'ซีรีส์วาย' นำขบวนซอฟต์พาวเวอร์ 5F ฟื้นตลาด 'ญี่ปุ่น' เจนใหม่เที่ยวไทย

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Osaka” ระหว่างวันที่ 21-23 กรกฎาคม 2566 ณ ศูนย์การค้า Abeno Q’s Mall นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ปลุกพลังการท่องเที่ยวด้วย “ซอฟต์พาวเวอร์” (Soft Power) ของไทย ส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวผ่านสินค้าและบริการของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากการจัดงาน 2 ครั้งที่ผ่านมาคือ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และนครบาร์เซโลนา ราชอาณาจักรสเปน

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Osaka” ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เป็นการขานรับนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของประเทศไทย ในปีท่องเที่ยวไทย 2566 (Visit Thailand Year 2023 : Amazing Thailand, Amazing New Chapters)

โดย ททท. ยังคงมุ่งเดินหน้าส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีความหมาย (Meaningful Travel) อย่างต่อเนื่อง ผ่าน Soft Power ไทยให้ผู้ที่เข้ามาร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์จริงอย่างใกล้ชิดกับบรรยากาศและกิจกรรมที่สนุกสนานสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่จะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน ทั้งกิจกรรมการแสดงและการสาธิตศิลปวัฒนธรรมไทย การออกร้านจำหน่ายอาหารไทย รวมถึงสินค้าและบริการต่างๆ ของไทยที่สอดคล้องกับความนิยมในตลาดญี่ปุ่น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นความต้องการเดินทางของชาวญี่ปุ่นให้เกิดการตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทยในระยะเวลาอันใกล้ รวมถึงยังเป็นการสื่อสารสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกและความเชื่อมั่นแก่กลุ่มพันธมิตร สื่อมวลชน และนักท่องเที่ยว ถึงความพร้อมของประเทศไทยในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

งาน “Amazing Thailand Fest 2023  in Osaka” มีพิธีเปิดงานในวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 โดยได้รับเกียรติจาก นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอัครพงศ์ เฉลิมนนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา และนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. ร่วมเปิดงาน 

ภายในงานได้นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทยด้วยกิจกรรมที่สร้างความสนุกสนานในบรรยากาศงานวัดและเทศกาลที่สอดคล้องกับฤดูกาลต่าง ๆ ของประเทศไทย ได้แก่ ฤดูร้อน-เทศกาลสงกรานต์ ฤดูฝน-ประเพณีที่เกี่ยวกับ "ข้าว" และฤดูหนาว-เทศกาลลอยกระทง และสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน Soft Power ของไทยในรูปแบบต่างๆ อาทิ

Food - นำเสนออัตลักษณ์ที่โดดเด่นด้านอาหารไทยและอาหารไทยฟิวชันหลากหลายประเภท โดยไฮไลต์สำคัญคือกิจกรรมสาธิตการทำโรตีสายไหมจากร้าน “โรตีสายไหมแม่ป้อม-ร้านแม่” ต้นตำรับจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ได้รับรางวัลบิบ กูร์มองด์ จากมิชลิน ไกด์ ประจำปี 2022-2023

Film - นำเสนอละครซีรีส์ไทยเชื่อมโยงเทรนด์ท่องเที่ยวตามรอย กิจกรรมมินิคอนเสิร์ตและการสัมภาษณ์พูดคุยกับนักแสดง Boys Love ฟอส-จิรัชพงศ์ ศรีแสง และ บุ๊ค-กษิดิ์เดช ปลูกผล ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ชมชาวญี่ปุ่น

Fight - นำเสนอแม่ไม้มวยไทยสุดยอดศิลปะการต่อสู้ที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว

Fashion - ชวนผู้เข้าร่วมงานแต่งชุดไทยถ่ายภาพ พร้อมรับชมนิทรรศการเกี่ยวกับชุดไทยในยุคสมัยต่างๆ

Festival - นำเสนอการแสดงทางวัฒนธรรมที่สื่อถึงเทศกาลประเพณีในภูมิภาคต่างๆ อาทิ การแสดงชุดเทศกาลสงกรานต์ไทยสี่ภาค การแสดงชุดรำขวัญข้าวสี่ภาค การแสดงชุดลอยกระทงสี่ภาค กิจกรรมเชิญชวนผู้เข้าร่วมงานรำวงสนุกสนานแบบไทย รวมถึงกิจกรรม Workshop / DIY ประดิษฐ์กระทง และกิจกรรมสานปลาตะเพียนจากใบลานและลงสี

นอกจากนี้ ภายในงาน ททท. ยังจัดให้มีกิจกรรมสอยดาวชิงรางวัล มีเคาน์เตอร์ให้บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยว และบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ HIS, Hankyu Travel International และ Trans Orbit บูธของสายการบิน ได้แก่ Thai Airways International, Thai Viet Jet,  และ Peach Aviation รวมทั้งสิ้น 14 บูธ

โดยการจัดงานเป็นไปตามแนวคิด Green Event ที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการออกแบบและจัดเตรียมสถานที่ โดยลดปริมาณการใช้วัสดุ การเลือกใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ การเลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่สามารถย่อยสลายได้ การวางระบบการคัดแยกและจัดการขยะภายในงาน รวมถึงมีการประเมินผลการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของการจัดงานสอดคล้องกับแนวทางของ BCG Economy Model

ททท. ยังได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 ณ โรงแรม Osaka Marriott Miyako นครโอซากา โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ และผู้ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 50 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย นอกจากนี้ ททท. ได้เตรียมต่อยอดด้วยการนำสื่อมวลชน influencers bloggers จากประเทศญี่ปุ่นเดินทางมาทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ เพชรบุรี และสมุทรสงคราม ในกิจกรรม “From Amazing Thailand Fest to Fam Trip” ช่วงเดือนสิงหาคมนี้อีกด้วย 

สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการเดินทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับสนใจการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์วัฒนธรรม โดยมีสถิติการเดินทางซ้ำ (Re-visit) ทั้งกลุ่ม Business Leisure กลุ่มนักกอล์ฟ กลุ่ม Lady Worker กลุ่มผู้สูงอายุ อีกทั้งยังมีกลุ่มตลาดศักยภาพใหม่ เช่น กลุ่มผู้ที่ชื่นชอบละครไทย กลุ่ม Boys Love

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 13 กรกฎาคม 2566 นักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นเดินทางสู่ประเทศไทยแล้วจำนวนประมาณ 351,288 คน โดยกิจกรรมยอดนิยม ได้แก่ อาหารไทย เยี่ยมชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ เรียนรู้วิถีชีวิตคนท้องถิ่น และนวดสปา