เจาะลึกตลาดยาดมไทยสุดฮอต เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ เดินหน้าชิงส่วนแบ่งตลาด

เจาะลึกตลาดยาดมไทยสุดฮอต เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ เดินหน้าชิงส่วนแบ่งตลาด

ตลาดยาดมไทยมูลค่ากว่า 1,280 ล้านบาท ยังเติบโตต่อเนื่อง เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ โหมรุกตลาดยาดมไทยครั้งใหญ่ในปี 2566 ชูนวัตกรรมเปลี่ยนภาพลักษณ์ตลาดยาดมไทยให้ใช้ได้ทุกวัน

แรงหนุนการเปิดประเทศรอบใหม่ ทำให้ตลาดสินค้ายาดมที่อยู่ในประเทศไทยมายาวนานกลับมาขยายตัวได้ต่อเนื่อง เป๊ปเปอร์มินท์ ฟิลด์ แบรนด์เบอร์สองในตลาด พร้อมรุกขยายตลาดครั้งใหญ่ในปีนี้

น.ส.มีนา อัครพงศ์พิศักดิ์ ผู้ช่วยประธานบริหารด้านการตลาด ผลิตภัณฑ์ยาดม เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ (Peppermint Field) บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดยาดมในปี 2566 ยังเป็นตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงและมีแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเฉลี่ยคนไทยจะมีการใช้ยาดมประมาณ 1-2 หลอดต่อเดือน โดยในปี 2565 ตลาดยาดมไทย ในช่องทางห้างค้าปลีก มีมูลค่ากว่า 1,280 ล้านบาท มีการขยายตัวประมาณ 10-20% คาดว่าในปีนี้จะขยายตัวดีเช่นกัน

 

เจาะลึกตลาดยาดมไทยสุดฮอต เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ เดินหน้าชิงส่วนแบ่งตลาด สำหรับตลาดรวมที่มีการขยายตัวที่ดีมาโดยตลอด แม้จะเกิดสถานการณ์โควิดที่ทำให้ต้องมีการใช้ชีวิตอยู่บ้าน จึงให้มีความต้องการใช้ยาดมมากขึ้น และส่วนหนึ่งของผู้บริโภคที่มีการใช้ยาดม เพราะช่วยเรื่องการผ่อนคลายความเครียดต่างๆ รวมถึงในปัจจุบันที่คนยังต้องการใช้ยาดมเพื่อความผ่อนคลาย ประกอบกับการเปิดประเทศรอบใหม่ ส่งผลดีทำให้ตลาดขยายตัวมากขึ้น 

ทั้งนี้บริษัทได้วางเป้าหมายที่จะขยายตลาดยาดม “เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์” ในปีนี้ด้วยการนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ของยาดมที่สามารถใช้ได้ในทุกวัน และการขยายตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ไปยังกลุ่มนักเรียนในระดับมัธยมการศึกษา จากที่ผ่านมา กลุ่มลูกค้าหลักที่ใช้ผลิตภัณฑ์จะมีทั้ง กลุ่มนักศึกษาและกลุ่มคนทำงาน

ขณะเดียวกันได้จะรุกทำตลาดผ่านสินค้ายาดม เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ หลอดสีขาว ที่มีส่วนผสมจากเป๊ปเปอร์มิ้นท์ออยล์และเมนทอล และ ยาดม แบล็คเฮลเลอร์ หลอดสีดำ ที่มีส่วนผสมของยูคาลิป ออยล์ เพิ่มขึ้นสองเท่า โดยมีจุดเด่นแตกต่างกันแต่ให้ความรู้สึกที่สดชื่น ผ่อนคลาย เพื่อร่วมเปลี่ยนพฤติกรรมและความคิดของคนไทยว่ายาดมของไทยสามารถใช้ได้ในทุกวัน

เจาะลึกตลาดยาดมไทยสุดฮอต เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ เดินหน้าชิงส่วนแบ่งตลาด อีกกลยุทธ์กับการรุกตลาดกับการใช้ มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง จึงได้ดึง "พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร" นักร้อง นักแสดง มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ จากการมีภาพลักษณ์ชัดเจน มีความสามารถรอบด้าน โดยจะนำเสนอภาพลักษณ์ของการเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ผ่านการนำเสนอแนวคิด “ลมหายใจที่มีคุณภาพ” ร่วมขยายตลาดสู่กลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ พร้อมทำการแบบเชิงรุกในทุกแพลตฟอร์มแบบครบวงจร

นอกจากนี้มีแผนจัดกิจกรรมการตลาดผ่านงานเทศกาลดนตรีและงานคอนเสิร์ต โดยจะเข้าไปร่วมสนับสนุนคอนเสิร์ต EDM เพื่อร่วมขยายตลาดลูกค้าในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น และกลุ่มคนเล่นเกม ที่เป็นบรรดาเกมเมอร์ต่างๆ

ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายว่า ภายในสิ้นปี 2566 จะสามารถสร้างส่วนแบ่งการตลาดใน ยาดมแบบหลอดเพิ่มขึ้น 3-5% จากในปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 24% อยู่ในลำดับที่สองของตลาด พร้อมกับคาดว่าจะสร้างยอดขายรวมที่ 160 ล้านบาท เติบโต 10-20% จากปีก่อนที่มียอดขายประมาณ 140 ล้านบาท ส่วนยอดขายรวมในปีก่อน เติบโต 50% มากกว่าตลาดโดยรวม