คนอื่นไม่มี ‘สลัดบาร์’ แบบเรา! ปีหน้า ‘Sizzler’ เตรียมปรับวัตถุดิบใหม่ สู้ศึกตลาดสเต๊ก

คนอื่นไม่มี ‘สลัดบาร์’ แบบเรา! ปีหน้า ‘Sizzler’ เตรียมปรับวัตถุดิบใหม่ สู้ศึกตลาดสเต๊ก

ยอดขายโตสุดเป็นประวัติการณ์! “Sizzler” ไม่หวั่นแม้คู่แข่งร้านสเต๊กผุดทั่วเมือง โต “Double-digits” จากจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น วางเป้าปีหน้ายกเครื่องสลัดบาร์โฉมใหม่ มองเป็นจุดแข็งที่คู่แข่งทำแบบเดียวกันไม่ได้

ความหลากหลายในตลาดสเต๊กเมืองไทยมาพร้อมกับการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น ไม่เว้นกระทั่ง “ซิซซ์เล่อร์” (Sizzler) เชนสเต๊กที่ปักหมุดมานานหลายทศวรรษ แม้จะมีแบรนดิ้งแข็งแรงอยู่แล้ว แต่พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจึงทำให้แบรนด์หยุดนิ่งไม่ได้

ตลอดปี 2567 “อนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด (ซิซซ์เลอร์) ให้ข้อมูลว่า ปี 2567 เป็นปีแห่งการเน้นย้ำเรื่องสเต๊กด้วยคอนเซปต์ที่แตกต่างกัน ไตรมาสแรกเปิดแคมเปญที่ทำให้นึกถึงปารีส ไตรมาสที่ 2 พาไปดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบเท็กซัส ไตรมาสที่ 3 ข้ามไปเยอรมัน และไตรมาสที่ 4 นำเสนอเมนูสเต๊กแบบแคนาเดียน สไตล์

สำหรับภาพรวม “ซิซซ์เล่อร์” ในปีนี้ เน้นสร้างยอดขายผ่าน “Core product” หรือเมนูหลักมากขึ้น จากเดิมที่จะมีเมนูยืนพื้นราวๆ 80% ปีนี้เพิ่มเป็น 90% และเหลือพื้นที่อีก 10% ให้กับ “Seasonal Menu” หรือเมนูตามฤดูกาล ความน่าสนใจ คือปีนี้ยอดขายส่วนใหญ่เติบโตจากเมนูหลักมากกว่าเมนู “Seasonal” ที่มีเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ทั้งยังพบว่า ยอดขายเติบโตมากเป็นพิเศษในวันแม่ รวมถึงวันพิเศษที่แบรนด์สร้างขึ้นมาใหม่อย่าง “Cheese Toast Month” ทำให้เดือนกันยายนมียอดขายเพิ่มมากขึ้นด้วย

คนอื่นไม่มี ‘สลัดบาร์’ แบบเรา! ปีหน้า ‘Sizzler’ เตรียมปรับวัตถุดิบใหม่ สู้ศึกตลาดสเต๊ก -น้องชีสโทสต์ มาสคอตประจำร้านซิซซ์เล่อร์-

“อนิรุทร์” ระบุว่า การเติบโตของยอดขายนับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 15% นับเป็นสัดส่วนที่มากเป็นประวัติการณ์ของ “ซิซซ์เล่อร์” ส่วนจำนวนลูกค้าเองก็เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าราวๆ 25% ไม่เพียงการทำกลยุทธ์ผ่านมาสคอต “น้องชีสโทสต์” หรือการสร้างยอดขายผ่านเมนูหลัก แต่แบรนด์ยังสร้างตลาดด้วย “Affordable Price” เพื่อเจาะกลุ่มคนทำงานให้มองซิซซ์เล่อร์เป็นมื้ออาหารกลางวัน มากกว่าจะมากินในช่วงโอกาสพิเศษเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารมองว่า “พระเอก” ของซิซซ์เล่อร์ไม่ได้มีแค่สเต๊ก เพราะ “สลัดบาร์” คือเอกลักษณ์สำคัญที่ยังไม่มีแบรนด์ไหนในตลาดทำได้ ฉะนั้น ปีหน้าซิซซ์เล่อร์จะกลับไปให้ความสำคัญที่สลัดบาร์มากขึ้น เบื้องต้นจะเป็นการปรับวัตถุดิบบางส่วนให้มีความพรีเมียม เพิ่ม “Superfood” เข้าไปตามคำเรียกร้องของลูกค้า

“อนิรุทร์” บอกว่า มีลูกค้าฟีดแบ็กเรื่องอยากทำสลัดแบบ D.I.Y. ด้วยตัวเอง ด้วยวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ ดีต่อร่างกาย ในไตรมาสแรกของปี 2568 จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ชัดเจนมากขึ้น

คนอื่นไม่มี ‘สลัดบาร์’ แบบเรา! ปีหน้า ‘Sizzler’ เตรียมปรับวัตถุดิบใหม่ สู้ศึกตลาดสเต๊ก

“คู่แข่งเราเยอะขึ้น เขามาแข่งกับเราในแง่สเต๊ก แต่สิ่งหนึ่งที่เขาสู้กับเราไม่ได้ คือสลัดบาร์ สลัดบาร์ทำให้เราแตกต่างในตลาดสเต๊ก ตอนนี้คู่แข่งมีหลากหลายพอสมควร หลายแบรนด์แม้กระทั่งไม่ใช่แบรนด์สเต๊กก็เริ่มหันมาขายสเต๊ก เราต้องสร้างความแตกต่างให้ตัวเอง นอกจากชีสโทสต์แล้ว ก็คือสลัดบาร์ ซึ่งไม่มีใครสามารถทำได้  ของเรากินได้ไม่อั้น ราคาดีมาก มีความหลากหลาย ต้องกลับมาทำตรงนี้ให้ดีขึ้น อะไรที่อยู่ในกระแสต้องเติมเข้าไปในสลัดบาร์ แล้วต่อไปจะมีการปรับโฉม มีอย่างอื่นที่เรากำลังศึกษาเพิ่ม”

ผู้บริหารบอกว่า “สลัดบาร์” คือจุดแข็งที่ต้องสื่อสารมากกว่าเดิม สังเกตจากลูกค้าหลายๆ คนไม่ว่าจะสั่งเมนูอะไรก็ตามจะถามถึงสลัดบาร์เสมอ หากมีโปรโมชันสเต๊กหรือเมนูอื่นๆ ลูกค้าจะถามเรื่องฟรีสลัดบาร์พ่วงด้วย มองว่า ปีหน้าจะเป็นปีที่ “ซิซซ์เล่อร์” หันกลับมาทำตลาดตรงนี้ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจความคุ้มค่าตรงนี้มากขึ้น โดยสัดส่วนคนที่เข้ามากินสลัดบาร์เพียงอย่างเดียวอยู่ที่ 30%

คนอื่นไม่มี ‘สลัดบาร์’ แบบเรา! ปีหน้า ‘Sizzler’ เตรียมปรับวัตถุดิบใหม่ สู้ศึกตลาดสเต๊ก

ปัจจุบัน “ซิซซ์เล่อร์” มีทั้งหมด 65 สาขาทั่วประเทศ ปีนี้เปิดเพิ่มอีก 2 สาขา ได้แก่ สาขาวันแบงค็อก และสาขาเซ็นทรัลนครปฐม ส่วนปีหน้าตั้งใจเปิดอีก 3 แห่ง โลเกชันมีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดผสมกัน ส่วนกลยุทธ์เรื่องการใช้มาสคอต “น้องชีสโทสต์” จะยังดำเนินต่อไป สร้างการรับรู้เพิ่มขึ้นว่า น้องชีสโทสต์ คือแบรนด์ซิซซ์เล่อร์ แม้ปีหน้าจะเตรียมยกเครื่องสลัดบาร์ใหม่ แต่ยังไม่มีแผนทำมาสคอตอื่นๆ เพิ่มเติมแต่อย่างใด