‘เผ็ดมาร์ค’ โดนจีนก๊อปทั้งร้าน กระจายไปแล้ว 5 แห่ง เหมือนแม้กระทั่งจานใส่ข้าว

ต้นเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา ร้านกระเพราสัญชาติไทยรสชาติจัดจ้าน “เผ็ดมาร์ค” (Phed Mark) ประกาศบนเพจเฟซบุ๊ก “Phed Mark เผ็ดมาร์ค - Pad Kaprao” ว่า ร้านเผ็ดมาร์คมีสาขาเพียง 2 แห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ เท่านั้น ได้แก่ สาขาเอกมัย สำหรับนั่งทานที่ร้าน และสาขาสุขุมวิท 49 สำหรับซื้อกลับบ้านหรือสั่งเดลิเวอรี ส่วนสาขาอื่นๆ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับร้านเผ็ดมาร์ค

จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าว “กรุงเทพธุรกิจ” ได้สอบถามประเด็นดังกล่าวกับ “แทน-กิตติเดช วิมลรัตน์” หนึ่งในผู้ก่อตั้งร้านเผ็ดมาร์ค โดยกิตติเดชระบุว่า ตอนนี้ร้านเผ็ดมาร์คมีเพียง 2 แห่งเท่านั้น ตนเคยลั่นวาจาไว้ว่า สาขาที่สองในรูปแบบนั่งทานที่ร้าน หรือ “Dine-in” จะเป็นการเปิดที่ต่างประเทศ ทว่า ยังไม่ทันได้ปักหมุดร้านเผ็ดมาร์คออริจินัล ก็เกิดร้านเผ็ดมาร์คก๊อปเกรดเอเสียก่อน

สำหรับร้านเผ็ดมาร์คที่จีน ตนทราบข่าวจากลูกค้าชาวจีนที่มาทานที่ร้านแล้วนำรูปมาให้ดู พร้อมเล่าว่า ที่บ้านเกิดมีร้านอาหารหน้าตาละม้ายคล้ายกับร้านเผ็ดมาร์คที่กรุงเทพฯ ซึ่งลูกค้าชาวจีนคนดังกล่าวบอกว่า เมื่อเห็นก็รู้ทันทีว่าไม่ใช่ร้านเผ็ดมาร์คออริจินัล ยังไม่ทันได้ลองชิมด้วยซ้ำไป แม้มองเผินๆ จะมีความคล้ายกันมากจากการตกแต่งไปจนถึงเมนูอาหาร แต่โดยรายละเอียดยังมีความต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ อาทิ โลโก้ที่ไม่มีรูปใบกระเพรา รวมถึงการใส่ถั่วฝักยาวเข้าไปในการปรุงอาหาร เป็นต้น

“กิตติเดช” เล่าว่า ร้านเผ็ดมาร์คตั้งใจเป็นเดสทิเนชันของโลกตั้งแต่วันแรก อยากให้ทั่วโลกรู้ว่า เมืองไทยไม่ได้มีแค่ผัดไทยหรือต้มยำกุ้งเท่านั้น หากถามว่า เป้าหมายในวันแรกสำเร็จแล้วหรือไม่ กิตติเดชบอกว่า ตอนนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จตามความตั้งใจแล้ว ร้านเผ็ดมาร์คกลายเป็นจุดมุ่งหมายที่นักท่องเที่ยวต้องการมาลิ้มรสผัดกระเพรา ถือว่ามาไกลเกินฝันที่มีนักท่องเที่ยวต่อคิวรอกินผัดกระเพรากันหลายร้อยคนต่อวัน

ร้านเผ็ดมาร์คในรูปแบบ Dine-in มีสัดส่วนลูกค้าเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด 100% นับตั้งแต่วันแรกจนถึงตอนนี้ “เผ็ดมาร์ค” ไม่เคยใช้งบการตลาดไปกับการโปรโมตร้านแม้แต่บาทเดียว เน้นการบอกต่อความอร่อยกันปากต่อปาก โดยร้านเผ็ดมาร์คติดอันดับร้านอาหารที่ได้รับคะแนนรีวิวบนแอปพลิเคชัน “เสี่ยวหงชู” (XiaoHongShu) แอปฯ รีวิวตัวท็อปจากแดนมังกรเป็นอันดับต้นๆ มาโดยตลอด กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นฝั่งเอเชีย ทั้งฮ่องกง อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และจีน

-แทน-กิตติเดช วิมลรัตน์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งร้านเผ็ดมาร์ค-

แม้ว่าร้านจะโด่งดังมากในกลุ่มชาวต่างชาติ แต่ “กิตติเดช” ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุปสรรคกับการขยายธุรกิจในอนาคตแน่นอน ซึ่งหลังจากนี้แม้จะยังไม่มีแผนติดสปีดสาขาต่างประเทศ แต่กำลังทำ R&D เตรียมเปิดร้านผัดไทยภายใต้แบรนด์ใหม่ร่วมกับเชฟผัดไทย ต้องการเจาะกลุ่มต่างชาติที่ไม่กินอาหารรสจัด สำหรับ “เผ็ดมาร์ค” มองว่า ไม่สามารถโตไปมากกว่านี้ได้แล้ว แต่จะดึงกลุ่มคนไม่กินเผ็ดมาเป็นลูกค้าได้อย่างไร วิธีเดียวก็คือการขายอาหารไม่เผ็ดนั่นเอง

สำหรับรายได้ร้านเผ็ดมาร์ค ภายใต้ บริษัท เผ็ดมาร์ค จำกัด มีผลประกอบการย้อนหลัง ดังนี้

ปี 2566: รายได้ 19.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 666,667 บาท
ปี 2565: รายได้ 6.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 316,817 บาท
ปี 2564: รายได้ 1.3 ล้านบาท กำไรสุทธิ 147,147 บาท