‘โซดาสิงห์’ ลงสนามน้ำเมา ปั้น ‘ไฮบอล’ บุกเกาหลี รับเทรนด์วิสกี้พรีเมียมโต

"โซดาสิงห์" แตกไลน์สินค้าสู่ SINGHA HIGHBALL เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เซ็กเมนต์พรีเมียม ประเดิมเจาะตลาดเกาหลี ขายผ่านร้านสะดวกซื้อเบอร์ 1 GS25 แบบเอ็กซ์คลูสีฟ มองโอกาสต่อยอด "โซดา" สู่ตลาดโลก หลังไทยแกร่งมาร์เก็ตแชร์ 92-93%
นับเป็นการเดิมพันและก้าวสำคัญของ “โซดาสิงห์” ที่เป็นเจ้าตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ประเภท “โซดา” โดยยืนหนึ่งมาอย่างยาวนาน อีกทั้งแข็งแกร่งเกินต้าน ยังหาคู่แข่งมา “โค่น” ได้ยาก
ปี 2567 ความเคลื่อนไหวสำคัญของ “โซดาสิงห์” คือการเปลี่ยนสนามการค้าขายจากเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ไปสู่สนามน้ำเมาหรือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั่นเอง
“โซดาสิงห์” เพิ่งเปิดตัว “SINGHA HIGHBALL” หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทค็อกเทลไฮบอล ที่ผู้บริโภครับรู้ว่าเป็น “วิสกี้ผสมโซดา” นั่นเอง ทว่า ในประเทศแถบเอเชียอย่างญี่ปุ่น และเกาหลี จะใช้เหล้าหลากชนิดในการรังสรรค์เมนูไฮบอล เช่น เหล้าอะวาโมริ และโซจู เป็นต้น
นายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล Chief Marketing Officer บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2567 จะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์สำหรับโซดาสิงห์ และแนวทางการทำตลาดจากนี้ไป จะมุ่งตลาดต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากโซดาสิงห์ในประเทศไทยเป็นเบอร์ 1 ที่มีส่วนแบ่งการตลาดเกินกว่า 90% การจะเพิ่มส่วนแบ่งมากกว่านี้เป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้น
SINGHA HIGHBALL ขายเอ็กซ์คลูสีฟร้าน GS25
สำหรับการเปิดตัว SINGHA HIGHBALL นำร่องทำตลาดในประเทศเกาหลีใต้เป็นแห่งแรก และจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อแบรนด์ “GS25” ในรูปแบบเอ็กซ์คลูสีฟ ราคา 4,000 วอน หรือกว่า 100 บาทต่อกระป๋อง
“GS25” ถือเป็นผู้นำร้านสะดวกซื้อในประเทศเกาหลีใต้ โดยมีร้านให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 10,000 สาขาทั่วประเทศ
ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล
“โซดาสิงห์เราพยายามจะไปโตต่างประเทศ เพราะมาร์เก็ตแชร์ในประเทศเราอยู่ที่ 92-93% แล้ว”
ภาพรวมตลาดโซดาในประเทศไทย มีการรายงานตัวเลขอยู่ที่ระดับ 15,000 ล้านบาท นอกจากสิงห์เป็นผู้เล่นใหญ่ ผู้ท้าชิงก็ใหญ่ไม่แพ้กันอย่างโซดาช้าง และปั้นอีกแบรนด์เข้าสู้อย่างโซดาร็อคเมาเท็น หากดูผลงานครึ่งปีแรก 2567ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จะพบยอดขายเชิงปริมาณของน้ำดื่มช้างและโซดาช้าง 25 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 20.4% และเมื่อดูโซดาร็อคเมาเท็นจะอยู่ที่ 21 ล้านลิตร ลดลง 8.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อนขายอยู่ 23 ล้านลิตร
อย่างไรก็ตาม การต่อยอดโซดาสิงห์ของบริษัท ไม่ได้มีแต่น้ำเมาไฮบอล จะเห็นว่าที่ผ่านมาการปั้น "สิงห์ เลมอนโซดา" เป็นอีกหมากรบที่ใช้จุดเด่นของความซ่าในแบบสิงห์ มาสู่การลุยตลาดซอฟต์ดริ้งค์หรือน้ำอัดลม และสร้างยอดขายเติบโตในทิศทางที่ดีด้วย
คนรุ่นใหม่เกาหลี บูมตลาด “ไฮบอล”
นีลเส็นไอคิว(nielseniq)เผยเทรนด์การบริโภคเครื่องดื่มไฮบอลในประเทศเกาหลีผ่านช่องทางร้านอาหาร ผับ บาร์ สถานบันเทิงต่างๆ ฯ หรือเรียกว่า On Premise มีการเติบโต สอดคล้องกับมินเทล(Mintel) รายงานภาพรวมตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศเกาหลีเป็นยุคของไฮบอลหรือ The Era of the highball เลยทีเดียว
ทั้งนี้ ผู้บริโภคที่เป็นพลังขับเคลื่อนตลาดไฮบอล คือนักดื่มวัยมิลเลเนียลและเจนเนอเรชันซี(GenZ) ที่เปลี่ยนพฤติกรรมหาประสบการณ์ดื่มใหม่ๆและมีความลักชัวรีขึ้นหลังพ้นวิกฤติโควิด-19 จากเดิมคนเกาหลีใต้นิยมดื่มโซจูและเบียร์มากสุด
อย่างไรก็ตาม รายงานยังแบ่งสัดส่วนตลาดน้ำเมาหมวดหมู่เหล้า(Spirits)ในเกาหลีใต้ปี 2565 พบว่า โซจู ครองสัดส่วนมากสุด 97.6% ที่เหลือเป็นไป๋จิ่ว(Baijiu) สก็อตช์วิสกี้ วิสกี้อื่นๆ และอเมริกันวิสกี้
บิ๊กน้ำเมาลงสนามกันพรึ่บ!
เมื่อตลาดเครื่องดื่มแอลกฮอล์ไฮบอลเป็นดาวรุ่งและมีการเติบโตเร็วสุด ทำให้บิ๊กน้ำเมาเสิร์ฟสินค้าแข่งขันกันคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นค่ายวิสกี้เบอร์ 1 ของโลกอย่างดิอาจิโอ จิมบีม(Jim Beam) และซันโทรี่ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ไฮบอล เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกวางไว้ในเซ็กเมนต์พรีเมียม โดยแนวโน้ที่ผู้ประกอบการมองตลาดที่มีกำลังซื้อสูงยังมีศักยภาพและโอกาสเติบโตได้อีก
เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ “สิงห์” มั่งคั่ง 20,000 ล้านบาท
สิงห์เป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่น้ำเมาของประเทศไทยและเป็นอาณาจักรแสนล้านบาท โดยมี “เบียร์” เป็นพอร์ตโฟลิโอสำคัญ และที่ผ่านมาบริษัทยังมีการแตกไลน์สู่วิสกี้ ภายใต้แบรนด์ “ซิลเวอร์ไนท์” (Silver Knight)ทำตลาด
ขณะที่กลุ่มสินค้าไม่มีแอลกอฮอล์ จากเครื่องดื่มแบรนด์ต่างๆ ทั้งน้ำดื่มสิงห์ น้ำแร่เพอร์ร่า โซดาสิงห์ สิงห์ เลมอนโซดา ฯ และอีกมากมาย ปัจจุบันสร้างรายได้เติบโตต่อเนื่องทะลุ 20,000 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว
โดยการทำตลาดโซดาสิงห์ที่ผ่านมา มีการใช้จุดแข็งของแบรนด์คอลแลปกับศิลปินระดับโลกสร้างการรับรู้ มีการต่อยอดสู่เสื้อผ้า สินค้าแฟชั่นด้วย
ปี 2567 กลุ่มสินค้าไม่มีแอลกอฮอล์ ยังมองโอกาสเติบโตที่ 10% โดยสินค้าที่เติบโตโดดเด่น มีทั้ง สิงห์เลมอนโซดา โตมากสุด น้ำแร่เพอร์ร่าเติบโต 2 หลัก น้ำดื่มสิงห์ตั้งเป้าโตมากกว่าตลาดรวม 6.5% ส่วนโซดาสิงห์การเติบโตทรงตัว เป็นผลกระทบจากตลาดสุราสี "ติดลบ" เป็นต้น