ชี้สาเหตุ ค้าปลีก-ค้าส่ง หลายทำเลซบเซา การวางแผน - กลยุทธ์ไม่ตอบโจทย์ลูกค้า

ภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีกในประเทศไทยเป็นตลาดที่มีมูลค่ารวมกว่า 4 ล้านล้านบาท ผ่านมาครึ่งปี 2567 ยังเผชิญฝ่ามรสุมหลายลูก ทั้งกำลังซื้อในประเทศไทย สถานการณ์หนี้ครัวเรือน อัตราเงินเฟ้อ และภาวะสงครามที่ยังต้องติดตาม อาจกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยในระยะยาว

ทำให้ภาพรวมกำลังซื้อในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม C และ D ยังมีความชะลอตัวอยู่ ยกเว้นกลุ่ม B และ A ที่มีการขยายตัวดีอยู่ จึงสะท้อนถึง ค้าปลีกในหลากหลายทำเลไม่สดใส รวมถึงกลุ่มค้าส่ง เช่นกัน

“ธนินท์รัฐ ภักดีภิญโญ” ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจค้าปลีก สะท้อนภาพรวมโครงการค้าปลีกและค้าส่งในหลายทำเลของประเทศไทยที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง นอกจากผลจากสถานการณ์เศรษฐกิจแล้ว ยังมาจากการวางรูปแบบและดีไซน์ที่ไม่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าคนไทย รวมถึงหลายโครงการได้มีแนวทางบริหารในธุรกิจรูปแบบครอบครัวเป็นหลัก

อีกทั้งหากออกแบบค้าส่งที่มีรูปแบบชั้นเดียว อาจไม่ตอบโจทย์ลูกค้าคนไทยที่ชื่นชอบศูนย์การค้าและอาคารที่มีเครื่องปรับอากาศมากกว่า จากสภาพอากาศในประเทศไทย นอกจากนี้การวางกลยุทธ์ของเจ้าของธุรกิจก็มีความสำคัญมาก ที่ต้องปรับให้เหมาะสมกับตลาดและความต้องการของกลุ่มลูกค้าในพื้นที่

การวางแผนการตลาดไม่ตรงใจกลุ่มลูกค้า

อีกทั้งหากประเมินค้าปลีกขนาดใหญ่จากการลงทุนของกลุ่มต่างชาติในช่วงที่ผ่านมา จำนวนหลายรายยังไม่สำเร็จในตลาดไทย มีปัจจัยมาจากหลายองค์ประกอบ ทั้งทำเลที่ตั้ง อยู่ไกลจากชุมชนขนาดใหญ่ ทำเลโดยรอบมีโรงงานอุตสาหกรรมไม่มากนัก การวางกลยุทธ์ทางการตลาดที่ไม่มีแผนชัดเจน พื้นที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ไม่ตอบโจทย์ ลูกค้าในรัศมีพื้นที่ประมาณ 1-3 กิโลเมตร

อีกทั้งมีการจัดทำป้ายชื่อของโครงการที่ไม่ชัดเจนมากนัก จึงไม่ได้ดึงดูดกลุ่มลูกค้า ประกอบกับเจ้าของโครงการไม่เข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าชาวไทยเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

"การสร้างพลาซ่าลักษณะอาคารทรงไม่สูง ชั้นเดียว ไม่สอดรับกับพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าคนไทย ที่ชื่นชอบการออกแบบของศูนย์การค้ามากกว่า  ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ ทำให้โครงการขาดความน่าสนใจ"

นอกจากนี้ ภาคค้าปลีกยังมีกลุ่มทุนจีนเข้ามาลงทุนด้วย โดยกลุ่มทุนจีนได้เข้ามาลงทุนในภาครถยนต์เช่นกัน ซึ่งเมื่อสะท้อนของปัญหาของการเข้ามาลงทุนของกลุ่มทุนจีนในประเทศไทยหลายอุตสาหกรรม อาจไม่ได้มุ่งทำในเรื่อง ซีเอสอาร์ ควบคู่กันไปด้วย จึงทำให้มีเสียงสะท้อนจากคนในประเทศไทยออกมา เป็นอีกโจทย์ใหญ่ที่ต้องปรับแก้ไขต่อไป 

ค้าปลีกไทย มีโอกาสโตระยะยาว คาดลงทุนใหม่ 10% 

หากประเมินภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยระยะยาว ยังมีศักยภาพดึงดูดการลงทุนสูงอยู่ จากประเทศไทยที่เป็นตลาดหลักของการท่องเที่ยว ทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาในประเทศ อีกทั้งผู้ประกอบการค้าปลีกไทยรายใหญ่ได้มีการขยายลงทุนใหม่ในทุกปี

ทั้งนี้ประเมินว่า ตั้งแต่ปี 2567-2570 ค้าปลีกยังมีการขยายลงทุนอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยปีละ 10% มีทั้งการเปิดสาขาใหม่และการรีโนเวท ทำให้มีพื้นที่ค้าปลีก เพิ่มขึ้นอีก 14.1 ล้าน ตร.ม. 

ภาพรวมทำให้มีพื้นที่รวมในสิ้นปี 2570 อยู่ที่ 37 ล้าน ตร.ม. เป็นการลงทุนของกลุ่มทุนใหญ่ ทั้ง เซ็นทรัล เดอะมอลล์ ทีซีซี แลนด์ และซีพี ทั้งหมดสะท้อนถึง ค้าปลีกของประเทศไทยยังมีศักยภาพในระดับสูงอยู่