‘เสถียร’ กรำศึก 2 ด้าน ‘ค้าปลีก-เบียร์’ สงครามธุรกิจเดือด!

‘เสถียร’ กรำศึก 2 ด้าน  ‘ค้าปลีก-เบียร์’ สงครามธุรกิจเดือด!

ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา “เจ้าพ่อคาราบาว” เสถียร เสถียนธรรมะ กำลังเผชิญการกรำศึกรอบด้าน บนเส้นทางธุรกิจในรอบเกินกว่า 2 ทศวรรษ และดูเหมือนว่าส่งท้ายปี 2567 จะเจอศึก 2 ด้านถาโถมพร้อมกันทั้ง "ค้าปลีก-เบียร์"

ย้อนไป 3 ปีก่อน “เสถียร” เดินเกมค้าปลีกสำคัญด้วยการเปิดร้าน “ถูกดี มีมาตรฐาน” ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตร “ร้านโชห่วย” ทั่วประเทศไทยให้แปลงโฉมร้านเป็นโชสวย สวมแบรนด์ “ถูกดี มีมาตรฐาน” จากเดิมมีค้าปลีกทั้งร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ภายใต้แบรนด์ ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต ซีเจ มอร์ ฯ

การลุยโชห่วยเป็นการมุ่งชิงเค้ก “ล้านล้านบาท” บนสังเวียนค้าปลีก ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นรายใหญ่ แถมเป็นมหาเศรษฐีแถวหน้าของเมืองไทย มีสมญานาม “เจ้าสัว” แทบทั้งสิ้น

ทว่า การลุยค้าปลีก “โชห่วย” ไม่ง่าย เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ต้องเจอมรสุมสารพัดทั้งเป็นข่าวและไม่เป็นข่าว

เดิมพัน “ลงทุนส่วนตัว” ลุยถูกดี มีมาตรฐาน

การทำธุรกิจของ “เสถียร” มักร่วมมือกับ “สหาย” ที่ถือหุ้นในคาราบาว กรุ๊ป มาลุยขยายกิจการใหม่ๆด้วยกัน รวมถึง “ร้านถูกดี มีมาตรฐาน” ควงทั้ง “แอ๊ด คาราบาว” และ “ใหญ่ ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ” มาสร้างคลื่นแห่งความเปลี่ยนแปลงในธุรกิจค้าปลีกไทย หวังสร้างร้านค้าของชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน และดำเนินการผ่านบริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 2,000 ล้านบาท พร้อมดึง “ทายาท” ทั้ง 3 คน คือ “เทียนธรรม-ร่มธรรม-วีรธรรม เสถียรธรรมะ” นั่งกรรมการ

ตอนประกาศแผนรุกธุรกิจ “เสถียร” เตรียมเม็ดเงินสูงกว่า 7.5 หมื่นล้านบาท เพื่อสร้างอีโคซิสเทมให้รองรับการลงทุน การเข้ามาของเครือข่ายร้านค้า ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยี การสร้างคลังสินค้า รวมถึงการลงทุนร้านโชห่วย ที่บริษัทจะลงทุนให้ในค่าระบบ อุปกรณ์ เครื่องคิดเงินอัตโนมัติ(POS) และสินค้า ฯ มูลค่าหลัก “ล้านบาท”

‘เสถียร’ กรำศึก 2 ด้าน  ‘ค้าปลีก-เบียร์’ สงครามธุรกิจเดือด!

ทว่า “พันธมิตรร้านค้าที่จะลงทุนจะต้องมีการวางเงินประกัน 2 แสนบาท” เพื่อ “การันตี” ว่า “ทุกวัน” เมื่อนำสินค้าไปขายจะต้อง “ส่งเงินกลับมาให้บริษัท” เพื่อหัก “กำไร” และแบ่งสรรคืนร้านค้าในสัดส่วนที่กำหนดไว้

การเดิมพันธุรกิจค้าปลีก “ร้านถูกดี มีมาตรฐาน” ความมุ่งมั่นของ “เจ้าพ่อคาราบาว” ตามแผนปี 2567 ต้องการเห็นเครือข่ายร้านโชห่วยแตะ 5 หมื่นสาขา จากปี 2566 จะมี 8,000 สาขา

ปี 66 ปมร้อนโชห่วย “ทะเลาะ” เดือด!

ทำธุรกิจไม่นาน “เสถียร” เจอมรสุมค้าปลีก เมื่อมีเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ลงข้อความโจมตีบริษัทฯ ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จนทำให้บริษัทออกมาโต้ข่าวว่าข้อความที่ปรากฏไม่เป็นความจริง และบริษัทฯ ได้ทำการแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทฯ และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์แล้ว

สำหรับปมทะเลาะนั้นเกิดขึ้นกับร้านค้ารายหนึ่งที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งบริษัทแจงว่าทางร้านค้ามีการโอนเงินล่าช้าอย่างต่อเนื่องมากกว่า 80 ครั้ง จาก 130 ครั้ง และยังมีการนำตู้ ชั้นวางต่างๆ ไปเป็นของร้านเอง เป็นต้น

‘เสถียร’ กรำศึก 2 ด้าน  ‘ค้าปลีก-เบียร์’ สงครามธุรกิจเดือด!

ขณะนั้น “เสถียร” สาธยายว่า “ผมทำธุรกิจ ไม่ต้องการทะเลาะ หากไม่เหลือบ่ากว่าแรง แต่ยอมรับว่าการทำค้าปลีกร้านถูกดี มีมาตรฐาน มีพันร้านปัญหาก็หลักพัน มีหมื่นร้านก็มีหมื่นปัญหาเข้ามา”

ย้อนดูกติกาค้าขาย “ถูกดี มีมาตรฐาน”

ร้านถูกดี มีมาตรฐาน เปิดดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 มีวิสัยทัศน์ในการสร้างเครือข่ายร้านค้าปลีกของชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน โดยรูปแบบการดำเนินธุรกิจระหว่างบริษัทฯ และผู้ดำเนินการร้านค้า คือ บริษัทฯ จะเป็นผู้ลงทุนให้ทั้งสินค้าทุกชนิด และอุปกรณ์ทั้งหมดภายในร้าน เช่น ชั้นวางสินค้า ตู้เย็น เครื่องคิดเงินอัตโนมัติ (POS) ฯ รวมมูลค่าต่อร้านค้าเกือบ 1 ล้านบาท เป็นต้น

ส่วนผู้ดำเนินการร้านค้าต้องนำส่งรายได้ให้กับบริษัทในวันถัดไป หากยังไม่นำส่งรายได้เกินกว่า 3 วัน ทางบริษัทฯ จะหยุดส่งสินค้า หากเกินกำหนด 4 วัน บริษัทจะส่งจดหมายแจ้งเตือนให้ชำระเงินภายใน 3 วัน และหากไม่มีการชำระเงินเข้ามา บริษัทฯ จะยกเลิกสัญญาทันที รวมถึงนัดหมายเพื่อทำการขนย้ายอุปกรณ์และสินค้าของบริษัทฯ ทั้งหมดออกจากร้านค้า

“เงินค้ำประกัน 200,000 บาท ไม่เพียงพอกับความเสียหายที่มูลค่ากว่า 500,000 บาท เพราะอุปกรณ์ต้องนำไปขายเป็นของมือสอง เชลฟ์ขายเป็นเศษเหล็ก ทำบุญต่อ และถ้าปิดร้านคนเสียหายสุดคือผม” (บทสัมภาษณ์ปี 2566)

ปัญหาใหม่-ใหญ่ เรื่องร้อนถึง “กรมสอบสวนคดีพิเศษ”

ล่าสุด ร้านถูกดี มีมาตรฐาน เป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง และเรื่องใหญ่ขึ้น เมื่อกลุ่มบุคคลรวมตัวร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอไอ) กล่าวหาว่า บริษัทหลอกลวงให้ร่วมลงทุนในธุรกิจร้านโชห่วยจนเกิดความเสียหาย

‘เสถียร’ กรำศึก 2 ด้าน  ‘ค้าปลีก-เบียร์’ สงครามธุรกิจเดือด!

‘เสถียร’ กรำศึก 2 ด้าน  ‘ค้าปลีก-เบียร์’ สงครามธุรกิจเดือด!

ทำให้บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด ต้องร่อนแถลงการณ์ด่วน ใจความว่า

บริษัทขอชี้แจงต่อกรณีที่มีกลุ่มบุคคลรวมตัวร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกล่าวหาว่า บริษัทหลอกลวงให้ร่วมลงทุนในธุรกิจร้านโชห่วยจนเกิดความเสียหาย พร้อมทั้งมีการเผยแพร่ข่าวสารผ่านสื่อต่างๆ รวมถึงโซเชียลมีเดีย ทำให้สาธารณชนเกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง สร้างผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้าน “ถูกดี มีมาตรฐาน” รวมถึงก่อให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจ และชื่อเสียงของบริษัท

“บริษัทขอยืนยันว่า ได้ดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส สุจริต และตรวจสอบได้เสมอมา โดยการดำเนินธุรกิจร้าน ถูกดี มีมาตรฐาน มีเป้าหมายเพื่อยกระดับมาตรฐาน และเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันให้กับร้านค้าปลีกในชุมชนอันเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย ด้วยการสนับสนุนด้านเงินทุน องค์ความรู้ และเทคโนโลยีในการบริหารจัดการร้าน”

ข้อกล่าวอ้างของกลุ่มบุคคลที่ร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น เป็นการกล่าวอ้างที่เลื่อนลอย และปราศจากมูลความจริง บริษัทมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน และมั่นใจว่าสามารถพิสูจน์ความสุจริตได้ในทุกประเด็น กลุ่มบุคคลดังกล่าวมีการกระทำเป็นขบวนการ และก่อนหน้านี้เคยร้องเรียนไปยังหน่วยงานรัฐต่างๆ ซึ่งหน่วยงานรัฐทุกแห่งรวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษเคยพิจารณาสอบสวนข้อเท็จจริง และมีคำสั่งยุติเรื่องเนื่องจากไม่มีมูลความจริงไปแล้วทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม กลุ่มบุคคลที่ร้องเรียนส่วนใหญ่มีประวัติเบียดบังทรัพย์สิน และเงินของบริษัทไป และยังคงค้างชำระหนี้สินกับบริษัท และบางรายอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์ของบริษัท พฤติกรรมการรวมตัวร้องเรียนดังกล่าวแสดงถึงความพยายามเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จด้วยการอ้างว่าถูกหลอกลวงลงทุนเพื่อสร้างกระแสข่าวให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด และหวังใช้เป็นเครื่องมือต่อรองในประเด็นหนี้สิน และคดีความของตนเอง

“เบียร์” เจอศึกหนักไม่แพ้ค้าปลีก

ค้าปลีกศึกใหญ่ที่ว่าหนักหนาแล้ว “เสถียร” เจอศึก 2 ด้านจากน้ำเมาสีอำพันหรือ “เบียร์” ด้วย

ปี 2566 เสถียร กล้าท้าชน “สิงห์-ช้าง” บนสังเวียนน้ำเมา ด้วยการออก "เบียร์คาราบาว-ตะวันแดง" 2 แบรนด์ใหม่ ทว่า ตลาด “แสนล้านบาท” ขมปี๋ไม่แพ้กับรสชาติเบียร์ เพราะ “เจอรับน้อง” ขนานใหญ่ โดยเฉพาะการจะทะลวงกระดูกเหล็กหรือ “ช่องทางจำหน่าย” เบียร์ ที่เป็นหัวใจสำคัญของแต่ละค่าย

‘เสถียร’ กรำศึก 2 ด้าน  ‘ค้าปลีก-เบียร์’ สงครามธุรกิจเดือด!

การกรำศึกหลายด้าน ทำให้กลยุทธ์การรับมือ ไม่ง่าย เมื่อเบียร์เจอตอใหญ่ ทำให้ต้องมี “ตัวละครสำคัญ” มาช่วย นั่นก็คือ “แอ๊ด คาราบาว” ผู้ประกาศลั่น “ขออยู่สู้ช่วยพี่เถียรก่อน”

อย่างไรก็ตาม สงครามการค้าของ​เบียร์ หากเกาะติดความเห็นของผู้บริโภค จะเจอเสียงสะท้อนถึง “ผลิตภัณฑ์” ที่อาจยังไม่โดนใจคอทองแดง ทำให้การขายสินค้า เมื่อไม่ได้ตอบรับเท่าที่ควร ย่อมมีผลต่อการที่ร้านค้าต่างๆจะเปิดรับ ทว่า “การบริโภค” เป็นเรื่องของ “จริตใครจริตมัน” ถูกใจอีกคน อาจไม่ถูกใจอีกคนย่อมเป็นได้

สำหรับตลาดเบียร์ นาทีนี้ สิ่งที่ “เสถียร” กำลังเจอ ยังมีทั้ง “คู่แข่ง” ที่ขยับตัวออกโปรดักท์ใหม่ มาเสริมทัพ และสู้ในตลาดให้เดือดกว่าเดิม “ลีโอ” เจ้าตลาดออก “ลีโอ สุพรีม” เพื่อย้ำแชมป์ “เบอร์ 1” ส่วนค่าย “ช้าง” ที่กำลังไล่บี้เบอร์ 1 อย่างเมามัน หวังโค่นบัลลังก์ให้ได้ ก็มีการส่ง “ช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์” ลงขวดอะลูมิเนียม จากเดิมขายเฉพาะพื้นที่เชียงใหม่ เชียงรายเท่านั้น

เรียกว่าเกมการค้าท้าชิงขุมทรัพย์ “เจ้าสัว” ครั้งนี้ ทั้งค้าปลีกและเบียร์ สำหรับ “เสถียร” หนัก!!