เรา เก่ง พอหรือไม่ ในวันนี้ !?

Part.1.ความเก่งในอดีตกับปัจจุบัน !?

คน และธุรกิจที่เก่งมากๆ เมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ หรือ โดดเด่น มาถึงวันนี้

อาจต้อง ปรับตัวพอสมควร เพื่อรักษาความเก่งที่เคยมี

ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือ ทำงานในฐานะพนักงาน ผู้บริหารมืออาชีพ ถ้าท่านเก่งพอ ไม่ว่าจะในฐานะเจ้าของธุรกิจ หรือ ลูกจ้างมืออาชีพ ท่านไม่ต้องกลัวว่าจะไม่รอด ไม่ต้องกลัวว่า AI จะมากระทบกับธุรกิจ หรือ หน้าที่การงานของท่าน เพราะถ้าเรียนรู้และเข้าใจในเรื่องเทคโนโลยีและ AI บ้าง ลองนำมาปรับใช้บ้าง ความเก่งของท่านจะก้าวกระโดดและไม่ตกยุค

Part.2. แต่ถ้าธุรกิจของท่าน หรือ ในฐานะลูกจ้าง พนักงานทุกระดับ มีความเก่งแบบนี้….?

ธุรกิจที่ ไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจนอะไรเลย จุดขาย จุดแข็งของธุรกิจท่าน ยังเป็นเรื่องเดิมๆ ไม่มีอะไรใหม่ ไม่มีอะไรน่าสนใจที่จะดึงดูดลูกค้าในยุคปัจจุบัน ความเก่งของธุรกิจในอดีตของท่าน ก็จะกลายเป็นเรื่องพื้นๆ เรื่องธรรมดาๆที่ไม่น่าสนใจในยุคปัจจุบัน

ประเด็นที่อยากจะเน้นในวันนี้คือ ในฐานะลูกจ้าง พนักงานทุกระดับ ในส่วนของ พนักงาน ตั้งแต่ระดับปฏิบัติการไปจนถึงระดับผู้จัดการ ผู้บริหาร ยังทำงานซ้ำๆซากๆ ไม่มีการพัฒนา ขาดความคิดริเริ่ม ปราศจากความคิดสร้างสรรค์

ความเก่งของท่าน จะถูกทดแทนง่าย ด้วย พนักงานที่อายุงานน้อยกว่า เงินเดือนน้อยกว่า หรือ ใช้ AI. ที่มีมาให้เลือกใช้หลากหลายตัว เช่น Ghat Gpt 4o ที่มีความสามารถมากกว่า Chat Gpt ตัวเดิม หรือ Gemini และตัวอื่นๆอีกมากมาย ที่มีความสามารถในการ เพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน และ ลดเวลาการทำงาน (ไม่อู้งาน ไม่เดินไปเม้าท์มอย เหมือนพนักงานซะด้วย)

เทคโนโลยีใน 10 ปีที่ผ่านมา จนมาถึงยุค Generative AI. หลากหลายตัวในปัจจุบัน เป็นยุค Super Speed (เปลี่ยนแปลงเร็วมากจนแทบจะตามไม่ทัน) ที่อาจจะไม่ได้มาทดแทนพนักงานในทุกตำแหน่งก็จริง แต่จะมาทดแทน พนักงานที่ไม่ได้เรียนรู้ ไม่ได้พัฒนา ไม่ได้นำ Generative Ai มาช่วยในการทำงาน

Part.3. ถ้าอยากเก่งขึ้น เพื่อให้อยู่ได้ในยุคปัจจุบันและอนาคต!

สิ่งที่พนักงานต้องปรับหลักๆ ต้องเริ่มที่ Mind Set คือกรอบความคิด ที่ต้องยกระดับ ไม่ยึดติดกับความคิดและความรู้ ประสบการณ์เดิมๆแล้วหวังว่า อายุงานที่ทำมานานหลายปี ที่เคยเป็นจุดแข็ง แต่อาจกลายเป็นจุดอ่อนในยุคปัจจุบัน(เพราะติดกับความรู้เดิม ประสบการณ์เดิม แต่เงินเดือนเพิ่มขึ้น โดยที่ประสิทธิภาพไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน)

ต้องถามตัวเองทุกวันว่า ในแต่ละวัน ได้เรียนรู้ ได้พัฒนาในเรื่องใดบ้าง? ไม่ใช่ทำงานไปวันๆด้วยกรอบความคิดเดิมๆ

แล้วพัฒนา Skill Set (ทักษะที่มี) ซึ่ง Skill Set เดิมๆ อันไหนของเราที่สามารถต่อยอดได้ ที่ AI.ยังไม่สามารถทดแทนได้ในวันน้(แต่วันข้างหน้า ก็ไม่แน่)

และ Skill Set อะไรบ้าง ที่ควรเรียนรู้เพิ่มเติม ที่ทำให้เราโดดเด่น เป็นที่ต้องการของหน่วยงานที่ขาดไม่ได้ นั่นคือความเก่งในยุคปัจจุบัน

แล้วเพิ่ม Tool Set เช่น เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เครื่องมือใหม่ๆอันไหนบ้างที่สามารถมาช่วยให้การทำงาน เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Part.4. เมื่อผสมผสาน เชื่อมโยงทั้งสามส่วนนี้….?

Mind Set > Skill Set > Tool Set

นั่นคือ กรอบความคิดที่มีการเรียนรู้ พัฒนาอย่ารงต่อเนื่อง จะทำให้เกิด ทักษะและชุดความรู้ ความสามารถใหม่ๆ โดยใช้ชุดเครื่องมือใหม่ๆมาช่วยในการทำงาน

ในส่วนผู้บริหาร หรือ เจ้าของกิจการ การเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ และ Generative Ai จะช่วยได้มากในการรวบรวม สรุป วิเคราะห์ ข้อมูล ที่ในอดีตต้องใช้เวลารวบรวมจากหลายหน่วนงาน เสียเวลาหลายวัน กว่าจะได้ข้อมูลที่สำคัญ

และยังสามารถหาข้อมูลอื่นๆ จากนอกองค์กร โมเดลใหม่ของธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสให้กับธุรกิจของท่าน

Part.5. ลองนึกภาพ…

ลองนึกภาพ พนักงานและผู้บริหาร และเจ้าของกิจการ ที่เคยเก่งในอดีต แต่ไม่ได้เรียนรู้ พัฒนาอะไรที่ชัดเจน ความเก่งที่เคยมี จะแปรสภาพเป็น ความ กาก ในยุคปัจจุบัน!

ในทางตรงกันข้าม….วันนี้ เริ่มมี CEO และ ผู้บริหาร ที่เรียนรู้ พัฒนา มีนโยบายนำ AI มาปรับใช้กับแต่ละหน่วยงานในองค์กรภายในปีนี้

แล้วเจ้าของกิจการ และ พนักงานทุกระดับ ที่ไม่คิดจะเรียนรู้ ไม่คิดจะปรับตัว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความเก่งในอดีต มาพูดถึงเรื่องปัจจุบันดีกว่าว่า จะเอาอะไรไปสู้!?

Part.6. สรุปความเก่งในวันนี้….

ความเก่งของธุรกิจท่าน(ในฐานะเจ้าของกิจการ) และ ความเก่งของพนักงานในทุกระดับ จะตอบได้ว่า เก่งพอหรือไม่ ท่านจะรู้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ หรืออย่างช้าภายในสิ้นปีนี้ ว่า ธุรกิจของท่าน หรือ ตำแหน่งงานของท่าน จะอยู่ได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ครับ!

(เมื่อบริษัทรับนักศึกษาจบใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีและ Generative Ai ได้อย่างดี แต่เงินเดือนน้อยกว่าท่าน ที่อาจมาแทนที่ตำแหน่งของท่าน!)