'วัน แบงค็อก' จับมือ 'ซีแพค' นำรถโม่พลังงานไฟฟ้ามาใช้ขนส่งคอนกรีตครั้งแรกในไทย
"วัน แบงค็อก" ย้ำจุดยืนด้านงานก่อสร้างสีเขียว จับมือ "ซีแพค" นำ "CPAC EV Mixer Truck" รถโม่พลังงานไฟฟ้ามาใช้ขนส่งคอนกรีตครั้งแรกในไทย
"วัน แบงค็อก" ผสานความร่วมมือ "ซีแพค" เดินหน้ายกระดับมาตรฐานก่อสร้างของไทย นำ รถโม่พลังงานไฟฟ้า "CPAC EV Mixer Truck" มาเริ่มใช้ที่โครงการวัน แบงค็อก พร้อมชูจุดเด่นนำนวัตกรรมพลังงานสะอาด มาใช้ในการขนส่งคอนกรีตตามแนวคิดการขนส่งสีเขียว (Green Fleet) โดยมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดผลกระทบมลพิษทางสิ่งแวดล้อม และ ปัญหาโลกร้อน จากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยสู่ความยั่งยืนเทียบเท่ามาตรฐานระดับสากล
นายวรวรรต ศรีสอ้าน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า วัน แบงค็อก โครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ พร้อมมาตรฐานคุณภาพสูงสุด ที่ครบครันใจกลางกรุงเทพฯ พัฒนาขึ้นบนวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนธุรกิจไปพร้อมกับกรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด "Evolving Bangkok" มุ่งสู่การเป็นต้นแบบของการกำหนดมาตรฐานใหม่ในด้านการก่อสร้างแบบยั่งยืนในประเทศไทย ตลอดจนการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่ดีขึ้น ซึ่งเราได้ร่วมมือกับ "เอสซีจี" และ "ซีแพค" เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการสร้างคุณค่าด้วยการวางแนวปฏิบัติภายใต้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน มุ่งลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon)
"ที่ผ่านมา วัน แบงค็อก และ เอสซีจี ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการบริหารการก่อสร้างโครงการอย่างยั่งยืน ทั้งหมด 4 ฉบับ ประกอบด้วย การนำเศษคอนกรีตจากการตัดเสาหัวเข็มที่เหลือใช้มารีไซเคิลเพื่อผลิตผนังหล่อสำเร็จรูป การนำอิฐมวลเบาที่เหลือใช้จากการก่อสร้างมารีไซเคิลและผลิตเป็นแผ่นผนังกันเสียงคิวคอน (Q-CON Sound Barrier) เพื่อใช้ในบริเวณผนังอุโมงค์ทางลอดเข้าโครงการฯ การจัดการขยะที่เกิดจากการก่อสร้างโครงการแบบองค์รวม และการจัดการเศษอาหารด้วยเครื่องย่อยเศษอาหารให้กลายเป็นปุ๋ย ซึ่งครั้งนี้การนำ รถโม่พลังงานไฟฟ้า CPAC EV Mixer Truck เข้ามาใช้ในโครงการฯ จะเข้ามาช่วยลดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะเรื่องฝุ่นที่เกิดจากการก่อสร้าง อีกทั้งยังเป็นการช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย" นายวรวรรต กล่าว
นายนิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า ซีแพค (CPAC) คือผู้ผลิตคอนกรีตผสมเสร็จและผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป ซึ่งมีแนวทางดำเนินธุรกิจสู่การเป็น Green Construction โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับมาตรฐานงานก่อสร้างของประเทศไทย เพื่อสร้างความยั่งยืนและสร้างการเติบโตในระยะยาว ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Environment) คุณภาพชีวิตของคน ในสังคม (Social) และมีบรรษัทภิบาล (Governance) ตามแนวทาง ESG 4 Plus ของเอสซีจี ได้แก่ มุ่ง Net Zero, Go Green, Lean เหลื่อมล้ำ และย้ำร่วมมือ และจากความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยรักษาและดูแลสิ่งแวดล้อมในการลดผลกระทบจาก ฝุ่น PM 2.5 และ ปัญหาโลกร้อน จากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ล่าสุด "ซีแพค" นำรถโม่พลังงานไฟฟ้า CPAC EV Mixer Truck เข้ามาใช้ในการจัดส่งคอนกรีตตามแนวคิดการขนส่งสีเขียว (Green Fleet) ครั้งแรกภายในโครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok)
"เพื่อตอกย้ำแนวคิด Green Construction และเน้นความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ วัน แบงค็อก ในการนำรถโม่พลังงานไฟฟ้า CPAC EV Mixer Truck เข้ามาใช้ในการขนส่งคอนกรีตในโครงการฯ ด้วยวิสัยทัศน์การดำเนินงานที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันที่ต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบ ซึ่งตลอดระยะเวลาในการพัฒนาโครงการฯ ที่ผ่านมาทั้ง 2 บริษัทฯ ได้มีการวางแผนงานร่วมกัน โดย ซีแพค ได้เข้าไปดูแลตั้งแต่การเริ่มเท Mat Foundation ที่เลือกใช้ Low Heat Concrete ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ Low Carbon Concrete รวมถึงการขนส่งคอนกรีตภายในไซต์งาน ซึ่งบริษัทฯ รู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือกับทางวัน แบงค็อก ต่อไปเพื่อร่วมกันสร้างสรรค์อุตสาหกรรมก่อสร้างสีเขียวในอนาคต" นายนิธิ กล่าว
นายนิธิ กล่าวต่อว่า รถโม่พลังงานไฟฟ้า "CPAC EV Mixer Truck" เป็นการใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็น พลังงานสะอาด เข้ามาใช้ในการขับเคลื่อนแทนน้ำมันดีเซล ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบในการใช้งานแล้ว รถโม่พลังงานไฟฟ้า สามารถลดฝุ่น PM 2.5 และ PM 10 ได้ถึง 45 กรัมต่อการขนส่ง 1 เที่ยว ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) กลุ่มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ถึง 26.5 ตัน/ปี/คัน หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ได้เพิ่มขึ้น 2,800 ต้น/ปี/คัน โดยการดำเนินงานครั้งนี้นับเป็นความตั้งใจและความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา "ซีแพค" ยึดตามแนวทางนี้มาใช้ในการดำเนินธุรกิจตลอดทั้ง Value Chain ตั้งแต่โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ ที่มีการนำลมร้อนเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตมาผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในโรงงานปูนซีเมนต์ (Waste Heat Power Generator) การใช้รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าสำหรับขนส่งภายในโรงงาน และการพัฒนาปูนซีเมนต์ที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก มาใช้ทดแทนปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ มาจนถึงการผลิต Low Carbon Concrete คอนกรีตคาร์บอนต่ำอีกด้วย
ทั้งนี้ จากสำรวจเมื่อนำ "รถโม่พลังงานไฟฟ้า" เข้ามาใช้ขนส่งคอนกรีตภายในไซต์งานแทนรถโม่ธรรมดา พบว่า ถ้าใช้รถโม่พลังงานไฟฟ้า CPAC EV Mixer Truck 1,800 เที่ยว/วัน สามารถช่วย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้สูงถึง 49,000 kg./(CO2) หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 5,210 ต้น นับเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยสนับสนุนดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายตามนโยบายการดูแลสิ่งแวดล้อมที่วางไว้