โลกร้อนทุบสถิติ ดันตลาดเครื่องปรับอากาศปี 66 โตแรง

จากอากาศที่ร้อนมากขึ้นในทุกปีจากภาวะโลกร้อน และในปีนี้ที่มีการคาดการณ์จะเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ ทำให้อากาศโดยรวมในประเทศไทยจะร้อนและแล้งมากขึ้น ทำให้ความต้องการใช้เครื่องปรับอากาศของคนในประเทศไทยสูงมากขึ้น

โดยจะส่งผลให้ตลาดรวมเครื่องปรับอากาศของไทย ที่มีมูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาท มีโอกาสเติบโตได้ดีที่ 7% 

 

 

หากมาประเมินตลาดรวมเครื่องปรับอากาศในปี 2565 ที่ผ่านมา จากการรายงานของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมพบว่า ตลาดเครื่องปรับอากาศในไทยขยายตัวถึง 16.7% ตามสภาพอากาศที่ร้อนมากขึ้น

ขณะเดียวกันมีการประเมินตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2566 จะขยายตัว 5-10% ทั้งการผลิตและการส่งออก สำหรับเทรนด์ที่มาแรงจะเป็นการให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

นายอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ประเมินว่า ตลาดรวมเครื่องปรับอากาศในไทยที่มีมูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาท จะขยายตัว 7% เนื่องจากมีการประเมินว่าในปีนี้ สภาพอากาศจะร้อนมากขึ้น และเอลนีโญจะกลับมาอีกครั้ง  

“ในช่วงปีนี้ที่เป็น เอลนีโญ คาดว่าในช่วงเดือนนี้อุณหภูมิของประเทศไทยจะปรับขึ้นมาที่ 40 องศา และอาจจะปรับเพิ่มขึ้นมา 43 องศาเซลเซียส โดยเมื่ออากาศร้อนมากขึ้น จะยิ่งทำให้ตลาดเครื่องปรับอากาศมีความต้องการมากขึ้น"

ทั้งนี้แอลจี ตั้งเป้าหมายว่าจะส่วนแบ่งการตลาดในตลาดเครื่องปรับอากาศขึ้นมาอยู่ลำดับ 3 จากที่ผ่านมาอยู่ในลำดับ 5 และสามารถสร้างยอดขายเครื่องปรับอากาศให้เติบโต 35% ในปีนี้

น.ส.อาภัสรา สังขวิจิตร ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แอลจี เตรียมกลยุทธ์ในการทำตลาดทั้ง 1. การนำเสนอว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยประหยัดไฟ พร้อมช่วยร่วมลดโลกร้อนได้อีกทาง 2. การมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สุดล้ำ 3. การลงทุนในหน้าร้านแต่ละสาขา ที่เป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงลูกค้า 4.การเพิ่มจำนวนพนักงานขาย รองรับการขยายช่องทางตลาดใหม่ และ 5. การเพิ่มกิจกรรมการตลาด

ทางด้านภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยในกลุ่ม เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และตู้เย็น ในปี 2566 คาดว่าจะมีมูลค่า 5.80 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 6.6% จากปีก่อน เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากตลาดเครื่องปรับอากาศที่ขยายตัวได้ดีอีกครั้ง