‘เชสเตอร์’ ไม่หวั่นแฟรนไชส์จีนตีตลาดไทย ทุ่ม 200 ล้าน ผุด 16 สาขา นิวไฮรอบ 23 ปี

‘เชสเตอร์’ ไม่หวั่นแฟรนไชส์จีนตีตลาดไทย ทุ่ม 200 ล้าน ผุด 16 สาขา นิวไฮรอบ 23 ปี

'ซีพีเอฟ' เร่งเครื่อง ‘เชสเตอร์’ ไม่หวั่นแฟรนไชส์ไก่ทอดจีนตลาดตีตลาด ทุ่มงบ 200 ล้านบาท สยายปีกสาขาใหม่ 16 แห่ง มากสุดรอบ 23 ปี รุกเปิดผุดแฟลกชิปสโตร์ตอกย้ำผู้นำตลาดไก่ย่างของไทย

สมรภูมิตลาดอาหารจานด่วนมูลค่า 45,000 ล้านบาท แข่งขันดุเดือด โดยเฉพาะกลุ่มไก่ทอด ที่มีแบรนด์ใหม่จากต่างประเทศ โดยเฉพาะแฟรนไชส์ไก่ทอดจากประเทศจีน ชูราคาถูก  15 บาทเข้ามาเพิ่มกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในประเทศไทย ทว่าในอีกด้านตลาดไก่ทอด ที่เป็นสมรภูมิปราบเซียน จากการที่มีแบรนด์ “เท็กซัส ชิคเก้น” ต้องโบกมือตลาดไทยไปเช่นกัน ภายหลังอยู่ในตลาดมายาวนานกว่า 9 ปี

ทั้งนี้จากตลาดไก่ทอดที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้แบรนด์ที่อยู่ในตลาดมายาวนานกว่า 36 ปี กับแบรนด์ “เชสเตอร์” จากกลุ่มซีพีเอฟ ได้วางกลยุทธ์เร่งแผนขยายสาขาใหม่ในปี 2567 

นางสาวลลนา บุญงามศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชสเตอร์ฟู้ด จำกัด ในเครือ ซีพีเอฟ ผู้บริหารร้าน เชสเตอร์ กล่าวว่า บริษัทได้ประเมินตลาดอาหารจานด่วน (คิวเอสออาร์) ที่มีมูลค่า 45,000 ล้านบาท ในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัว 2.5-4% ชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ และการใช้จ่ายของกลุ่มลูกค้าในประเทศ จากช่วงปีก่อนหน้านี้มีการขยายตัวประมาณ 5-6% 

ทั้งนี้ท่ามกลางตลาดที่มีการขยายตัวไม่สูงนัก ในอีกด้าน ก็มีของแฟรนไชส์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีน เข้ามาเปิดในไทยในตลาดไก่ทอดเช่นกัน บริษัทมีมุมมองว่าเป็นคนละตลาดกับ เชสเตอร์ ที่มีฐานลูกค้าแตกต่างกัน จึงไม่มีผลต่อการแข่งขันโดยรวม อีกทั้งแบรนด์ยังมุ่งเน้นในเรื่องคุณภาพเพื่อขยายกลุ่มลูกค้าและบริการเป็นจุดแข็ง ดึงดูดกลุ่มลูกค้าเข้ามาใช้บริการ 

สำหรับ "เชสเตอร์" เป็นแบรนด์ไก่ย่างที่อยู่ในตลาดมาร่วม 36 ปีแล้ว สามารถแข่งขันได้อย่างยาวนาน มาจากองค์ประกอบสำคัญทั้ง การปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ การมีสาขาที่ครอบคลุม การมีช่องทางที่หลากหลาย การมีคุ้มค่าของราคาที่เริ่มต้น 100 กว่าบาท 

ส่วนเมนูยอดนิยมของเชสเตอร์ มีทั้ง "ข้าวอบไก่ย่าง" ที่กลุ่มลูกค้าคนไทยชื่นชอบเมนูข้าวในระดับสูง รวมถึงข้าวอบไก่ย่าง ข้าวไก่เผ็ดเชสเตอร์ และพริกน้ำปลา อีกทั้งที่ผ่านมา แบรนด์มีการขยายเมนูใหม่ๆ ทั้งกลุ่มไก่กรอบ สปาเกตตี้ และขนมหวาน 

แผนของบริษัทในการขยายสาขาในปี 2567 ได้เตรียมงบลงทุนไว้ 200 ล้านบาท เพื่อเปิดสาขาใหม่ จำนวน 16 สาขา นับเป็นการเปิดสาขาใหม่มากสุดในรอบ 23 ปี โดยมาจากการมองโอกาสที่มีศักยภาพและมีหลายทำเลที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว จากในปัจจุบันมีสาขาเปิดให้บริการรวมประมาณ 201 สาขา และคาดว่าในสิ้นปีนี้จะมีสาขาเปิดให้บริการรวม 210 สาขา 

พร้อมกันนี้ได้เปิด "แฟลกชิปสโตร์ครั้งแรกที่สยามสแคร์" ทั้งดีไซน์ด้านในและด้านนอก เพื่อนำเสนอร้านภายใต้แนวคิดของ "กู้ดฟู้ด กู้ดมู้ด" และเพิ่มหลายโซน พร้อมมีการเพิ่มเมนูใหม่ๆ เจาะกลุ่มลูกค้าและเป็นเมนูที่มีเฉพาะสาขานี้เท่านั้น ทั้งนี้ ประเมินว่าจะสามารถช่วยขยายฐานลูกค้าที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีมากขึ้น จากที่ผ่านมา ฐานลูกค้าหลักมีอายุ 20 ปีขึ้นไป 

รวมถึงมีแผนรีโนเวทไปในหลายสาขาทั่วประเทศไทย ให้สอดรับกับแนวคิดของแบรนด์ โดยประเมินว่า จะทำให้สาขามีภาพลักษณ์ที่ทันสมัยมากขึ้น

อย่างไรก็ตามในปีต่อไป 2568 มีแผนเปิดสาขาใหม่ ประมาณ 25 สาขา ทั้งใน กทม. และหัวเมืองต่างจังหวัด 

ทั้งนี้ ประเมินว่า จากแผนรุกตลาดของประเทศไทยครั้งใหญ่ในปี 2567 จะทำให้ผลประกอบการรวมสิ้นปีนี้ ขยายตัวได้ 15% เมื่อเทียบจากปีก่อน ถือว่ามีการเติบโตสูงกว่า ตลาดคิวเอสอาร์โดยรวมของประเทศไทย