“เชลล์” คิดค้นเทคโนฯ NBS ดูดซับคาร์บอนอย่างยั่งยืน

ฟลอร่า จี่ ชิง รองประธานฝ่าย Nature-Based Solutions ของบริษัทเชลล์ กล่าวถึงการดำเนินการดูดซับคาร์บอนด้วยเทคโนโลยีคลีนคาร์บอนทางธรรมชาติว่า การปรับเปลี่ยนระบบบริหารจัดการพลังงานให้ตอบโจทย์กับสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม มีความจำเป็นต้องให้ประชาชนร่วมรับมือกับความท้าทายด้วยกัน ซึ่งบริษัทเชลล์กำหนดเป้าหมายเน็ตซีโร่ในปี 2050 ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยการดำเนินงาน 85%ของบริษัทได้คำนึงถึงการปรับสัดส่วนการใช้พลังงานที่มุ่งพลังงานสะอาดมากขึ้น เช่น พลังงานน้ำ แสงอาทิตย์ และลม 

เชลล์ต้องการลดคาร์บอนในอุตสาหกรรมน้ำมันให้ได้ 1 ล้านตันเพื่อบรรลุเป้าหมายคาร์บอนเป็นศูนย์ ปี ค.ศ. 2030 รวมถึงลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติให้น้อยลงด้วย ทั้งหมดนี้ทำควบคู่ไปกับการปลูกป่าอาทิป่าโกงกาง ถือเป็นการคลีนคาร์บอนอย่างยั่งยืน ดูดซับคาร์บอน มุ่งแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ 

ถ้าพูดถึงการดำเนินงานในเอเชีย อย่างในประเทศจีนได้มีโครงการ "Climate Breathe" ทำงานร่วมกับประชาชนและชุมชนเพื่อปลูกต้นไม้คืนลมหายใจให้ผืนป่า เช่นเดียวกับที่ฟิลิปปินส์ได้มีการรณรงค์ปลูกป่ารวมกันแล้วกว่า 6,250 ไร่ ขณะที่ออสเตรเลียเราได้ทำงานร่วมกับชาวสวน ในการใช้เทคโนโลยี Nature-Based Solutions หรือ NBS เพื่อดักจับคาร์บอนแล้วนำไปฝั่งเก็บใต้ดินรวมกันมากกว่า 60,000 ไร่ 

“เหตุใดต้องทำงานร่วมกับธรรมชาติ Shell ประสบความสำเร็จในการใช้เทคโนโลยี Nature-Based Solutions หรือ NBS ในผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่า ช่วยลดคาร์บอนได้ถึง 30% ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของความตกลงปารีส ในปี 2030” นางชิงกล่าว

อย่างไรก็ตาม เรามีความพยายามหาแรงจูงใจให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม และใช้เทคโนโลยี NBS มากขึ้น เพื่อมุ่งไปสู่สังคมเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างยั่งยืน