คัมภีร์แม่ทัพ 'ชาตยา สุพรรณพงศ์' เคลื่อน 'บาร์บีคิวพลาซ่า' ด้วย 'แพชชั่น'
จากรุ่นสู่รุ่นสานต่อธุรกิจอาหาร เมื่อยุคพ่อแม่ “ชูพงศ์-นิภานันท์ ชูพจน์เจริญ” รุ่น 1 ผู้ปลุกปั้น “บาร์บีคิวพลาซ่า” มีน้ำจิ้ม “สูตรลับ” ครองใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน ถึงคิว "ทายาท" รับไม้ต่อขับเคลื่อนอาณาจักร “พันล้าน” ผ่านฝีมืมอซีอีโอหญิง “ชาตยา สุพรรณพงศ์”
บนสรมภูมิธุรกิจร้านอาหารมูลค่าหลายแสนล้านบาท มีสารพัดหมวดหมู่ที่ยึดตลาด ยิ่งกว่านั้น ยังมีหลากแบรนด์ ที่เกาะกุมขุมทรัพย์ทางการตลาดไว้อย่างเหนียวแน่น
“ฟู้ดแพชชั่น” อาจเป็นชื่อที่ปรากฏในวงการธุรกิจร้านอาหารไม่ถึง 1 ทศวรรษ แต่หากเจาะลึกอาณาจักรขนาดย่อมแห่งนี้ คร่ำหวอดบนสังเวียนยาวนานกว่า 30 ปีแล้ว ภายใต้ชื่อ “เดอะ บาร์บีคิวพลาซ่า” ชื่อก่อนทรานส์ฟอร์มองค์กร
ตระกูล “ชูพจน์เจริญ” เป็นผู้ครองธุรกิจเครือข่ายร้านอาหารสัญชาติไทย โดย 2 ผู้ปลุกปั้นคือ “ชูพงศ์-นิภานันท์ ชูพจน์เจริญ” ซึ่งเป็นรุ่น 1 สร้างสรรค์ร้านอาหาร “บาร์บีคิวพลาซ่า” ที่มีน้ำจิ้ม “สูตรลับ” ครองใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน
ปัจจุบัน “ทายาทรุ่น 2” เข้ามารับไม้ต่อ ขับเคลื่อนอาณาจักร “พันล้าน” ต่อจากบิดามารดา และมี “ชาตยา สุพรรณพงศ์” รับบทเป็นแม่ทัพหญิง กับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด สร้างการเติบโตให้ธุรกิจร้านอาหารเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์บาร์บีคิว พลาซ่า, เรดซัน, จุ่ม แซ่บ ฮัท ฯ
รายการ “SUITS” พาไปถอดสูตรความสำเร็จฉบับ CEO เพื่อเปิดสูตรลับ Food Passion เจ้าของร้านปิ้งย่าง “บาร์บีคิวพลาซ่า” ขวัญใจมหาชนชาวไทย
บนเส้นทางธุรกิจร้านอาหารของฟู้ดแพชชั่น “ชาตยา” ฉายภาพการขยายอาณาจักรย่อมๆสร้างการเติบโต มีร้านอาหารหลายแบรนด์ ได้แก่ ร้านปิ้งย่าง “บาร์บีคิวพลาซ่า” จำนวน 150 สาขา ในไทย ร้านอาหารเกาหลี “เรดซัน” 15 สาขา ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ “ฌานา” 1 สาขา และร้าน “จุ่ม แซ่บ ฮัท” ส่วนในต่างประเทศ แบรนด์บาร์บีคิว พลาซ่า เปิดที่มาเลเซียมากว่า 20 ปีแล้ว และยังขยายไปสู่ตลาดอินโดนีเซีย และกัมพูชา รวมมีร้าน 30 สาขา และปี 2566 ยังวางแผนเปิดในต่างแดนเพิ่มด้วย
พ่อแม่ “ชูพงศ์-นิภานันท์ ชูพจน์เจริญ”ผู้สร้างอาณาจักรบาร์บีคิวพลาซ่า
“ชาตยา” เรียนจบสายอาร์ท นั่นเป็นสิ่งที่เธอนิยาม หรือคว้าปริญญาตรีด้านอักษรศาสตร์มาครอง และโทสารนิเทศ เมื่อเป็นทายาทต้องเข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่ใช่โจทย์ยากนัก เพราะการบริหารงานต่างๆอยู่ใน “สายเลือด” เป็นทุนเดิม เนื่องจากตั้งแต่เด็กๆ เห็นพ่อแม่ทำงานมาโดยตลอด ยิ่งโรงเรียน ที่ทำงาน อยู่ใกล้กัน เลิกเรียน กลับบ้านต้องแวะเวียนไปยังออฟฟิศเป็นประจำ
ยิ่งกว่านั้น บทสนทนาบนโต๊ะอาหารของที่บ้าน ล้วนเป็นเรื่องงาน การบริหารธุรกิจ ทำให้ซึมซับ เก็บเกี่ยวองค์ความรู้จากพ่อแม่ไปโดยปริยาย
เมื่อเข้ามาทำธุรกิจ “ชาตยา” เริ่มต้นจากตำแหน่งเล็กๆในองค์กร ซึ่งขณะนั้นเธอแต่งตั้งให้ตัวเองเป็น COO ส่วนหนึ่งเพราะพ่อแม่ พี่ๆ ดำรงตำแหน่งสำคัญทั้งการตลาด บัญชี โอเปอเรชัน ฯ ประกอบกับตนเองต้องการ “พัฒนาธุรกิจ” ลองรังสรรค์ ทำสิ่งใหม่ๆให้กัองค์กร จึงเลือกภารกิจดังกล่าว พร้อมกับพัฒนาเรื่องมาตรฐานของธุรกิจร้านอาหารเพื่อเป็น “คัมภีร์” เคลื่อนธุรกิจ ไม่ว่าจะขยาย เปิดร้านในไทยหรือต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังใช้ความรู้ด้านภาษา ในการแปล จัดทำคู่มือต่างๆ ทั้งการขาย การดำเนินธุรกิจร้านอาหารของบริษัท เพื่อให้พันธมิตรนำไปใช้ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน
“ก่อนเป็นซีอีโอ ผ่านประสบการณ์ทำงานตำแหน่งเล็กๆมาก่อน แม้เราจะเรียนมาไม่ตรงสาย แล้วมาจับธุรกิจ แต่ธุรกิจเป็นสิ่งที่อยู่ในสายเลือดเราอยู่แล้ว เพราะร้านอาหารเป็นธุรกิจครอบครัว บ้าน ออฟฟิศอยู่ติดกัน ไปโรงเรียน กลับบ้านเห็นพ่อแม่ทำงานที่ออฟฟิศ ได้เรียนรู้นำมาประยุกต์ใช้”
ทั้งนี้ การบริหารงาน หรือขับเคลื่อนธุรกิจร้านอาหารที่มี “ลูกค้า” ใช้บริการ มีสิ่งหนึ่งเหมือนกันคือ “บริหารเกี่ยวกับคน” ทั้งสิ้น และยังสอดคล้องกับวิชาชีพที่เรียน คืออักษรศาสตร์ ซึ่งเรียนเกี่ยวกับคน จึงนำมาต่อยอดได้
ยุคพ่อแม่ผู้ก่อตั้งธุรกิจ สร้างการเติบโต เมื่อต้องสานต่อ หลายภารกิจเกิดขึ้นในช่วงของ “ทายาท” พลิกกระบวนท่า ล่าสุด คือการกางโร้ดแมปปี 2568 มุ่งผลักดันรายได้ทะยานสู่ 4,500 ล้านบาท ด้วยการมีร้านอาหารในไทยให้บริการแก่ลูกค้า 270 สาขา และต่างประเทศ 47 สาขา ปักธงเพิ่มในลาว สิงคโปร์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์
ย้อนไปก่อนหน้า ปี 2558 บริษัทยังทรานส์ฟอร์ม “เดอะ บาร์บีคิวพลาซ่า” สู่ “ฟู้ดแพชชั่น” เพื่อสะท้อนภาพองค์กรที่เคลื่อนธุรกิจด้วยความรักหรือ Passion อย่างแท้จริง ยิ่งกว่านั้นเพื่อส่งสัญญาณให้ตลาดเห็นว่าบริษัทไม่ได้มีแค่ร้านอาหารปิ้งย่างแบรนด์ “บาร์บีคิวพลาซ่า” เท่านั้น ยังขยายร้านน้องจุ่มหรือ “จุ่ม แซ่บ ฮัท” ร้านอาหารเกาหลี “เรด ซัน” ฯ พร้อมให้พนักงานรู้สึกถึงการเดินไปข้างหน้าด้วยกัน
“เราทำธุรกิจร้านอาหาร ต้องการใช้ชื่อที่ส่งสัญาณความรู้สึก พลัง แรงบันดาลใจ ผสมผสานเป็นแพชชั่น”
แพชชั่น สำคัญแค่ไหน สำหรับธุรกิจร้านอาหาร “ชาตยา” หยิบยกเรื่องราวรุ่นพ่อแม่มาฉายภาพ เวลาไปรับประทานอาหารที่ไหนก็ตามม จะส่งต่ออิทธิพลให้ทายาทรับรู้ สัมผัสความชอบ เรียนรู้ศาสตร์แห่งการกินอย่างลึกซึ้ง นั่นยังทำให้เธอนำมาต่อยอดสู่การสร้าง Purpose ในการทำธุรกิจ
“เราสร้างเหตุแห่งการดำรงอยู่ที่ใหญ่ขึ้น จากเดิมแพชชั่นคือการตั้งใจขายอาหารที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้เราไม่ได้ขายแค่อาหาร แต่กำลังดูแลผู้คนให้มีความสุข โดยมีมื้ออาหารเป็นสื่อกลาง” เจตนารมย์ดังกล่าว “ชาตยา” ต้องการส่งต่อให้ทั้งลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และสำคัญสุดคือพนักงานที่เป็นเสมือนครอบครัวนับพันชีวิตนั่นเอง
ท่ามกลางธุรกิจเติบโต “ชาตยา” ประจัญหน้ากับวิกฤติไม่แพ้กับแม่ทัพอื่นๆ และกลายเป็น “บทเรียน” ให้ต้องระวังในการบริหารงานมากขึ้น การเปลี่ยน “กระทะดำ” ของบาร์บีคิวพลาซ่า ก่อดราม่าใหญ่ สุดท้ายบริษัทต้องกลับไปใช้กระทะทองเหลืองตามเดิม
“วิกฤติกระทะดำเป็นจุดเปลี่ยนสอนให้รู้ว่าการ Roll out สิ่งใหม่ ต้องมีกลยุทธ์ ไม่ต้องเก็บความลับ หรือทำพร้อมกันหมด สามารถลองได้ทีละเขต หรือสาขา อีกเรื่องทำให้เข้าใจคำว่าวัฒนธรรมองค์กรที่ดี เกิดการร่วมแรงร่วมใจต่อสู้ ก็วัดกันห้วงเวลานี้ และทำให้เราผ่านวิกฤติไปได้”
ทว่า ความล้มเหลวราคาแพง “ชาตยา” ยกให้ความไฟแรงในการทำร้านอาหาร Fireplace ที่ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม ซึ่งต้องการทำให้พ่อแม่เห็นว่าควรทำร้านอาหารแบบนั้นแบบนี้ สุดท้ายต้องปิดกิจการ
“ได้บทเรียนราคาแพง การทำธุรกิจต้องเคารพคนทำงานหน้าบ้าน หลังบ้าน และคนที่สร้างธุรกิจจาก Zero to One คือพ่อแม่ที่สร้างกิจการมาได้ เพราะอดทน ผ่านร้อนหนาวมาเยอะ” เหตุการณ์ดังกล่าว ยังทำให้มุมมองการทำธุรกิจเปลี่ยน เนื่องจากองค์ประกอบที่ทำให้ร้านอาหารกลมกล่อมมีทั้งทีมงานหน้าบ้านหลังบ้าน
โควิด-19 เป็นอีกวิกฤติทำให้ต้องปรับเปลี่ยน เพราะไวรัสทำให้พฤติกรรมลูกค้าไม่เหมือนเดิมอาจทานข้าวนอกบ้านลดลง การแข่งขันสูงขึ้น ทางเลือกกลุ่มเป้าหมายเพิ่มฯ การทำงานจึงต้อง “ปรับมายด์เซ็ท”
“เพราะโลกเปลี่ยน ภายนอกไม่เหมือนเดิม ถ้าเราไม่เปลี่ยนโลกก็ไม่รอเรา” ที่ผ่านมา บริษัทจึงปรับทั้งโครงสร้าง เปลี่ยนมายด์เซ็ทคนภายในองค์กรให้สอดคล้องกับบริบทต่างๆ
“คน” เป็นหัวใจที่ฟู้ดแพชชั่นให้ความสำคัญมาโดยตลอด พนักงานนับพันชีวิต “ชาตยา” มีแนวคิดในการบริหารผ่าน Happy 4+4 ประกอบด้วย กินดี พักสบาย กายแข็งแรง แบ่งปันความรู้ และจิตดี ครอบครัวดี มีเงินใช้ ให้สังคม อย่างนอกจากเงินเดือนที่ให้พนักงาน ยังให้สินเชื่อ ให้ความรู้ในการแก้หนี้นอกระบบ สร้างวินัยทางการเงินเพื่อให้แข็งแกร่ง เป็นต้น
เคล็ด(ไม่)ลับ การบริหารงานมีมากมาย แต่สูตรที่ “ชาตยา” ไม่เคยบอกใคร ยกให้ 3S ที่ทำให้ธุรกิจร้านอาหารแห่งนี้ประสบความสำเร็จ ได้แก่ 1.Same same but surprised ชุดปิ้งย่างหมู เนื้อฯ ปกติ แต่ร้านมักมีเซอร์ไพรส์ด้วยเมนูใหม่ๆให้ผู้บริโภค 2.System DIY ลูกค้าปรุงเอง ทานเอง สนุกเอง และ3.Simplicity for Continuity ร้านบาร์บีคิวพลาซ่าเรียบง่ายไม่แพนซี ทั้งหมดเพื่อให้ลูกค้าทานอาหารไม่สุด