ศึกชิงเบอร์ 1 เครื่องดื่มชูกำลัง ‘โอสถสภา - คาราบาว’ โชว์ผลงานแข่งโต

ศึกชิงเบอร์ 1 เครื่องดื่มชูกำลัง ‘โอสถสภา - คาราบาว’  โชว์ผลงานแข่งโต

ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท มี 3 ผู้เล่นรายใหญ่ ที่ขับเคี่ยวแข่งขันกันสร้างการเติบโต เพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาด ได้แก่ เอ็ม-150 “ผู้นำ” จากค่ายโอสถสภา “คาราบาวแดง” ของคาราบาว กรุ๊ป และ “กระทิงแดง” แห่งกลุ่มธุรกิจทีซีพี(TCP)

ผ่านครึ่งทางของปี 2567 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่างทยอยเผยผลประกอบการ ซึ่ง 2 บิ๊กเครื่องดื่มชูกำลังต่างสร้างผลงานการเติบโตได้ ซึ่งน่าสนใจว่าแล้ว “แบรนด์ไหน” ที่สูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาด หรือเพราะตลาดรวมก็เติบโต กลายเป็น “เค้กขุมทรัพย์” ใหญ่ขึ้น

ทั้งนี้ มาดูผลประกอบการของเบอร์ 1 เครื่องดื่มชูกำลังภายใต้บริษัท โอสถสภา จำกัด(มหาชน) ไตรมาส 2 ปี 2567 มีรายได้จากการขาย 7,345 ล้านบาท เติบโต 9.5% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วน “กำไรสุทธิ” อยู่ที่ 604 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9%

ด้านยอดขายหมวดสินค้าหลักตบเท้าสร้างผลงานโดดเด่นทั้งเครื่องดื่มที่ขยายตัว 11.2% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคลเติบโต 26.3% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

ไตรมาส 2 เครื่องดื่มชูกำลังโต 2.1%

เมื่อเจาะกลุ่มเครื่องดื่ม สร้างรายได้จากการขาย 6,103 ล้านบาท เติบโต 11.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ไม่เพียงยอดขายในประเทศที่โต แต่ต่างประเทศก็ร้อนแรง เติบโตถึง 32.5% โดยเฉพาะในตลาดเมียนมา และลาว

ศึกชิงเบอร์ 1 เครื่องดื่มชูกำลัง ‘โอสถสภา - คาราบาว’  โชว์ผลงานแข่งโต

สำหรับยอดขายเครื่องดื่มในประเทศที่ทำเงิน 4,253 ล้านบาท ยังเติบโต 4% และเครื่องดื่มชูกำลังที่เป็นพอร์ตโฟลิโอใหญ่ยังเติบโต 2.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยกลยุทธ์สำคัญมาจากผลิตภัณฑ์(Product)ที่แบ่งตลาดเป็น 2 ราคาอย่างชัดเจน เพื่อขยับสู่ “พรีเมียม” ด้วยราคา 12 บาท และยังคงตลาดวงกว้าง(Mass)ด้วยราคา 10 บาท รวมถึงการมีช่องทางจำหน่ายแข็งแกร่ง เสริมด้วยแคมเปญการตลาดต่างๆ อย่างแบรนด์เรือธงอย่าง “เอ็ม-150” ที่ยืนหนึ่งในตลาดด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 32.2% ยังมี เครื่องดื่มเอ็ม-150 สปาร์คกลิ้ง เจาะคนรุ่นใหม่ วัยมิลเลนเนียล ใช้ Idol Marketing มาจับกลุ่มเป้าหมาย เป็นต้น ซึ่งภาพรวมส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของโอสถสภา ปัจจุบันมีสัดส่วน 46.4%

นอกจากเครื่องดื่มชูกำลังที่มีเอ็ม-150 สร้างการเติบโต เครื่องดื่มหมวดอื่นๆ ขยายตัวไม่แพ้กัน อย่างกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหรือฟังก์ชันนอลดริ้งค์ ครองส่วนแบ่งตลาด 45.9% เพิ่มขึ้น 3.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ “ซี-วิท” เครื่องดื่มวิตามินซี ยังมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 74.4% เติบโต 6.9% ส่วนเปปทีน มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม 1% จากปีก่อน

ครึ่งปีโตกว่าภาพรวมตลาด

ส่วนสินค้าอื่น อย่างข้าวของเครื่องใช้ส่วนบุคคลมีรายได้จากการขาย 715 ล้านบาท เติบโต 26.3% โดยมีแบรนด์เรือธง “เบบี้มายด์” ที่มีแรงส่งสินค้าสบู่เหลวและแป้งเด็ก  ขณะที่สินค้าอื่นๆ รายได้ 527 ล้านบาท ลดลง 19.7% จากการรับจ้างผลิต(โออีเอ็ม)ผลิตภัณฑ์ขวดแก้ว เป็นต้น

สำหรับครึ่งปีแรก บริษัทมีรายได้จากการขาย 14,605 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2% โดยเครื่องดื่มเติบโต 13.1%และผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคลโต 17.6% เมื่อดู “เครื่องดื่มชูกำลัง” ยังสร้างการเติบโตได้ 5.2% “สูงกว่า” อัตราการเติบโตของตลาดรวมในประเทศ ด้านกำไรสุทธิ 6 เดือนแรก อยู่ที่ 1,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9%

คาราบาวแดงเร่งฝีเท้าเขย่าเบอร์ 1

ขณะที่ “คาราบาวแดง” ปีนี้ แม่ทัพใหญ่อย่าง “เสถียร เสถียรธรรมะ” ได้ประกาศเป้าหมายว่าจะเขย่าบัลลังก์ผู้นำปัจจุบัน และผลักดันให้แบรนด์ของ “คาราบาว กรุ๊ป” ขึ้นเบอร์ 1 ให้ได้

สำหรับผลงานไตรมาส 2 คาราบาว กรุ๊ป มีรายได้จากการขายรวม 4,954 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ทว่าแยกย่อย รายได้จากการดำเนินการผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเองลดลง 4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีมูลค่า 2,900 ล้านบาท ส่วน “กำไรสุทธิ” อยู่ที่ 691 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% จากยอดขายที่เพิ่ม และ “ต้นทุนที่ปรับตัวลดลง” รวมถึงการคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ การทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ศึกชิงเบอร์ 1 เครื่องดื่มชูกำลัง ‘โอสถสภา - คาราบาว’  โชว์ผลงานแข่งโต

ตรึงราคา 10 บาทเข้าสู้!

เครื่องดื่มชูกำลังเป็นพระเอกของบริษัท และปี 2567 “เสถียร” ตั้งมั่นในกลยุทธ์การ “ตรึงราคาสินค้า” คาราบาวแดงไว้ที่ 10 บาท สวนทางต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จน “คู่แข่ง” ต่างอั้น และแบกรับภาระไม่ไหว จนต้องขึ้นราคาขายเป็น 12 บาท และเป็นจุดกำเนิดเซ็กเมนต์พรีเมียมอีกด้วย

อาวุธ(ไม่)ลับคาราบาวแดง 10 บาท ที่รับกำลังซื้อชะลอตัว ทำให้โกย “ส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น 10%” เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

นอกจากตรึงราคา 10 บาทไว้ คาราบาวแดง ยังงัดแคมเปญ “บาวแดงช่วยคนไทยสร้างอาชีพ” เพื่อมัดใจกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการเสริมแกร่ง เพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมผู้บริโภคด้วย

เมื่อผู้ตามตรึงราคาสินค้าไว้ที่ 10 บาท ทำให้ "ยักษ์ใหญ่" ทั้งหลายไม่ยอมออกสงครามการแข่งขัน ต่างงัดสินค้าใหม่ ปรับสูตร เพื่อเข้าสู้ ทั้ง "เอ็ม-150" กับสูตรน้ำผึ้งหรือ "เอ็มน้ำผึ้ง" จากโอสถสภา และฝั่งกลุ่มธุรกิจทีซีพี ส่งกระทิงแดงเอ็กซ์ตร้า ฝาแดง ​ กระทิงแดง ทีโอเปล็กซ์-แอล ทอรีน และ กระทิงแดงเอ็กซ์ตร้า ฝาดำ มาขาย 10 บาทด้วย 

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมยอดขายในประเทศของคาราบาว กรุ๊ปมีการปรับตัวลดลง 5% หรือไตรมาส 2 มีรายได้ 1,445 ล้านบาท เพราะคาราบาว กรุ๊ปยังมีเครื่องดื่มอื่นในพอร์ตโฟลิโอด้วย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่มวิตามินซี “วู้ดดี้ ซี+ล็อค” เครื่องดื่มชูกำลังอัดก๊าซคาราบาว และเครื่องดื่มเกลือแร่ คาราบาว สปอร์ต เป็นต้น

ศึกชิงเบอร์ 1 เครื่องดื่มชูกำลัง ‘โอสถสภา - คาราบาว’  โชว์ผลงานแข่งโต

"เบียร์" หนุนจัดจำหน่ายกระจายสินค้าโต 19%

ในปีที่ผ่านมา “เสถียร” ได้เดิมพันครั้งใหญ่ “เปิดตัวเบียร์คาราบาว” เข้าทำตลาดชิงขุมทรัพย์ “แสนล้านบาท” โดยสินค้าเบียร์มาเสริมทัพ “น้ำเมา” ที่ก่อนหน้านี้มีทั้งสุราขาว โซจู วิสกี้ ฯลฯ ซึ่งคาราบาวยังรับบทเป็นผู้รับจ้างจัดจำหน่ายให้กับสินค้าในและนอกเครือด้วย ในส่วนนี้สร้างรายได้ 1,723 ล้านบาท เติบโต 19% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ยุทธศาสตร์สำคัญของการค้าขาย และกระจายสินค้าแน่นอนว่า ต้องเจาะร้านค้าปลีกทั่วไทย การขยายเครือข่ายเข้าถึงร้านค้าทั่วไปดั้งเดิม(Traditonal Trade : TT) ให้ครอบคลุมระดับ “อำเภอ” ทั่วประเทศ

สำหรับรายได้รวมครึ่งปีของบริษัทอยู่ที่ 9,970 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,318.97 ล้านบาท

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์