เพาเวอร์ มอลล์ ชิงเครื่องใช้ไฟฟ้า 2.2 แสนล้าน เจาะพรีเมียม-จัดบิ๊กอีเว้นท์
ผ่าสมรภูมิเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่า 2.1 – 2.2 แสนล้านบาท 'เพาเวอร์ มอลล์' เร่งขยายกลุ่มลูกค้าพรีเมียม แผนนำเสนอสินค้าใหม่ เร่งจัดอีเว้นท์ใหญ่ 'เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า โชว์เคส' ผนึกแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าร่วมนำเสนอสินค้ารุ่นใหม่ รับเทรนด์เอไอ มาแรง
นายรัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริหารสินค้า เพาเวอร์ มอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ฉายภาพ ภาพรวมตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มกลับมาคึกคัก จากการมีมหกรรมกีฬาขนาดใหญ่ในโลก ทั้งฟุตบอลยูโรที่เริ่มต้นขึ้นแล้วตั้งแต่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามมาด้วยกีฬาโอลิมปิกในเดือน ก.ค.นี้ ที่มีผลต่อตลาดกลุ่มทีวีและกลุ่มเครื่องเสียง
รวมถึงมาตรจากภาครัฐ ดิจิทัล วอลเล็ต และงบประมาณที่จะออกมาในครึ่งปีหลัง มีผลทำให้ตลาดรวมในปี 2567 ที่มีมูลค่ารวมประมาณ 2.10-2.22 แสนล้านบาท อาจจะขยายตัวในระดับหลักเดียวจากปีก่อน
หากประเมินภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้มีมูลค่าประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ขยายตัวหลักเดียว โดยได้รับแรงบวกจากการมีมาตรการทางภาษี Easy E-Receipt ช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย ประกอบกับอากาศที่ร้อน จึงผลต่อกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งเครื่องปรับอากาศและตู้เย็นมีการเติบโตที่ดี โดยเครื่องปรับอากาศขยายตัว 10-15% แต่เมื่อเข้าสู่เดือน พ.ค. ตลาดชะลอตัวลง เนื่องจากกลุ่มลูกค้าได้ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าไปแล้ว และกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัดยังมีกำลังซื้อที่ไม่ดีนัก
“ปกติในช่วงหน้าร้อน เครื่องปรับอากาศจะขยายตัวมากกว่านี้ โดยในปีนี้มีการเติบโตประมาณ 10-15% เท่านั้น ส่วนภาพรวมตลาดทีวี ในช่วงต้นปี มีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท ตลาดหดตัวลง 9-10% เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไป มีการดูขอผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้น แต่ประเมินว่า เมื่อมีงานกีฬาระดับโลก อย่างฟุตบอลยูโร ตามด้วยกีฬาโอลิมปิกจะมีผลต่อตลาดรวมโทรทัศน์ให้คึกคักขึ้น”
หากประเมินตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วง 4 เดือนแรก แบ่งเป็น ตลาดที่มีขนาดใหญ่สุดคือ 1.โทรศัพท์มือถือ มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท มีการขยายตัวหลักเดียว รองลงมา 2. ตลาดเครื่องปรับอากาศ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท มีการเติบโต 10-15% 3. โทรทัศน์ มูลค่า 5,000 ล้านบาท หดตัวลง 9-10% ตามมาด้วย 4. เครื่องซักผ้า และตู้เย็น
เพาเวอร์ มอลล์ รุกขยายตลาดพรีเมียม
แผนในการขยายตลาดของ เพาเวอร์ มอลล์ (POWER MALL) ในช่วงครึ่งปีหลัง ยังมุ่งเน้นแผนทำตลาดเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าในระดับเอ และบีบวกขึ้นไป ถือเป็นลูกค้ากลุ่มหลัก โดยจะมุ่งนำเสนอทั้งสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ อย่างโทรทัศน์ขนาด 75-100 นิ้ว พร้อมปรับแผนนำเสนอสินค้าใหม่ในสาขาต่างๆ เน้นกลุ่มที่มีการขยายตัวสูง เช่น จัดพื้นที่แสดงเครื่องปรับอากาศมากขึ้น อีกทั้งได้นำเสนอสินค้ากลุ่มดูแลสุขภาพและสินค้าไลฟ์สไตล์มากขึ้น ตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่
พร้อมมีการนำแบรนด์จีนที่กำลังได้รับความสนใจเข้ามาทำตลาดและจัดแสดงมากขึ้น ทั้งแบรนด์ ไฮเซ่นส์ ไฮเออร์ ทีซีแอล เป็นต้น
เปิดชอป แอปเปิ้ล สาขาใหญ่สุดที่มีอยู่ในห้างสรรพสินค้าทั่วโลก
อีกทั้งเพาเวอร์ มอลล์ สาขาในสยามพารากอน ยังมีการปรับพื้นที่ใหม่ โดยมีชอปของแบรนด์ แอปเปิ้ล (Apple) ได้ขยายพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้นถึง 200 ตร.ม. จึงกลายเป็น ชอปที่มีขนาดใหญ่สุดในโลก ที่เปิดให้บริการในห้างสรรพสินค้า รองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติ
อีกทั้งภาพรวมสาขาของ เพาเวอร์ มอลล์ ที่สยามพารากอน นับเป็นสาขาที่สร้างยอดขายสูงสุด เมื่อเทียบกับสาขาอื่นๆ ที่มีอยู 8 สาขา ตามมาด้วย สาขาเอ็มโพเรียม บางกะปิ และงามวงศ์วาน
จัดงาน “เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า โชว์เคส” ร่วมมือ 200 แบรนด์
นอกจากนี้ยังเร่งจัดอีเว้นท์เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและบรรยากาศของตลาดกับงาน “เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า โชว์เคส” (POWER MALL ELECTRONICA SHOWCASE) มหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าไอทีครั้งยิ่งใหญ่ ที่ร่วมมือ 200 แบรนด์ มาจัดงานและแสดงสินค้ารุ่นใหม่ พร้อมด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเทรนด์ที่มาแรงในปีนี้เป็นเรื่อง เอไอ ผสมรวมอยู่ในเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านหลากหลายในบ้าน เพื่อทำให้ผู้บริโภคสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกมากขึ้น
สำหรับงาน “เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า โชว์เคส” (POWER MALL ELECTRONICA SHOWCASE) มีกำหนดจัดขึ้น จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน ถึง 29 กรกฎาคม 2567 ที่เพาเวอร์มอลล์ทุกสาขา มีพื้นที่จัดงานรวม 5.50 หมื่น ตร.ม. ประเมินว่าจะสามารถสร้างยอดขาย 534 ล้านบาท เติบโต 68% จากปีก่อน
นอกจากนี้ เพาเวอร์ มอลล์ ยังเดินหน้าปรับโฉมสาขาในนครราชสีมา และสาขา งามวงศ์วานใหม่ ให้สอดรับกับเทรนด์และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบัน
แบรนด์ใหญ่ โตชิบา-แอลจี-ซัมซุง ส่งสินค้าเทคโนโลยี เอไอ ชิงดีมานด์
กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานบริษัท บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จํากัด กล่าวว่า โตชิบาได้มุ่งมั่นนำเสนอสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ตอบสนองกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า ภายใต้แนวทางการสร้างมาตรฐานและความยั่งยืน รวมถึงการมีทีมงานฝ่ายขายที่พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกแก่กลุ่มลูกค้า
อีกทั้งโตชิบา ยังมีฐานการผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ในประเทศไทย เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้มีการเติบโต
ขวัญใจ นพนันทกุล ผู้บริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แบรนด์แอลจี ได้ส่งสินค้านวัตกรรมทั้ง โทรทัศน์แบบไร้สาย ขนาด 97 นิ้ว เป็นสินค้าเทคโนโลยีใหม่ที่มีเพียงแบรนด์เป็นครั้งแรกในโลก เข้ามาขยายตลาดในช่วงที่มีการแข่งขันทั้งฟุตบอลยูโร และมหกรรมกีฬาโอลิมปิก คาดว่าจะมีผลช่วยกระตุ้นบรรยากาศให้คึกคัก
ชวพจน์ เทียนทอง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจภาพและเสียง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เสริมว่า แบรนด์ซัมซุง ได้นำเทคโนโลยีเอไอ ไปอยู่รวมในเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายรุ่น ตั้งแต่โทรทัศน์ โทรศัพท์ เครื่องปรับอากาศและเครื่องซักผ้า เป็นต้น ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า และเทคโนโลยีเอไอ ที่ช่วยประสานการทำงานต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้ประมาณ 30%