เจาะสมรภูมิ 'ร้านอาหารแสนล้าน' 1 ปี ปิดตัวถึง 50% เพราะไร้ยอดขาย!

สำรวจเทรนด์ "ธุรกิจร้านอาหาร" ปี 2566 ร้านใหม่เปิดนับแสนบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี แต่วัฏจักร 1 ปี กลับต้อง "ปิดตัวลง" ถึง 50% เหตุไร้ยอดขาย ผ่านไป 3 ปี 65% ม้วนเสื่อตาม ไลน์แมน วงใน เผย "ก๋วยเตี๋ยว" เมนูฮิตค้นหา-ขายดียืนหนึ่ง หมูกรอบ-หมาล่า-เค้ก มาแรงผู้บริโภคค้นหา
Key Points :
- ธุรกิจร้านอาหารเปิดง่าย แต่เจ๊ง! ง่ายเช่นกัน วัฏจักร 1 ปี ยกธงขาว 50% อยู่ไป 3 ปี มีถึง 65% ที่ปิดตัวลง
- อยากขายอาหารต้องรู้พฤติกรรมผู้บริโภค เมนูค้นหานำโด่ง และขายดีอันดับ 1 คือ ก๋วยเตี๋ยว ส้มตำปูปลาร้า ไก่ย่างก็ขายดีมาก เครื่องดื่ม อเมริกาโน กาแฟดำยืนหนึ่ง
- หมูกรอบการค้นหาโตสุด 86% ร้านอาหารอย่ามองข้ามเมนูนี้
- ชำแหละต้นทุนร้านอาหาร มีอะไรบ้างก่อนเปิดร้าน
ในสถานการณ์ปกติที่ไร้โรคระบาด “ธุรกิจร้านอาหาร” ถูกประเมินมูลค่าสูงกว่า 4 แสนล้านบาท และมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยบวก ไม่เพียงเพราะประเทศไทยเป็น “สวรรค์” ของการกิน มีร้านอาหารริมทาง(Street Food)ไปจนถึงร้านหรูหราบริการชั้นเลิศ(Fine Dining) ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกระดับชั้นตามฐานะและกำลังซื้อ
ปี 2566 ไม่เพียงผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 แต่ยังเป็นปีที่ธุรกิจร้านอาหารฟื้นตัวกลับมาคึกคัก เพราะไม่ใช่แค่ขานรับพฤติกรรมผู้บริโภคออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ปลดปล่อยไลฟ์สไตล์ต่างๆ แต่ยังมีการบริโภคเพิ่มจากนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย
ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไลน์แมน วงใน(LINE MAN Wongnai) ฉายภาพว่า ประเทศไทยใครๆก็สามารถเป็น “เจ้าของร้านอาหารได้ง่าย” แต่การเติบโตต้องเผชิญความท้าทายไม่น้อย เพราะจากการเก็บข้อมูลของร้านอาหารต้องพบ “ความจริงที่น่าเศร้าเล็กน้อย” เมื่อมีผู้ประกอบการเข้ามาสมัครเข้ามาเปิดร้านบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี ระยะเวลาประมาณ 12 เดือน จะมีการปิดกิจการไป 50% เนื่องจาก “ไม่มียอดขาย” และเมื่อเปิดให้บริการผ่านไป 3 ปี จะมีราว 65% ต้องปิดตัวลง เหล่านี้สะท้อนถึง การแข่งขัน โอกาสรอดของร้านที่เปิดใหม่ในประเทศไทยด้วย
- ธุรกิจร้านอาหารเปิดง่าย-เจ๊ง!ง่าย
“ประเทศไทย ใครๆก็เป็นเจ้าของร้านอาหารได้ง่าย แต่การเข้าง่าย ก็ทำให้เกิดภาวะผู้เล่นล้นตลาดง่าย การแข่งขันสูงมากไป ทำให้มีร้านต้องปิดตัวลง ซึ่งการทำธุรกิจร้านอาหารถือว่ามีความเสี่ยงอยู่แล้ว เข้ามาเยอะ ก็ออกจากตลาดเยอะ ส่วนหนึ่งเพราะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับ Passion ของคน”
-อาหารตามสั่ง อาหารจานเดียว 17.7%
-คาเฟ่ ร้านกาแฟ 11%
-อาหารไทย 10.9%
-ก๋วยเตี๋ยว 7.1%
-อาหารอีสาน 6.4%
-ขนมหวาน 6.2%
-บุฟเฟ่ต์ ปิ้งย่าง สุกี้ 6.1%
-เครื่องดื่ม น้ำผลไม้ 4.2%
-อื่นๆ 30%
เพราะไลน์แมน วงใน เป็นแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี จึงมีการเก็บข้อมูล และเห็นเทรนด์ของประเภท “ร้านเปิดใหม่” รวมถึงร้านที่โต “ชะลอตัว” บนแพลตฟอร์มเดลิเวอรีปี 2566 ดังนี้
ประเภทร้านเปิดใหม่ที่เติบโตเพิ่มขึ้น
-อาหารเช้า โดยเฉพาะ “แซนวิช” เพิ่มขึ้น 34.2%
-อาหารจีน เพิ่มขึ้น 28%
-สุกี้ยากี้ ชาบู เพิ่มขึ้น 18.3%
-ราเมน เพิ่มขึ้น 14%
-บาร์ เพิ่มขึ้น 13.9%
ประเภทร้านที่ลดความร้อนแรง "ชะลอตัว"
-ฟู้ดทรัค ลดลง 63.8%
-ข้าวต้มมื้อดึก ลดลง 44.3%
-พิซซ่า ลดลง 39.2%
-ซีฟู้ด/ อาหารทะเล ลดลง 36.1%
-หมูกระทะ ลดลง 31.7%
- เปิดเทรนด์เมนูฮิตขายดีบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี
เมื่อโควิดคลี่คลาย ประชาชนออกมาทานข้าวนอกบ้านมากขึ้น ทิศทางโต Dine-in ร้อนแรง ส่วน “เดลิเวอรี” แผ่วลงพอตัว แต่ไลน์แมน วงใน ยังคงรักษาโมเมนตัมขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งพฤติกรรมผู้บริโภคที่ยังสั่งเมนูอร่อย จนทำให้ “ขายดี” บนเดลิเวอรี นำโด่ง เป็นดังนี้
หมวดอาหาร 10 อันดับแรก ได้แก่
1.ก๋วยเตี๋ยวยืนหนึ่งขายดีตลอดกาล
2.ข้าวมันไก่
3.ส้มตำปูปลาร้า เติบโต 40.4% สะท้อนคนไทยชอบความแซ่บนัว
4.ข้าวผัด (หมู กุ้ง ปู)
5.กะเพราหมูกรอบ เติบโต 45.7% ร้านไหนหมูกรอบหมด ลูกค้าร้องไห้
6.กระเพราหมูสับ
7.ไก่ย่าง เติบโต 167.9% คนไทยชอบไก่ย่างหรือเพราะหมูแพง เลยหันไปกินไก่ ร้านต้องหา Insight
8.ตำป่า
9.ปีกไก่ทอด
10.ข้าวไก่แซ่บ
หมวดเครื่องดื่ม 10 อันดับแรก ได้แก่
1.อเมริกาโน / กาแฟดำ
2.ชาเขียวนม เติบโต 23.2%
3.ชานม / ชานมไต้หวัน / ชานมไข่มุก
4.เอสเปรสโซ
5.ช็อกโกแลต เติบโต 52.1%
6.ชาไทย /ชาเย็น เติบโต 28.9%
7.คาปูชิโน
8.โกโก้
9.ลาเต้
10.ชามะนาว
1.ก๋วยเตี๋ยว ลดลง 5.3%
2.ส้มตำ ลดลง 3.5%
3.ข้าวมันไก่ ลดลง 13.3%
4.อาหารตามสั่ง ลดลง 21%
5.ชานม / ชานมไข่มุก ลดลง 2.4%
6.พิซซ่า ลดลง 3%
7.กาแฟ ลดลง 0.7%
8.กะเพรา เพิ่มขึ้น17.6%
9.ผัดไทย เพิ่มขึ้น 4.4%
10.เค้ก เพิ่มขึ้น 20.9%
-เค้ก เพิ่มขึ้น 20.9%
-สุกี้ เพิ่มขึ้น 20.6%
-หมาล่า เพิ่มขึ้น 19.8%
-หมูกรอบ เพิ่มขึ้น 86%
-ไอศกรีม เพิ่มขึ้น 47.5%
- ไลน์แมน วงใน ผนึก FoodStory ดึงร้านอาหารใช้ “POS”
ช่วงโควิด เป็นอีกบทพิสูจน์ว่า “ร้านอาหาร” เกิดใหม่เป็นดอกเห็ดท่ามกลางผู้คนที่ตกงานไร้งานประจำ แต่การเปิดจะอยู่รอดได้ ไม่ใช่แค่ “รสชาติอร่อย” แต่สารพัดปัจจัยมีส่วนเอื้อ มีหน้าร้านแล้ว ต้องทำการทำตลาด ยุคนี้ต้องมีบริการ “เดลิเวอรี” ด้วย ซึ่งอาจต้องแลกกับการจ่ายค่าการตลาด หักกำไร หรือ GP ให้กับแพลตฟอร์มด้วย บางส่วนไม่ไหว หรือไม่สู้แค่ถอนตัวจากแพลตฟอร์ม
ไลน์แมน วงใน ถือเป็นหนึ่งในบิ๊กเพลย์เยอร์ แพลตฟอร์มส่งอาหารเดลิเวอรี ภารกิจสำคัญคือการต่อ “จิ๊กซอว์” ธุรกิจให้ครบเครื่อง
ล่าสุด บริษัทเพิ่งปิดดีล “ซื้อกิจการ” ฟู้ดโซลูชัน “FoodStory” เพื่อต่อยอดเทคโนโลยี POS (Point of Sale)ตอบสนองร้านอาหารร้านทุกประเภท ตั้งแต่เล็ก กลาง ไปจนถึงใหญ่ โดยประเมินว่ามีร้านราว 30% หรือประมาณ 150,00 ร้าน จาก 600,000-700,000ร้าน หรือคิดเป็นมูลค่าตลาด 10,000 ล้านบาท ที่มีโอกาสจะใช้ POS และเป็นขุมทรัพย์การเติบโต
ดังนั้น การเข้าซื้อกิจการ FoodStory คือ การรวมทรัพยากรของผู้พัฒนาระบบจัดการร้านอาหารที่ทำงานใกล้ชิดกับร้านอาหารทั่วประเทศมานานกว่า 11 ปี ซีนเนอร์ยีกับแพลตฟอร์มไลน์แมน วงใน ซึ่งมีข้อมูลร้านอาหารมากที่สุดในไทย และเป็นอันดับ 1 ในตลาด POS สำหรับร้านอาหาร มีร้านอาหารกว่า 55,000 ร้านทั่วประเทศที่เลือกใช้ Wongnai POS และ FoodStory POS คิดเป็นสัดส่วน 40% ของตลาดนี้
“ภายใต้การแข่งขันที่สูง และช่วยให้ร้านอยู่รอดได้ การใช้เทคโนโลยี POS ถือเป็นโซลูชันจัดการร้านอาหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุน เพิ่มยอดขายได้ ที่สำคัญการใช้เทคโนโลยีไม่ได้ส่งผลต่อการปรับขึ้นราคาอาหาร ผลักภาระให้ผู้บริโภค แต่เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการที่ดีขึ้น”
- ต้นทุนสูง โจทย์ใหญ่ธุรกิจร้านอาหาร
ฐากูร ชาติสุทธิผล ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบจัดการร้านอาหาร FoodStory POS ของ LINE MAN Wongnai กล่าวว่า การสำรวจข้อมูลจากร้านอาหาร 1,230 แห่ง ในช่วงครึ่งปีแรกปี 66 พบปัญหาหนักใจที่สุดที่ผู้ประกอบการเผชิญ ได้แก่
-ผู้ประกอบการ 77% เจอต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น
-60% เจอต้นทุนอื่นๆสูงขึ้น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า
-57% เจอจำนวนร้านคู่แข่งเพิ่มสูงขึ้น
-47% พบว่าจำนวนลูกค้าใหม่ลดลง
-45% มีจำนวนลูกค้าประจำลดลง
-27% แบกรับต้นทุนแรงงานสูงขึ้น
ทั้งนี้ ในการทำธุรกิจร้านอาหาร หาก “ชำแหละ” ไส้ในจะมีองค์ประกอบดังนี้
1.ต้นทุนอาหาร 25-30%
2.ต้นทุนแรงงาน 20-25%
3.ค่าเช่าที่ 20-30%
4.ต้นทุนอื่นๆ 10%
5.กำไรอยู่ที่ 10-20%
อย่างไรก็ตาม แรงงานเป็นหนึ่งในต้นทุนสำคัญของธุรกิจบริการโดยเฉพาะร้านอาหาร และช่วง 5 ปีที่ผ่านมา “ค่าแรงขั้นต่ำ” เพิ่มขึ้นสูงสุด 10% จาก 310 บาทต่อวัน มาอยู่ที่ 350 บาทต่อวัน
- POS โซลูชันจัดการร้านอาหาร
สำหรับระบบจัดการร้านอาหาร FoodStory POS ของ LINE MAN Wongnai พร้อมให้บริการร้านขนาดใหญ่ที่มีสาขาขยายตัว เช่น Mobile Order ระบบสั่งอาหารผ่านการสแกน QR CODE เพื่อส่งออร์เดอร์เข้าสู่ระบบ POS ตรงถึงพนักงานในครัว ลดปัญหาการรับออร์เดอร์ผิดพลาดหรือตกหล่น, Master Data ระบบรวมศูนย์จัดการข้อมูลจากหลายสาขา เข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นของร้านอาหารทุกสาขาได้ทุกที่ทุกเวลา Inventory Management ระบบบริหารคลังวัตถุดิบ ช่วยคำนวณสัดส่วนวัตถุดิบของแต่ละเมนู และตัดคลังวัตถุดิบอัตโนมัติ รวมถึงแจ้งสถานะสต็อกเมื่อวัตถุดิบใกล้หมด
ฐากูร ชาติสุทธิผล
ส่วนโซลูชันจัดการร้านอาหารขนาดกลางถึงเล็ก มี Wongnai POS Manager แอปพลิเคชันบนมือถือสำหรับเจ้าของร้าน ใช้งานง่ายขึ้นทุกที่ทุกเวลาตั้งแต่เปิด-ปิดเมนูบน LINE MAN อัปเดตราคาขายทุกช่องทาง แก้ไขข้อมูลเมนูอาหาร เช็คยอดขายแบบเรียลไทม์ และจัดโปรโมชัน ยังมี Wongnai POS Staff ระบบการรับออร์เดอร์หน้าร้านผ่านโทรศัพท์มือถือของพนักงาน และ Wongnai POS Mobile Order ฟีเจอร์ใหม่ที่ลูกค้าสามารถสามารถสั่งอาหารได้ด้วยตนเองผ่านโทรศัพท์
“ระบบ POS ช่วยร้านประหยัดต้นทุนพนักงาน พร้อมเพิ่มประสิทธิในการให้บริการ ตัวอย่างร้านที่ใช้โซลูชันดังกล่าว ช่วยให้อัตราการหมุนเวียนโต๊ะดีขึ้น 17% ยอดขายเฉลี่ยต่อบิลเพิ่ม 20% การสั่งอาหารผ่านมือถือเพิ่มกว่า 900 คนต่อสาขา เป็นต้น”
การนำระบบ POS มาใช้ ยังช่วยเก็บข้อมูล(Data) ทำให้ร้านสามารถนำไปต่อยอดการทำกลยุทธ์สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริโภค(CRM)เพื่อรักษาฐานลูกค้าให้ภักดีกับร้านได้อีกด้วย