ไทยกำลังจดลิขสิทธิ์ 'สงกรานต์เฟสติวัล' ห้ามประเทศอื่นใช้ ต้องขออนุญาตก่อน

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ และกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่าในงาน “เดลินิวส์ ทอล์ก 2024” ในหัวข้อ “Soft Power : โอกาสประเทศไทย” ว่า คณะทำงานฯ กำลังเร่งขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ และร่วมทำให้ประเพณีไทย ก้าวสู่การเป็นเฟสติวัลในระดับโลก พร้อมทำให้ประเทศไทยติดอันดับ ท็อปเทน ของเฟสติวัลระดับโลก 

ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา ภาคเอกชนได้ร่วมมือทำให้เทศกาลเคานต์ดาวน์ที่จัดขึ้นในประเทศไทย กลายเป็นงานใหญ่ติดอันดับหนึ่งในห้าของโลกได้สำเร็จมาแล้ว

ขณะเดียวกัน คณะทำงานฯ ได้ผลักดัน ซอฟต์พาวเวอร์ เป็นวาระแห่งชาติ ร่วมสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ พร้อมการทำ ซอฟต์พาวเวอร์ลงไปถึงทั้งชุมชน หมู่บ้าน ในทั่วประเทศ เพื่อทำให้มีการนำสิ่งที่มีคุณค่าของแต่ละชุมชน มาร่วมสร้างมูลค่าสูงขึ้น เพื่อสร้างทุกชุมชนดึงดูดการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ตลอด 365 วัน 

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของประเทศไทยมีการจัดกิจกรรมต่างๆ สูงถึงปีละ 30,000 กิจกรรม แต่ที่ผ่านมา อาจยังไม่มีการจัดทำอีโคซิสเต็มที่ถูกต้อง จึงอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลของอีโคซิสเต็มของทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมนำเสนอผ่านแพลตฟอร์ม เพื่อทำให้อีโคซิสเต็มของซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยแข็งแกร่ง 

พร้อมร่วมทำ “หลักสูตรการฝึกอบรมยกระดับทักษะผู้จัดงานเทศกาล” โดยได้ร่วมมือกับภาคเอกชน และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมบ่มเพาะบุคลากรให้มีความรู้ครอบคลุมทุกด้าน ซึ่งปัจจุบันได้รับความสนใจสูงมากมีผู้สมัครสนใจเข้ามาเรียนสูงถึง 3 หมื่นคนแล้ว

อีกทั้งกำลังผลักดันทำให้ประเทศไทยมีการทำ "ทรัพย์สินทางปัญญา" (Intellectual Property : IP) หรือ ไอพี โดยทำให้รัฐบาลไทย และประชาชนที่มีความสร้างสรรค์ ครีเอทต่างๆ สามารถสร้างไอพีร่วมจดลิขสิทธิ์ได้ ยกตัวอย่าง "เทศกาลสงกรานต์" กำลังสร้างโปรโตไทล์ ของสงกรานต์ประเทศไทย พร้อมจดให้เป็น ไอพี ดังนั้นคำว่า “สงกรานต์เฟสติวัล” ประเทศอื่นนำไปใช้ไม่ได้ ต้องซื้อจากรัฐบาลไทยและทำฟอร์แมทแบบนี้ ตามที่รัฐบาลได้วางรูปแบบไว้

ขณะเดียวกันสมบัติและความคิดของประเทศไทย ที่เรียกว่า "Wisdom"  หรือภูมิปัญญา ต้องถูกจัดระบบขึ้นมา โดยเรื่องนี้มี นายวุฒิธร มิลินทจินดา หรือ “วู้ดดี้” กำลังร่วมมือผลักดันและทำแผน

เดอะมอลล์ หนุนไทยสู่ศูนย์กลางท่องเที่ยว

น.ส.ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การขับเคลื่อนภาคธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทย เพื่อทำให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น ศูนย์กลางท่องเที่ยวในภูมิภาค โดยยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์สามารถร่วมสนับสนุนได้ ทั้งการปรับแก้ไข เรื่องภาษี แรงงาน และกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำให้ทุกอย่างมีความสะดวกมากที่สุด 

“หากไปดูที่เมืองดูไบ ที่เป็นเมืองทะเลทราย สามารถสร้างประเทศสำเร็จได้ในเวลา 15 ปีเท่านั้น และสิงคโปร์ที่มีประชากรกว่า 5 ล้านคน สามารถสร้างประเทศสู่ฮับของการบินในภูมิภาคนี้ได้” 

ทั้งนี้ ประเทศไทยควรวางนโยบาย ให้ประเทศก้าวสู่ศูนย์กลางต่างๆ ทั้ง ศูนย์กลางอินฟราสตัคเจอร์ของภูมิภาค ฮับโลจิสติกส์ และฮับการบินพร้อมกัน เพื่อทำให้การวางยุทธศาสตร์ทั้งหมดสอดคล้องกัน โดยการขยายเทอร์มินอลของสนามบินสำคัญมาก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก จากในปัจจุบัน ประเทศไทย รองรับนักท่องเที่ยวได้ 60 ล้านคน แต่สิงคโปร์ รองรับได้ 150 ล้านคน 

“การเป็นฮับสำคัญมาก สิ่งที่รัฐบาลทำซอฟต์พาวเวอร์คือ คอนเทนต์ ถ้าเรามีศูนย์การค้าที่ดีมากอันดับหนึ่ง แต่ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาก็ไม่ได้ ต้องวางแผนเป็นฮับให้ทุกอย่างเชื่อมโยงกัน"