ครั้งแรก! 'ฤทธิ์ ธีระโกเมน' ควงทายาทเล่าธุรกิจ เอ็มเค แผนนั่งกุนซือ วัย 75 ปี

'ฤทธิ์ ธีระโกเมน' แม่ทัพ "เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป" ฉายแผนธุรกิจร้านอาหาร กลับมาเปิดแบรนด์เรือธง "เอ็มเค สุกี้" เชิงรุก 15-20 สาขา ส่ง "แหลมเจริญ ซีฟู้ด" ลุยแฟรนไชส์ บุกต่างประเทศ ดันน้ำจิ้ม ส่งออก เปิดตัวทายาทรุ่น 2 เคลื่อนอาณาจักรหมื่นล้าน เผยเตรียมผันตัวนั่งกุนซือวัย 75 ปี
ไม่บ่อยนักที่มหาเศรษฐีของเมืองไทย "ฤทธิ์ ธีระโกเมน" เจ้าของอาณาจักรธุรกิจอาหารหม้อร้อนเบอร์ 1 อย่าง "เอ็มเค สุกี้" จะออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
แม้มีบ้างที่ไปงานสัมนา แต่หากสื่อประชิดตัว เพื่อพูดคุย มักจะปฏิเสธอย่างสุภาพที่จะตอบคำถาม เล่าแผนธุรกิจ หรือเรื่องราวที่ใคร่รู้
ทว่า งานมหกรรมการแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับโลกที่จัดในไทยอย่าง "THAIFEX - Anuga Asia 2024" ไม่เพียงได้เห็น "เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป" ยกทัพธุรกิจมาโชว์ศักยภาพ จากแบรนด์หลัก รวมถึงอวดโฉม 6 ธุรกิจใหม่ เพื่อเบ่งอาณาจักรให้ยิ่งใหญ่
ยิ่งกว่านั้น นักธุรกิจผู้เป็นเหมือนมังกรเร้นกาย ได้ควง "ทายาท" และบอกเล่าแผนธุรกิจโดยสังเขป รวมถึงการเปิดใจ เตรียมถอยไปอยู่เบื้องหลัง เหมือนเป็นบทบาท "กุนซือ" เพื่อเปิดทางให้เจนเนอเรชั่น 2 บริหารงานเต็มที่
ธุรกิจร้านอาหาร "ติดลบ" ทั้งที่ควรโตเป็นบวก
ฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประเดิมการให้มุมมองถึงภาวะเศรษฐกิจ กำลังซื้อในไตรมาสแรก โดยยอมรับว่าภาพใหญ่ยังประเมินยาก แต่หากเจาะลึกลงภาพรวมธุรกิจร้านอาหารที่ตนเองขับเคลื่อน ถึงขั้นสะท้อนไตรมาสแรก "ไม่ค่อยดี" และเข้าขั้น "ถดถอย" ทั้งอุตสาหกรรม นั่นเป็นภาพที่เกิดขึ้นเท่าที่สำรวจพบเจอ
ด้านผลกระทบ เกิดจากกำลังซื้อผู้บริโภคหดตัว แม้บริษัทจะมีกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการ แต่ไม่เพียงพอในการผลักดันตลาด
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2 ประเมินธุรกิจร้านอาหารจะอยู่ในสถานการณ์ใกล้เคียงกับไตรมาส 1 และหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดเผชิญตัวเลข "ติดลบ" หรือ Negative เล็กน้อย เพราะผลพวงจากกำลังซื้อของประชาชนที่หายไปมีหนี้ครัวเรือน หากคาดการณ์ครึ่งปีหลัง ยังไม่แน่ใจตลาดจะจะดีขึ้นหรือไม่ เพราะจะต้องรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จะมีแรงส่งขนาดไหน
"ร้านอาหารไตรมาสแรกไม่ค่อยดี อยู่ในภาวะถดถอยทั้งตลาด เพราะกำลังซื้อไม่ดี ไตรมาส 2 คาดว่าสถานการณ์ใกล้เคียงไตรมาสแรก ทั้งปีอาจ Negative เล็กน้อย ทั้งที่ควรจะเป็นบวกหรือ Positive เพราะกำลังซื้อหายไป หนี้ครัวเรือนด้วย ครึ่งปีหลังจะดีขึ้นไหม ต้องรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะกระตุ้นได้ขนาดไหน..ถ้ามีนะ..ถ้ามี"
ผ่าแนวรบครั้งใหญ่ เบ่งอาณาจักร เอ็มเคฯ
แผนของเอ็มเคในปี 2567 ได้วางแนวรุกขยายธุรกิจครั้งใหญ่ ทั้งการนำกลุ่มธุรกิจ “MK Group”เสนอ 6 ไฮไลต์พอร์ตธุรกิจใหม่ ในงาน THAIFEX - Anuga Asia 2024 เพื่อสานเป้าหมาย "เป็นมากกว่าธุรกิจอาหาร" ดังนี้
1.ธุรกิจ “แฟรนไชส์” ภายใต้ “International Franchise” เพื่อสปีดการเปิดร้านสุกี้ เอ็มเค “แบรนด์สุกี้อันดับ 1 ของไทย” และ “ร้านแหลมเจริญ ซีฟู้ด
2.ลุยโลจิสติกส์ ภายใต้ “M-Senko Logistic” ชูบริการ One Stop Services for all Business รองรับสินค้าทั้งกลุ่มอาหารและไม่ใช่อาหารหรือ Non – Food นำความเชี่ยวชาญในการขนส่งแบบ cold-chain logistics บริการลูกค้าทั่วประเทศไทย
3.ปั้น "มาร์ค วัน อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์” (Mark One Innovation Center) ลุยสินค้าสุขภาพ เช่น ขนมขบเคี้ยวฯ พร้อมช่วย "เกษตรกรไทย" ที่เจอปัญหา "ราคา" การระบายผลผลิต
4.ให้บริการรับจ้างผลิตหรือ OEM/ODM ผ่านบริษัท IFS พร้อมรองรับบริการออกแบบและผลิตครบวงจร สำหรับสินค้าหมวด เกี๊ยว, ชุบแป้งทอด, ติ่มซำ, บะหมี่ และอื่น ๆ
5.“MK Food Service” สินค้าและบริการด้านอาหารแบบครบวงจรสำหรับลูกค้าประเภทธุรกิจ เช่น องค์กรขนาดใหญ่ สายการบิน โรงพยาบาล โรงเรียน
ฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองค์ กรุ๊ป
6.ผลักดัน “น้ำจิ้มสุกี้ MK แบบขวด” รุกตลาดทั่วโลก เช่น บุกตลาดสหรัฐ ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็นต้น โดยโอกาสของตลาดซอสมีสูงมาก เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่มีขนาด 5 หมื่นล้านบาท ถึง "แสนล้านบาท" ตีคู่การเปิดสาขาของร้านเอ็มเค สุกี้
"ภาพรวมยอดขาย น้ำจิ้มสุกี้ MK แบบขวด จะเฉลี่ยประมาณ 4-5 แสนขวดต่อเดือน คาดว่าทั้งปีจะสร้างยอดขายในปีแรกที่ 300 ล้านบาทและปีต่อไปโตเท่าตัว"
โดยงานไทยเฟ็กซ์ คาดว่า น้ำจิ้มสุกี้ MK จะเตะตา คู่ค้าผู้นำเข้าและส่งออกในประเทศต่างๆ จากปัจจุบันขายในร้านของตนเอง เป็นสเต็ปแรก สเต็ปที่ 2 ขายในซูเปอร์มาร์เก็ต สเต็ปที่ 3 ขายในร้านสะดวกซื้อ และสเต็ปที่ 4 คือส่งออกนั่นเอง
"ที่บอกว่าผมจะไม่ทำน้ำจิ้มขาย ไม่จริง..ไม่เคยพูด"
แฟรนไชส์ จิ๊กซอว์ผลักดัน "แหลมเจริญ ซีฟู้ด" โกอินเตอร์
สำหรับการผลักดันพอร์ตโฟลิโอ แบรนด์อาหารไทยซีฟู้ดกับ แหลมเจริญ ขยายไปในต่างประเทศ ผ่านรูปแบบแฟรนไชส์ เนื่องจากเป็นอาหารไทยในรูปแบบซีฟู้ด ที่ยังไม่มีในตลาดโลก โดยในช่วงที่ผ่านมาได้ขยายไปในประเทศมาเลเซียแล้ว มีสาขารวม 3 สาขา และในปีนี้จะเปิดเพิ่ม 5 สาขา ทำให้มีสาขารวม 8 สาขาในสิ้นปีนี้ซึ่งการลงทุนในมาเลเซีย จะมีพันธมิตรมาร่วมมือลงทุน ส่วนประเทศอื่นๆ ที่สนใจจะมีทั้งในตะวันออกกลางและสหรัฐ เป็นต้น
นอกจากนี้วางแผนจะรีโนเวทสาขาของเอ็มเค ให้ดูทันสมัยมากขึ้น วางงบลงทุนไว้ 1 ล้านบาทต่อสาขา งบรวมประมาณ 400 ล้านบาท เพื่อปรับสาขาอย่างต่อเนื่อง 400 สาขาในช่วง 3 ปีนี้ ร่วมขยายคนรุ่นใหม่ จากในปัจจุบันมีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ประมาณ 20%
อีกทั้งวางแผนงบลงทุนซื้อแบรนด์ใหม่เข้ามาเสริมทัพประมาณ 200 ล้านบาท จำนวน 1-2 แบรนด์ โดยแบรนด์แรกมาจากประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมสูง คาดว่าจะเข้ามาเสริมพอร์ตธุรกิจให้ดูทันสมัยมากขึ้น ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ และเน้นคอนเซ็ปต์การดูแลสุขภาพ
หม้อร้อน "สุกี้" ผู้บริโภคยังทานได้เรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางธุรกิจร้านอาหาร โดยเฉพาะประเภทหม้อร้อน มีการแข่งขันเดือด ผู้เล่นผุดเหมือนดอกเห็ด และมีเมนูใหม่ๆ เช่น หม่าล่า เข้ามาชิงความนิยมและพื้นที่ในกระเพาะ
"ฤทธิ์" ยังมอง "สุกี้" ไม่เสื่อมความนิยม ยิ่งเอ็มเค อยู่ในตลาดยาวนานยืนหนึ่งถึง 4 ทศวรรษ สะท้อนว่าสุกี้ ไม่ใช่เทรนด์ แต่เป็นอาหารที่เหมือนผัดกระเพรา ยังรับประทานไปได้เรื่อยๆ แต่ในฐานะผู้ประกอบการ ต้องมีการปรับตัว "ดัดแปลง" เมนูให้เข้ากับยุคสมัย ความต้องการของผู้บริโภค เช่น มีน้ำซุปต้มยำเพิ่มทางเลือก น้ำซุปน้ำดำมีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุนนิดๆ เพื่อให้รสชาติเหมาะสมตามสมัย โดยน้ำซุปออริจินัลยังอยู่
ทายาทร่วมขับเคลื่อนธุรกิจ
ด้านการบริหารธุรกิจของเอ็มเค ฯ ปัจจุบันมีทายาทเข้ามาร่วมบริหารแล้ว "ฤทธิ์" จึงวางแผนชีวิตการทำงานช่วงอายุ 75 ปี จะพลิกบทบาทไปอยู่ "เบื้องหลัง" มากขึ้น เพื่อเปิดทางให้ลูกๆ เข้ามาดูแลธุรกิจอย่างเต็มที่ จากปัจจุบันอายุ 72 ปี ยังคงมีบทบาทในการบริหารงาน ร่วมวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
นายธีร์ ธีระโกเมน ทายาทรุ่นสอง ผู้บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทวางงบลงทุนไว้ประมาณ 250-300 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาใหม่ในประเทศไทยทั้ง เอ็มเค 15-20 สาขา แหลมเจริญ 10 สาขา และยาโยอิ 15 สาขา โดยเป็นการเร่งขยายสาขาใหม่อย่างเต็มที่ในปีนี้ ภายหลังในปีก่อนชะลอตัวไปผลต่อเนื่องจากโควิด
ภาพรวมในปัจจุบัน เอ็มเค มีสาขาในประเทศไทย 450 สาขา แหลมเจริญ 45 สาขา และ ยาโยอิ 200 สาขา
จากแผนธุรกิจที่เร่งผลักดันการเติบโตในปี 2567 จะทำให้ภาพรวมสิ้นปีนี้ สร้างผลประกอบการอยู่ที่ประมาณ 1.6-1.7 หมื่นล้านบาท จากปีก่อน สร้างรายได้รวมประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท โดยรายได้หลักมาจาก เอ็มเค สุกี้ สัดส่วน 75% รองลงมาคือ แหลมเจริญ ยาโยอิและอื่นๆ
"เรารอให้ตลาดฟื้นตัว จึงกลับมาขยายธุรกิจแบบเต็มสูบหรือ Full plan ขณะเดียวกันยังคาดหวังว่าปี 2567 ยอดขายจะกลับมาขยายตัว และทำเงินเกินกว่าช่วงโควิดที่ระดับ 1.6 หมื่นล้านบาทด้วย"