'เสริมสุข' เปลี่ยนแม่ทัพ ‘นงนุช’ นั่ง MD ด้าน ‘โฆษิต’ เคลื่อนไทยเบฟเต็มสูบ!

บริษัท เสริมสุข จำกัด(มหาชน) ในเครือไทยเบฟเวอเรจ มีความเคลื่อนไหวสำคัญ เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้พิจารณาและอนุมัติเรื่องสำคัญ ดังนี้ รับทราบการลาออกของ นายโฆษิต สุขสิงห์ จากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2567

ทั้งนี้ เพื่อให้การสืบทอดตำแหน่งเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความต่อเนื่องทางธุรกิจ จึงแต่งตั้ง นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ มีผลตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2567 เป็นต้นไป โดยระหว่างนี้ ยังมีการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม ถึงวันที่ 26 มิถุนายน 2567

สำหรับ การลาออกของ นายโฆษิต เพื่อปรับบทบาทและหน้าที่ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายเพิ่มเติมจากกลุ่มบริษัทในเครือ อย่างล่าสุด ต้นปี 2567 ไทยเบฟ ได้ปรับโครงสร้าง โปรโมทให้ “นายโฆษิต” ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่(President) และผู้บริหารสูงสุดปฏิบัติการประเทศไทยหรือ Group COO-Thailand เพื่อดูแลธุรกิจในประเทศไทยเต็มตัว

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการลาออกจากตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการแล้ว นายโฆษิต ยังคงนั่งตำแหน่งกรรมการ กรรมการบริหาร รวมถึงกรรมการบริหารความเสี่ยงของบริษัทเสริมสุข

ด้าน นางนุงนุช ถือเป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงเคยคร่ำหวอดในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค(FMCG) ธุรกิจค้าปลีก และการตลาด

เสริมสุข ถือเป็น “ผู้ผลิตเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์” ยืนหยัดในตลาดประเทศไทยยาวนานกว่า 7 ทศวรรษ เริ่มกิจการตั้งแต่ปี 2496 ด้วยการเป็นผู้ผลิตน้ำอัดลมให้กับแบรนด์ระดับโลก ก่อนถูกเปลี่ยนมือมาอยู่ภายใต้อาณาจักรของ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” มหาเศรษฐีของเมืองไทย และยังกลายเป็น 1 ใน 5 ธุรกิจสำคัญของไทยเบฟด้วย 

ปัจจุบันเสริมสุขมีการผลิตสินค้าหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม “เอส” น้ำดื่ม “คริสตัล” และยังรับบทในการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าให้กับเครือไทยเบฟ ทั้งชาเขียวพร้อมดื่ม “โออิชิ” เครื่องดื่มชูกำลัง “แรงเยอร์” เครื่องดื่มสมุรไพร “จับใจ” น้ำอัดลม “ซาสี่” และ “ฮันเดรดพลัส” รวมถึงโซดา “ร็อค เมาเท็น”

โดยไตรมาส 2 ที่ผ่านมา(ปีงบประมาณ ก.ย.66-ต.ค.67) บริษัท เสริมสุขมีรายได้จากการขายและบริการ 3,277 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 388 ล้านบาท หรือเติบโต 11.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะน้ำอัดลมเอสขยายตัวในหน้าร้อน ด้าน “กำไรสุทธิ” อยู่ที่ 121 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69 ล้านบาท หรือเติบโต 130.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะยอดขายโต การบริหารจัดการต้นทุนและบรรจุภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ภาพรวม 6 เดือน บริษัทมียอดขายรวม 6,283 ล้านบาท เติบโต 8.1% และกำไรสุทธิ 179 ล้านบาท เติบโต 96.5%