ค้าปลีก ลุย "ทีอาร์เอ เน็กซ์" ปลุกนิวเอสเคิร์ฟเอสเอ็มอี-ท่องเที่ยว ฟื้นศก.

เศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณเข้าสู่ภาวะถดถอย (Global Recession) และแนวโน้มความรุนแรงส่งผลกระทบโดยตรงต่อกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่งเผชิญแรงกดดันจากเงินเฟ้อ ขณะที่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาประสบปัญหาเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ส่วนกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่กำลังพบกับวิกฤติขั้นเลวร้าย! 

สำหรับ ประเทศไทยเลี่ยงผลกระทบไม่ได้เช่นกัน ปัจจัยลบฉุดเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ภาวะเงินเฟ้อ ต้นทุนและราคาสินค้าสูง ความผันผวนต่างๆ  อาจฉุดเศรษฐกิจไทยที่กำลังอยู่ในห้วงเวลาแห่งการฟื้นตัว อาจสะดุด! 

ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี ผลกระทบจากราคาพลังงานที่ปรับตัวขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ต้นทุนสินค้าสูงขึ้นต่อเนื่อง การปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน ขณะเดียวกันภาคค้าปลีกและบริการยังคงมีปัญหาขาดแคลนแรงงาน   

โจทย์สำคัญคือ จะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นฟูและเดินหน้าต่อไปได้ในทิศทางที่ถูกต้อง!  ภาคการท่องเที่ยวไทย คือคำตอบ  ในฐานะเครื่องจักรตัวสุดท้ายที่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยเดินไปข้างหน้า

ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยวเติบโตสวนทางกับเครื่องจักรทางเศรษฐกิจตัวอื่นๆ และมีแนวโน้มการเติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมา คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยจะมีมากถึง 10 ล้านคน ในปี 2565 ส่งผลโดยตรงต่อภาคค้าปลีกและบริการฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ

โดยภาคค้าปลีกและบริการมีเอสเอ็มอีกว่า  2.4 ล้านราย หรือ 80% ของเอสเอ็มอีทั้งประเทศ ที่สำคัญมีการจ้างงานในระบบกว่า 13 ล้านราย ราว 30% ของการจ้างงานทั้งหมด ซึ่งภาคค้าปลีกและบริการ มีมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 34% ของจีดีพี หรือกว่า 5.6 ล้านล้านบาท ดังนั้นหากเอสเอ็มอีฟื้นตัวและเติบโตได้จะนำมาซึ่งการขยายตัวของเศรษฐกิจ!

ดังนั้น สมาคมฯ มุ่งผลักดันเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน โดยจะมีการเพิ่มการจ้างงานมากกว่า 5 แสนอัตรา ภายในปี 2566 เพิ่มรายได้และช่องทางการจัดจำหน่ายให้เอสเอ็มอีผ่านภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ พร้อมยกระดับเอสเอ็มอีไทยให้แข่งขันได้ในเวทีระดับโลก ด้วยกลยุทธ์ ทีอาร์เอ เน็กซ์ (TRA NEXT) ประกอบด้วย

กลยุทธ์แรก “New S-Curve of SMEs” สร้างความเข้มแข็งให้เอสเอ็มอีด้วยการเพิ่มรายได้ ช่องทางการจัดจำหน่าย การจ้างงาน ผลักดันการจ้างแรงงานประจำรายชั่วโมง สนับสนุนเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ผ่าน “Digital Supply Chain Financing” สร้างความคล่องตัวและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจด้วยการผลักดันนโยบาย E-Service เริ่มจากการลดขั้นตอนขอใบอนุญาตเปิดและต่ออายุร้านอาหาร รวมทั้งจะมีการขยายผลไปยังกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ต่อไป 

กลยุทธ์ที่สอง Environment and Sustainable Development ส่งเสริมเอสเอ็มอีทำธุรกิจที่มีการเติบโตแบบยั่งยืน บนหลักการ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ผลักดันให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในโครงการ Net Zero ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดขยะ ลดการใช้พลังงาน เพิ่มพื้นที่สีเขียว ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน เช่น ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle) ใช้พลังงานจาก Solar Roof นำสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Commitment) ภายในปี 2593 ตามนโยบายภาครัฐ

กลยุทธ์ที่สาม eXpand TRA to the Global Stage ยกระดับสมาคมฯ และเครือข่ายภาคค้าปลีกไทยสู่สากล เพื่อขยายฐานสมาชิก และเป็นการเพิ่มช่องทางการขายและรายได้ ทั้งในและต่างประเทศให้เอสเอ็มอีไทย 

การก้าวสู่ผู้นำภาคค้าปลีกและบริการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะสร้างการรับรู้ด้วยการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสมาพันธ์ผู้ค้าปลีกแห่งเอเชียแปซิฟิก (FARPA) ครั้งต่อไปในปี 2568 ที่จะมีผู้นำค้าปลีกกว่า 20 ประเทศทั่วภูมิภาคเข้าร่วม

นอกจากนี้ จะขยายความร่วมมือระหว่างประเทศในการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจและสินค้า เริ่มเฟสแรกกับสมาคมผู้ค้าปลีกในประเทศเวียดนาม (Association of Vietnam Retailers) และสมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนาม เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ไทยและเวียดนามในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า 

กลยุทธ์ที่สี่ Tourism Reimagination สร้างการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ๆ ส่งเสริมการสร้างศักยภาพให้ประเทศไทยมีความพร้อมในเรื่องของการดึงดูดและรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงและนักลงทุนต่างชาติที่พำนักในไทยระยะยาว 

ประการสำคัญ ผลักดันให้มีการกระตุ้นให้ “นักท่องเที่ยวคุณภาพ” มีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น โดยยกระดับให้ประเทศไทยเป็น “สุดยอด การใช้ชีวิตแห่งเอเชีย” รวมทั้งสนับสนุนภูเก็ตให้เป็นเมืองแห่ง Lifestyle and Free Port Hub เพื่อให้ไทยมีศักยภาพ ในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในการดึงดูดนักท่องเที่ยว สามารถเพิ่มการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยว เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับภาคค้าปลีกและบริการ

หากกลยุทธ์ TRA NEXT นี้เกิดขึ้นได้จริง เชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวและเติบโตอย่างแข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมา!!