ส่องทางออกค้าปลีกฝ่ามรสุมกำลังซื้อ ผนึกพันธมิตร - รีแบรนด์ กู้ยอด

ผศ.ดร.บุปผา ลาภะวัฒนาพันธ์ อาจารย์คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ และการสื่อสารการตลาด กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจไทย และทั่วโลกอยู่ในภาวะซึมยาว ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ และภาคธุรกิจค้าปลีก ซึ่งยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะฟื้นตัวเมื่อใด

ทั้งนี้  ธุรกิจค้าปลีกแบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่

1. ธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค
2. ธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ และความงาม
3. ธุรกิจค้าปลีกสินค้าก่อสร้าง ซ่อมบำรุง ตกแต่งบ้าน
4. ธุรกิจค้าปลีกบริการ ภัตตาคาร ร้านอาหาร
5. ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์

ซึ่งศักยภาพการเติบโตของแต่ละกลุ่ม ผู้ประกอบการต้องมีการวิเคราะห์ในเชิงจุลภาค (Micro) เพื่อวางแผนธุรกิจอย่างรอบด้าน ยกตัวอย่าง ในร้านค้าปลีก อาจมีสินค้าที่สร้างยอดขายดี และสินค้าที่มียอดขายตกลง ใครคือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อวางแผนทำการตลาดให้ตรงจุดที่สุด

“การวิเคราะห์ในเชิงจุลภาค จะทำให้ผู้ประกอบการมองเห็นปัจจัยตั้งต้นที่ส่งผลต่อรายได้ และความอยู่รอดของธุรกิจ"

ทั้งนี้ เมื่อรู้ถึงข้อมูลกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งแบ่งลูกค้าออกเป็น 4 กลุ่มได้แก่ A B C และ D ตามรายได้  โดยผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้กลุ่มลูกค้าระดับ C ลงมาได้รับผลกระทบมากที่สุด ทำให้ค้าปลีกที่เน้นจับกลุ่มลูกค้า C ลงมา มียอดขายลดลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะค้าปลีกที่เป็นผู้ประกอบการรายเล็ก แต่ผู้ประกอบการค้าปลีกที่จับกลุ่ม B และ A ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากสองกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบน้อยจากภาวะเศรษฐกิจ

ขณะที่แนวทางการปรับตัวของภาคค้าปลีกที่จับกลุ่มลูกค้าระดับ C ลงมา สิ่งสำคัญคือ ควรมุ่งหาพันธมิตร และเครือข่ายทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อสามารถร่วมมือ และทำให้ “ต้นทุน” ในการดำเนินธุรกิจต่ำมากที่สุด พร้อมทำให้กลุ่มลูกค้าเกิดความรู้สึกคุ้มค่าในการใช้จ่ายเงินซื้อสินค้า รวมถึงต้องติดตามนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เพื่อให้สามารถปรับกลยุทธ์ และวางแผนธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ภาคค้าปลีกที่เน้นจับกลุ่มลูกค้าในระดับ B และ C ควรมุ่งการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น เพื่อสามารถวางแผนทำการตลาดได้อย่างถูกจุด สามารถนำเสนอสิ่งที่เหนือกว่าความคาดหวังของกลุ่มลูกค้า ร่วมสร้างความประทับใจ ส่วนภาคค้าปลีกที่เน้นตลาด A ที่เป็นกลุ่มมีกำลังซื้อสูงสุด ต้องทำให้ลูกค้ากลุ่มเดิมกลับมาซื้อซ้ำ และไม่ควรให้หายไป

อย่างไรก็ตาม อีกแนวทางที่จะสร้างความแตกต่างให้แก่ธุรกิจในตลาดค้าปลีกที่มีการแข่งขันสูง นั่นคือ การรีแบรนด์, รีทาร์เก็ต และ รีโพสิชันนิ่ง เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และสร้างการจดจำใหม่ ให้แก่ลูกค้า แต่การรีแบรนด์และรีทาร์เก็ต ทุกอย่างต้องใช้เวลาและงบประมาณ โดยในปีนี้จึงเห็นภาพรวมของค้าปลีกไทยรายใหญ่มีการประกาศรีโนเวทสาขาใหม่ เพื่อพร้อมรับมือกับการแข่งขันที่มีสูงขึ้น

อีกปัจจัยสำคัญคือ  การวางแผนเปิดสาขาใหม่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง โดยทำเลที่ควรมุ่งได้แก่ในย่านโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีหมู่บ้านจำนวนมาก การเปิดในทำเลที่มีโครงสร้างพื้นฐานสะดวกกับการเดินทาง อย่างในเส้นทางกับรถไฟฟ้าในเส้นทางต่างๆ เพื่อร่วมขยายกลุ่มลูกค้าที่มีจำนวนมหาศาล

สำหรับข้อเสนอแนะต่อภาครัฐในการร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาวนั้น อยากให้จัดทำเป็นแพ็กเกจเจาะตามกลุ่มฐานรายได้ที่แตกต่างกัน ไม่ควรจัดทำนโยบายเดียวเพื่อคนทั้งประเทศ อาจแก้ปัญหาได้ไม่ตรงจุด รวมถึงนโยบาย “ดิจิทัล วอลเล็ต” ควรเลือกสินค้าในการเข้าร่วมโครงการและไม่ควรเน้นสินค้าที่มีความฟุ่มเฟือย เพราะบางอย่างอาจเป็นการทำลายโครงสร้างรายได้ในอนาคต เป็นการติดกับดักซอฟต์แวร์ให้แก่คนที่มีรายได้น้อยในเรื่องความฟุ่มเฟือยได้

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์