นายกฯ เยอรมนีออกโรงสร้างความเชื่อมั่นสถานะการเงิน'ดอยช์แบงก์'

นายกฯ เยอรมนีออกโรงสร้างความเชื่อมั่นสถานะการเงิน'ดอยช์แบงก์'

โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวในวันศุกร์(24มี.ค.)ว่า ดอยช์แบงก์ได้ผ่านการปรับโครงสร้างแล้ว และมีการปรับรูปแบบธุรกิจให้ทันสมัย รวมทั้งเป็นธนาคารที่สามารถทำกำไรอย่างมาก นักลงทุนจึงไม่ควรคาดเดาเกี่ยวกับอนาคตของทางธนาคาร

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์หลายรายก็ได้ออกมาสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนเช่นกัน โดยระบุว่า ดอยช์แบงก์จะไม่กลายเป็นโดมิโนตัวต่อไปจากเครดิต สวิส โดยธนาคารมีกำไรถึง 5 พันล้านยูโร (5.4 พันล้านดอลลาร์) ในปี 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 159% เมื่อเทียบกับปี 2564 และสามารถทำกำไรถึง 10 ไตรมาสติดต่อกัน

ทั้งนี้ ดอยช์แบงก์ตกเป็นเป้าสนใจของนักลงทุนทั่วโลกในวันนี้ หลังจากที่ราคาหุ้นของทางธนาคารได้ดิ่งลงทั้งในตลาดยุโรปและสหรัฐ หลังจาก Credit Default Swap (CDS) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของดอยช์แบงก์พุ่งสูงสุดในรอบ 4 ปี

 

 

นอกจากนี้ นักลงทุนแห่เทขายตราสารทางการเงินที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Additional Tier 1) หรือ AT1 ของดอยช์แบงก์เช่นกัน หลังจากที่รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ประกาศตัดมูลค่า AT1 ของเครดิต สวิส ลงเหลือศูนย์ ซึ่งสร้างความไม่มั่นใจต่อนักลงทุนในการถือครอง AT1 ของดอยช์แบงก์ หากธนาคารเกิดการล้มละลาย

ดอยช์แบงก์เป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเยอรมนี โดยมีสินทรัพย์ทั้งหมดราว 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ และมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการราว 8.8 แสนล้านดอลลาร์

 

 

นอกจากนี้ ดอยช์แบงก์ยังถูกจัดอันดับอยู่ในกลุ่ม Systemically Important Financial Institution (SIFI) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ หรืออยู่ในกลุ่ม "Too big to fail" ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่เกินกว่าจะล้ม โดยภาครัฐจะออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อป้องกันมิให้วิกฤตธนาคารในกลุ่มดังกล่าวลุกลามไปทั่วระบบการเงิน