เมื่อตลาดหุ้นหมุนสู่ Stagflation กองทุนกลุ่มไหนได้ไปต่อ ?
ภาวะ Stagflation อาจไม่ใช่ภาวะที่เอื้อต่อการลงทุนนัก แต่หากเลือกลงทุนกลุ่มที่มีความแข็งแกร่งในแง่รายได้และมีการเติบโตระยะยาวก็ยังสามารถ "สร้างผลตอบแทน" ในกับพอร์ตลงทุนได้ โดยเฉพาะกลุ่ม Healthcare ที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ความแข็งแกร่ง อยู่รอดได้
ตลาดหุ้นกำลังเข้าสู่ภาวะ Stagflation เศรษฐกิจในระยะข้างหน้ามีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องจากการใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมาย การลงทุนในช่วง Stagflation ต้องเลือกลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่มีรายได้สม่ำเสมอไม่ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ (Defensive) อย่างเช่นกลุ่ม Healthcare
Healthcare เป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ ทำให้รายได้ของกลุ่ม Healthcare มีความสม่ำเสมอ สามารถสร้างผลกำไรได้แม้ในช่วงวิกฤต และยังเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว ในหลายวิกฤตที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นช่วงดอทคอม ซับไพร์ม โควิด หรือแม้กระทั่งในช่วงปีที่แล้วที่หุ้นทั่วโลกปรับตัวลงแรงหุ้นกลุ่ม Healthcare ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าตลาดโดยรวม โดยปีที่แล้ว MSCI World Index ปรับตัวลงถึง -18.1% แต่หุ้นกลุ่ม Healthcare อย่างดัชนี MSCI World Health Index ปรับตัวลงเพียง -5%
หากมองย้อนหลังไปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2013-2023) พบว่ากลุ่ม Healthcare สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้นได้ถึง 10.3% ในขณะที่ตลาดหุ้นโลก (MSCI ACWI Index) ให้ผลตอบแทนต่ำกว่า โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้นเพียง 8.2% และหากมองต่อไปในอีก 10 ปีข้างหน้า ธุรกิจ Healthcare ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยมีการคาดการณ์ว่าจะสามารถเติบโตได้เฉลี่ยราว 10.22% ต่อปี
การเติบโตของกลุ่ม Healthcare มาจากทั้งลักษณะเฉพาะของกลุ่ม Healthcare เองที่เป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ สังคมสูงวัย (Aging Society) ที่เรากำลังเผชิญ และโรคชนิดใหม่ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา ในขณะที่เทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยเอื้อให้วิทยาศาสตร์ทางการแพทย์พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง จึงทำให้กลุ่ม Healthcare เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งทนทานในทุกภาวะเศรษฐกิจ และมีการเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว
อย่างไรก็ตามในปีนี้ หุ้นกลุ่ม Healthcare ยัง Laggard ตลาดหุ้นโดยรวม ซึ่งปกติแล้วหุ้นกลุ่ม Healthcare จะซื้อขายบนระดับราคาที่สูงกว่าตลาดเล็กน้อย โดยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาหุ้นกลุ่ม Healthcare ซื้อขายด้วยราคาที่สูงกว่าตลาด(MSCI World Index) ราว -3% แต่ในปีนี้ หุ้นกลุ่ม Healthcare ถูกกว่าตลาดรวมราว -10%
กล่าวโดยสรุป ภาวะ Stagflation อาจไม่ใช่ภาวะที่เอื้อต่อการลงทุนนัก แต่หากเลือกลงทุนในกลุ่มที่มีความแข็งแกร่งในแง่รายได้และมีการเติบโตในระยะยาวก็ยังสามารถสร้างผลตอบแทนในกับพอร์ตลงทุนได้
โดยเฉพาะกลุ่ม Healthcare ที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ความแข็งแกร่ง อยู่รอดได้ในภาวะ Stagflation และยังเติบโตได้ดีในระยะยาว ในขณะที่ระดับราคาปัจจุบันเป็นระดับราคาที่ถูกกว่าตลาดโดยรวมและยังถูกกว่าเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา
หากท่านใดมีข้อข้องใจเกี่ยวกับการวางแผนการเงินของตนเอง สามารถส่งคำถามของท่านมาได้ที่ [email protected] I บทความโดย ณัฐพร ธรวงศ์ธวัช AFPTTM Wealth Manager