“ญี่ปุ่น” เปิดประเทศเต็มรูปแบบ 11 ต.ค.นี้ ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว รวมคนไทย!
ข่าวดี! “ญี่ปุ่น” ประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ให้ฟรีวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่สำคัญรวม “คนไทย” เหมือนช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ไม่มีลิมิตจำนวนคนเข้าประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.2565 เป็นต้นไป
เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2565 นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรี ประเทศญี่ปุ่น แถลงในนครนิวยอร์กของสหรัฐว่า ญี่ปุ่นจะเปิดรับฟรีวีซ่าท่องเที่ยวรายบุคคล แบบไม่ต้องผ่านบริษัททัวร์ มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 2565 เป็นต้นไป
“เราจะยกเลิกการจำกัดจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศ และจะกลับมาอนุญาตให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าประเทศ โดยไม่ต้องผ่านบริษัททัวร์ และรับฟรีวีซ่าท่องเที่ยวอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.นี้เป็นต้นไป” นายกฯญี่ปุ่นกล่าว
สำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศที่สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่า (ฟรีวีซ่า) ก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อมีการปลดล็อกมาตรการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นตามประกาศของนายกฯญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวจากประเทศเหล่านั้นจะได้กลับมาใช้มาตรการอำนวยความสะดวกดังกล่าวเหมือนเดิม และหนึ่งในนั้นก็คือนักท่องเที่ยวคนไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศเป็นระยะๆ ล่าสุดได้เพิ่มจำนวนผู้ที่สามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ จากเดิม 20,000 คนต่อวัน เป็น 50,000 คนต่อวัน (รวมคนญี่ปุ่น Re-entry และวีซ่าใหม่) โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย. 2565 เป็นต้นไป
ทางกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น ประกาศรายชื่อ 3 กลุ่มประเทศ ตามสถิติการพบผู้ติดเชื้อที่สนามบิน พบว่า ประเทศไทย จัดอยู่ในกลุ่มที่ 1 (สีน้ำเงิน) ไม่มีเงื่อนไขเรื่องวัคซีน ไม่ต้องกักตัว ไม่ต้องตรวจโควิด-19 ที่สนามบิน
สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีน 3 เข็มขึ้นไปตามเกณฑ์ที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนด ได้แก่ Pfizer, AstraZeneca, Moderna, Johnson & Johnson, Bharat Biotech และ Novavax สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องแสดงเอกสารรับรองผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR เป็นลบ มีผลตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย.2565 เป็นต้นไป
ส่วนนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือรับวัคซีนแล้วแต่ยังไม่ครบ 3 เข็มตามเกณฑ์ที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนด ยังสามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ แต่ต้องมีเอกสารรับรองผลตรวจ RT-PCR เป็นลบ ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
ทั้งนี้ ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุญาตให้จัดการเดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์ โดยผ่านบริษัทนำเที่ยวที่ได้รับอนุญาต แต่ไม่จำเป็นต้องมีมัคคุเทศก์นำเที่ยวแล้ว หากแต่ยังคงต้องขอวีซ่าผ่านระบบ ERPS ล่วงหน้าอยู่
การประกาศคลายล็อกมาตรการเดินทางของญี่ปุ่น "เปิดประเทศเต็มรูปแบบ" เกิดขึ้นในวันเดียวกับ “ไต้หวัน” ประกาศฟรีวีซ่าให้คนไทย พำนักได้นานถึง 14 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.นี้ เบื้องต้นจะมีผลบังคับใช้ไปถึงวันที่ 31 ก.ค. 2566 ซึ่งเป็นการต่อนโยบายฟรีวีซ่า พิจารณาเป็นรายปีเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา นอกจากนี้ไต้หวันยังมีแผนจะยกเลิกการกักตัวนักท่องเที่ยว และยกเลิกการไม่รับกรุ๊ปทัวร์ จะมีผลบังคับใช้ประมาณวันที่ 13 ต.ค.นี้เป็นต้นไป
ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นได้ประกาศแทรกแซงค่าเงินเยนครั้งแรกในรอบ 24 ปี เพื่อพยุงเงินเยน ส่งผลให้ค่าเงินเยนแข็งขึ้น หลังจากอ่อนค่าหนักอย่างต่อเนื่องจนอยู่ในระดับเกิน 145 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อสังเกตการณ์ระดับค่าเงินเยนเมื่อเทียบกับค่าเงินบาทไทย จากเว็บไซต์ของเคาน์เตอร์รับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศชื่อดัง พบความเคลื่อนไหวดังนี้
-8 ก.ย.2565 1 เยน = 0.2535 บาท
-9 ก.ย.2565 1 เยน = 0.2565 บาท
-12 ก.ย.2565 1 เยน = 0.2560 บาท
-16 ก.ย.2565 1 เยน = 0.2580 บาท
-22 ก.ย.2565 1 เยน = 0.2620 บาท
-23 ก.ย.2566 1 เยน = 0.2635 บาท
ด้านนายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ เอกอัครราชทูตไทย ประจํากรุงโตเกียว กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายขึ้นเรื่อยๆ การเดินทางระหว่างประชาชนไทยกับญี่ปุ่นจะกลับมาคึกคักเหมือนในอดีต
“หลังในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวไทยเยือนญี่ปุ่นมากถึง 1.3 ล้านคน ขณะที่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเยือนไทยถึง 1.8 ล้านคน เป็นส่วนสำคัญในการช่วยฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของทั้งสองประเทศได้เป็นอย่างดี”
ก่อนหน้านี้ นายธนพล ชีวรัตนพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้ เอ็กซ์เพรส จำกัด กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนไทย แม้ที่ผ่านมาจะมีการผ่อนคลายมาตรการเป็นระยะๆ แต่ยังไม่เวิร์กนัก
“ถ้าหากภายในเดือน ต.ค.นี้ รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยกเลิกการจำกัดจำนวนคนเข้าประเทศ และให้ฟรีวีซ่าแก่นักท่องไทยเหมือนเดิม มั่นใจว่าประเทศญี่ปุ่นจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เพราะทั้งผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวไทยต่างรอคอยการเปิดประเทศเต็มรูปแบบของญี่ปุ่นอย่างมาก”