AWC ลงเสาเอก ‘เวิ้งนครเกษม เยาวราช’ มิกซ์ยูส 1.6 หมื่นล้าน ใหญ่สุดไชน่าทาวน์!

“เวิ้งนครเกษม เยาวราช” โครงการมิกซ์ยูสใหญ่ที่สุดในย่านไชน่าทาวน์ บนที่ดินประวัติศาสตร์ขนาด 14 ไร่ใจกลางเยาวราช ของบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่ม “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” ถือฤกษ์งามจัดพิธีลงเสาเอกวานนี้ (23 ม.ค.)
KEY
POINTS
- “เวิ้งนครเกษม เยาวราช” (Woeng Nakornkasem Yaowaraj) โครงการมิกซ์ยูส
วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AWC เล่าว่า การพัฒนาโครงการ “เวิ้งนครเกษม เยาวราช” ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในฐานะโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ระดับแฟลกชิปแห่งแรกของ AWC ด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอย 135,000 ตารางเมตร และใช้งบลงทุนกว่า “16,000 ล้านบาท” (รวมที่ดิน) สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ AWC ทั้งนี้ยังไม่นับรวมโครงการมิกซ์ยูสอื่นๆ ในอนาคต ได้แก่ โครงการอควอทีค พัทยา และโครงการเอเชียทีค เฟส 2 ที่จะมีตึกสูงระฟ้า 100 ชั้นเป็นไฮไลต์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
โครงการ “เวิ้งนครเกษม เยาวราช” ตั้งอยู่บนที่ดินแปลงใหญ่ 14 ไร่ ติดถนนเยาวราช ถนนจักรวรรดิ และถนนเจริญกรุง ติดคลองโอ่งอ่าง และใกล้สถานี MRT สามยอด ห่างประมาณ 200-300 เมตร ในอนาคตมีแผนจะทำทางเชื่อมจากสถานี MRT ตรงเข้าสู่โครงการฯ โดยภาพรวมได้รับการออกแบบเพื่อสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรม “ไทย-จีน” ของย่านไชน่าทาวน์ ผ่านการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดั้งเดิมและการสร้างสรรค์องค์ประกอบใหม่ที่สอดคล้องกับความทันสมัยเพื่อพลิกฟื้นมรดกแห่งเยาวราช ประกอบไปด้วยพื้นที่สำคัญ 3 ส่วน ซึ่งจะทยอยเปิดให้บริการทีละเฟส
ส่วนที่ 1 “ศูนย์การค้าระดับไอคอนิก” (Iconic Heritage and Luxury Retail) มุ่งพัฒนาให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์สำหรับนักท่องเที่ยวและทุกครอบครัวด้วยพื้นที่รวมกว่า 68,000 ตารางเมตร ภายในพื้นที่อาคารหลัก พื้นที่พลาซ่ากลางแจ้งขนาดใหญ่ใจกลางไชน่าทาวน์บริเวณอาคารพาณิชย์อนุรักษ์ที่เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นของเวิ้งนครเกษม และพื้นที่ชั้นใต้ดินในฐานะหนึ่งในพื้นที่ชอปปิ้งใต้ดินขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ รวบรวมร้านค้าแบรนด์เนมหรูชั้นนำ ร้านค้าคอนเซ็ปต์ใหม่ ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ คาเฟ่ และร้านค้าท้องถิ่นของชุมชนที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่กิจกรรมที่จะมาร่วมสร้างความสนุกตลอดปีให้กับนักเดินทางทุกวัยด้วยงานเทศกาลที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมของย่านไชน่าทาวน์ รวมถึงพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่และสวนลอยฟ้าบริเวณฟาซาดของอาคาร พร้อมลานจอดรถชั้นใต้ดินที่สามารถรองรับได้ถึง 750 คัน
“ด้วยโครงการนี้สร้างอาคารสูงไม่ได้ เพราะอยู่บนพื้นที่อนุรักษ์ สร้างได้สูงสุดแค่ 10 ชั้น ทำให้เราต้องพัฒนาพื้นที่ชั้นใต้ดิน 5 ชั้น คาดใช้เวลาก่อสร้างเฉพาะชั้นใต้ดินนาน 3 ปี โดยแบ่งเป็นพื้นที่รีเทล 2 ชั้น และพื้นที่จอดรถอีก 3 ชั้นเพื่อรองรับการเดินทางด้วยรถยนต์มาย่านนี้ซึ่งหาที่จอดรถยากมาก จึงอยากสร้างโครงการนี้ให้เป็นศูนย์กลางการเดินทาง ทั้งทางรถยนต์ รถไฟฟ้า MRT และรถรางไฟฟ้าที่ทาง AWC จะให้บริการเองด้วย สามารถพาผู้คนเดินทางเที่ยวทั่วไชน่าทาวน์ได้”
ส่วนที่ 2 “โรงแรมระดับลักชัวรี” (World-Class Hospitality) แห่งแรกของไชน่าทาวน์ จำนวน 2 โรงแรม รวมห้องพักกว่า 500 ห้อง ประกอบไปด้วย 1.โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (InterContinental) จำนวนกว่า 300 ห้องพัก อาคารหลักสูง 10 ชั้น และอาคารพาณิชย์เก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์โครงสร้างเดิมและปรับปรุงอย่างพิถีพิถันให้กลายเป็นห้องสวีทสุดหรู โดดเด่นด้วยห้องบอลรูมขนาดใหญ่ที่สุดในเยาวราชกว่า 1,100 ตารางเมตรที่สามารถรองรับได้ถึง 750 คน และ 2.โรงแรมคิมป์ตัน (Kimpton) เป็นแบรนด์ระดับลักชัวรีแนวไลฟ์สไตล์ในเครือ IHG เช่นกัน เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มครอบครัว จำนวนกว่า 200 ห้องพัก บนพื้นที่อาคารหลักสูง 10 ชั้น และอาคารพาณิชย์อนุรักษ์บริเวณริมคลองโอ่งอ่าง นำเสนอความสง่างามเหนือกาลเวลา ผสมผสานระหว่างประเพณีและความทันสมัย พร้อมด้วยการบริการ รวมถึงห้องอาหารและบาร์อันโดดเด่น
และส่วนที่ 3 “ศาลาจีน” (Chinese Pavilion) ความสูง 8 ชั้น พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์และแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของไชน่าทาวน์ ที่ได้รับการออกแบบอย่างโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เปิดให้ผู้คนได้เข้ามาสักการะเพื่อเสริมโชคลาภและความเป็นสิริมงคล รวมถึงพิพิธภัณฑ์เวิ้งนครเกษมที่จัดแสดงภาพประวัติศาสตร์ ตลอดจนสิ่งของในวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชน เสริมสร้างการเรียนรู้เชิงวัฒนธรรม และเพิ่มพื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจในใจกลางเมือง
“เวิ้งนครเกษม เยาวราช ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่สำคัญของย่านไชน่าทาวน์ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมโยงคุณค่าทางประวัติศาสตร์เข้ากับอนาคต ซึ่ง AWC มุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์อันน่าจดจำและเป็นที่ภาคภูมิใจให้กับชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก พร้อมส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจในชุมชนโดยรอบ โดยโครงการนี้มีกำหนดเริ่มต้นการก่อสร้างในปี 2568 และพร้อมเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2572” วัลลภา กล่าว