Digital Insurance เทคโนโลยีในการทำธุรกิจประกันภัยที่โตเร็วในสังคมดิจิทัล

กระแสการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีใน “สังคมดิจิทัล” (Digital Economy) ที่กำลังเป็น Megatrend ที่สำคัญของโลกด้วยการทำธุรกรรมผ่านมือถือ เช่น E-Wallet หรือ Mobile Wallet ระบบการชำระเงินค่าสินค้าและบริการผ่านแอพ ซึ่งเป็นบริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีต้นทุนถูกกว่าการใช้บริการที่สาขา ทำให้ธนาคารพาณิชย์ปิดสาขาเป็นจำนวนมาก

เป็นกระแสการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจการเงิน ที่สามารถสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคที่เป็นชนชั้นกลางที่นิยมการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจประกันภัยมีการปรับตัวเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคในสังคมดิจิตอล ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาให้บริการในการทำธุรกิจประกันภัย ที่เรียกว่า ตลาดอ้นชัวร์เทค ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

Insur Tech เป็นรูปแบบของการทำธุรกิจประกันภัยที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการทำธุรกิจประกันภัย โดยใช้ความสามารถของเทคโนโลยีเข้ามาช่วย นำเทคโนโลยีที่เรียกว่า Insurances Technology มาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก โดยปรับเปลี่ยนโครงสร้างค่าเบี้ยประกันแบบใหม่ ให้อ้างอิงตามรายบุคคล สามารถให้คำปรึกษาและวิเคราะห์รูปแบบของประกันภัยที่เหมาะสมกับความต้องการและความเสี่ยงของลูกค้า ช่วยคำนวณเบี้ยประกันภัย และจ่ายเงินผลประโยชน์ให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ผ่านแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ที่ลูกค้าเลือกจ่ายเพื่อความเสี่ยงของลูกค้าเท่านั้น ทำให้อินชัวร์เทคเสนอราคาเบี้ยประกันที่ดีกว่าได้ อ้นชัวร์เทคช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ คิดค้นและนำเสนอผลิตภัณฑ์แบบใหม่ ๆ ที่ตอบสนองไลน์สไตล์และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การออกแผนประกันรถแบบคุ้มครองแค่เสาร์อาทิตย์ 

สำหรับลูกค้าที่วันธรรมดาเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ และใช้รถจริงแค่สัปดาห์ละสองวัน ราคาเบี้ยประกันแบบนี้จึงถูกกว่าระบบ “ใช้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น” หรือ “Pay as you go" กำลังเป็นที่นิยมของผู้บริโภคกลุ่มเจนวาย และเป้าหมายของอ้นชัวร์เทคคือกลุ่ม Millennials ที่ต้องการเข้าถึงสินค้าและบริการที่ไม่ซับซ้อนมีความหลากหลายและยืดหยุ่น

ผลสำรวจของ “The Capgemini 2016 World Insurance Report" ที่ศึกษาลูกค้ากว่า 15,000 คน ใน 30 ประเทศทั่วโลก พบว่า บริษัทประกันภัยแบบดั้งเดิมไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่ม Gen Y ได้ และกลุ่มมิลเลนเนียลทั่วโลกเพียง 33.9% เท่านั่นที่ชื่นชอบการทำประกันภัยแบบดั้งเดิม

PWC ได้ทำการสำรวจ “Embracing possibility,boosting innovation" พบว่า ธุรกิจประกันภัยจะเป็นอุตสาหกรรมอันดับต้น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีมากที่สุด ขณะที่ 67% ของซีอีโอธุรกิจประกันภัยทั่วโลกเห็นถึงบทบาทของเทคโนโลยี โดยมองว่าความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมใหม่ ๆ (Creativity and Innovation) จะเข้ามามีความสำคัญมากที่สุดต่อการประกอบธุรกิจในอนาคต ธุรกิจประกันภัยในต่างประเทศมีการนำเทคโนโลยี ในรูปแบบของ Insur Tech มาใช้อย่างแพร่หลาย เริ่มตั้งแต่การเลือกซื้อประกัน การรับชำระเบี้ยประกันอิเล็กทรอนิกส์ การพิจารณารับประกันจากบริษัทแจ้งเคลม และการคืนเบี้ยประกันแก่ลูกค้าช่วยให้สามารถลดต้นทุนในการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเสนอราคาค่าเบี้ยได้ถูกกว่า 

ธุรกิจประกันภัยถูกโควิดเล่นงานจนบางบริษัทต้องปิดตัวลง ถ้าไม่สนใจ Insur Tech ลำบากแน่ครับ……