู้จัดการรุ่นใหม่ๆให้มาทำหน้าที่แทน ส่วนผู้จัดการประเภทนี้ท่านจะเก็บดองไว้เป็นที่ระลึก หรือจะปล่อยให้หลุดไปตามระบบที่ต้องเน้นผู้จัดการที่มีคุณภาพ ก็แล้วแต่ท่านครับ!

สำหรับ ผู้จัดการคนที่สาม (ถ้ายังมีเหลืออยู่ในองค์กรของท่านนะ !) ก็ต้องยินดีด้วยที่ท่านมีคนคุณภาพที่เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนหน่วยงานและองค์กรของท่าน ไม่ต้องคิดมากให้ปวดหัว แค่มุ่งมั่นรักษา และส่งเสริมผู้จัดการประเภทนี้ให้เต็มที่...

เพราะสายพันธ์นี้แหละ ที่จะเป็นผู้เพาะพันธ์ที่ดีให้กับทีมงานส่วนที่เหลือ ให้องค์กรขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง....ที่สำคัญ ในฐานะผู้นำองค์กรท่านต้อง Back Up ผู้จัดการประเภทนี้ให้เต็มที่ ไม่ต้องกลัวใครจะว่าลำเอียง...เพราะผู้นำที่เก่งๆจะต้องรู้ว่าควรลำเอียงกับใครเพื่ออะไรและไม่จำเป็นต้องอธิบาย !

ขออวยพรให้....องค์กรของท่าน ปราศจากผู้จัดการคนแรก และค่อยๆสูญพันธ์ผู้จัดการคนที่สอง รวมทั้งมีผู้จัดการคนที่สามให้มากๆ เมื่อนั้น...องค์กรของท่านก็จะไปได้ดีกว่าหลายปีที่ผ่านมาครับ!