ต่างชาติทะลัก ‘โรงแรมไทย’ ฮอตติดอันดับโลก! เปิด 12 อันดับแพลตฟอร์มคนนิยมจองห้องสูงสุด

ต่างชาติทะลัก ‘โรงแรมไทย’ ฮอตติดอันดับโลก!  เปิด 12 อันดับแพลตฟอร์มคนนิยมจองห้องสูงสุด

'SiteMinder' แพลตฟอร์มระดับโลกด้านการจัดจำหน่ายห้องพักและจัดการรายได้ของธุรกิจโรงแรม เปิดเผยรายงาน “SiteMinder’s Hotel Booking Trends” อ้างอิงจากข้อมูลการจองโรงแรมมากกว่า 125 ล้านครั้ง ซึ่งนับเป็นยอดการจองโรงแรมปริมาณมากที่สุดภายใต้แพลตฟอร์มเดียว พบว่า “ประเทศไทย” ติดอันดับโลกในปี 2567 จากการต้อนรับ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” หลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก

ส่งผลให้อัตราค่าห้องพักปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นประเทศเดียวที่ประสบความสำเร็จในการเติบโตระดับ 2 หลัก

อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อวัน (ADR) ในประเทศไทยในปี 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 5,377 บาท/ห้อง/คืน จาก 4,648 บาท/ห้อง/คืนในปี 2566 โดยมีอัตราค่าห้องพักสูงสุดในเดือน ธ.ค. แตะระดับ 6,460 บาท/ห้อง/คืน เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

รายงานของ SiteMinder ยังแสดงให้เห็นว่าโรงแรมของ “ประเทศไทย” นำหน้าประเทศอื่นๆ ใน “เอเชีย” ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมีแขกผู้เข้าพักชาวต่างชาติคิดเป็นสัดส่วน 77% ของการเช็กอินทั้งหมด สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 48% ตัวเลขนี้ทำให้ประเทศไทยอยู่อันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียง “ออสเตรีย”

นอกจากนี้ ยังมี “ข้อมูลเชิงลึก” น่าสนใจเพิ่มเติม ชี้ให้เห็นว่านักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรมของไทยจองห้องพักล่วงหน้านานขึ้น โดยระยะเวลาการจองล่วงหน้าเฉลี่ยอยู่ที่ 27 วัน ยาวนานที่สุดในเอเชีย และใกล้เคียงกับช่วงเวลาการจอง 29 วันล่วงหน้าในปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด

ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางเพื่อการพักผ่อนชั้นนำ โดย “โรงแรมท้องถิ่น” ถูกจัดอยู่ในอันดับ 5 ของโลกด้านระยะเวลาการเข้าพักที่ยาวนานที่สุด โดยมากกว่า 15% ของการจองมีระยะเวลา 3 คืนขึ้นไป สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 11% รองจากโรงแรมในโปรตุเกส 21% และโคลอมเบีย เม็กซิโก กับสเปน ที่มี 18% เท่ากัน

แม้ว่าเดือน ธ.ค. ยังคงเป็นเดือนที่คึกคักที่สุดของประเทศไทย แต่โรงแรมต่างๆ ก็มีการพึ่งพาเดือนสุดท้ายน้อยลงสำหรับจำนวนผู้เข้าพักประจำปี จำนวนแขกในช่วงเดือนที่อากาศเย็นของปี 2567 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวที่สมดุลมากขึ้นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศด้วย

ต่างชาติทะลัก ‘โรงแรมไทย’ ฮอตติดอันดับโลก!  เปิด 12 อันดับแพลตฟอร์มคนนิยมจองห้องสูงสุด

สุภกฤษฎิ์ แผนสมบูรณ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย SiteMinder กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยในประเทศไทย รวมไปถึงการกลับมาอย่างแข็งแกร่งของนักท่องเที่ยวต่างชาติ แสดงให้เห็นว่านี่ไม่เพียงเป็นปีที่ทำกำไรสำหรับโรงแรมในไทยเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมโรงแรมในท้องถิ่นท่ามกลางความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของการเดินทางในประเทศ และเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน โรงแรมต่างๆ จำเป็นต้องมีความคล่องตัว โดยจากข้อมูลในปี 2567 ของ SiteMinder แสดงให้เห็นว่าโรงแรมในประเทศไทยทั้งตระหนักและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในเรื่องนี้

“ด้วยระยะเวลาการจองที่ยาวนานขึ้น การเข้าพักในโรงแรมที่ยาวนานขึ้น และปริมาณนักท่องเที่ยวที่ค่อนข้างคงที่ตลอดทั้งปี ทำให้โรงแรมในประเทศไทยมีโอกาสในการตอบสนองต่อโอกาสใหม่ๆ ที่สามารถเพิ่มรายได้ที่น่าพอใจ ตัวอย่างเช่น งานวิจัยของเราบอกว่าความต้องการที่จะเดินทางเพื่องานอีเวนต์อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และนักเดินทางก็เต็มใจที่จะใช้จ่ายกับประสบการณ์ที่มีความหมาย ผู้ประกอบการโรงแรมไทยสามารถใช้ประโยชน์จากทิศทางเหล่านี้ในการสร้างความสำเร็จอย่างมั่นคงในขณะที่อุตสาหกรรมกำลังอยู่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ”

ต่างชาติทะลัก ‘โรงแรมไทย’ ฮอตติดอันดับโลก!  เปิด 12 อันดับแพลตฟอร์มคนนิยมจองห้องสูงสุด

สำหรับ “12 อันดับช่องทางการจองโรงแรมที่สร้างรายได้รวมสูงสุดให้กับโรงแรมไทยในปี 2567” โดยพิจารณาจากข้อมูลการใช้บริการจองผ่านแพลตฟอร์มของ SiteMinder พบว่าอันดับ 1 คือ “Booking.com” รองลงมาได้แก่ Agoda, เว็บไซต์โรงแรม (การจองโดยตรง), Expedia Group, Trip.com, Hotelbeds, Tiket.com, Goibibo & MakeMyTrip, Traveloka, WebBeds, Klook และ TBOHolidays

ต่างชาติทะลัก ‘โรงแรมไทย’ ฮอตติดอันดับโลก!  เปิด 12 อันดับแพลตฟอร์มคนนิยมจองห้องสูงสุด

การเติบโตของการเช็กอินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ นำโดยประเทศจาก “เอเชีย” เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ “Klook” ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักเดินทางจากตลาดต่างๆ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน และฟิลิปปินส์ ได้เปิดตัวในฐานะช่องทางสร้างรายได้อันดับต้นๆ ในประเทศไทย ในขณะเดียวกัน ผลการดำเนินงานที่สม่ำเสมอของ “Trip.com” ตอกย้ำสถานะของ “นักท่องเที่ยวจีน” ในฐานะตลาดต้นทางที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากมาตรการยกเว้นวีซ่า (วีซ่าฟรี) ถาวรระหว่างไทย-จีน เริ่มมีผลเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2567 เป็นต้นมา

อีกจุดที่น่าสังเกตคือ “การจองผ่านเว็บไซต์ของโรงแรม” กลับคืนสู่ตำแหน่ง 3 อันดับแรก แซงหน้า Expedia Group หลังจากถูกแซงไปเมื่อปีก่อน สิ่งนี้สอดคล้องกับการค้นพบทั่วโลกในรายงานของ SiteMinder ซึ่งพบว่าเว็บไซต์ของโรงแรมมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเมื่อปีที่แล้ว สร้างรายได้เฉลี่ย 519 ดอลลาร์สหรัฐต่อการจองสำหรับโรงแรม สูงกว่าปีก่อน 8.5% และสูงกว่ามูลค่าการจองเฉลี่ยที่สร้างโดยแพลตฟอร์มจองสินค้าท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) มากกว่า 60% ที่ 320 ดอลลาร์สหรัฐ

ต่างชาติทะลัก ‘โรงแรมไทย’ ฮอตติดอันดับโลก!  เปิด 12 อันดับแพลตฟอร์มคนนิยมจองห้องสูงสุด

สุภกฤษฎิ์ กล่าวเสริมว่า “นักเดินทางที่จองโดยตรงมักจะเลือกห้องพักที่มีราคาสูงกว่า พักนานขึ้น และเพิ่มบริการเสริม ปัจจัยเหล่านี้แต่ละอย่างแสดงให้เห็นถึงโอกาสที่สำคัญสำหรับโรงแรมในการนำเสนอข้อเสนอพิเศษที่นักเดินทางกำลังมองหา และผลการวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าโรงแรมหลายแห่งกำลังทำเช่นนี้อย่างมีประสิทธิภาพ”

อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าผู้ประกอบการโรงแรมควรเพิกเฉยต่อช่องทางของบุคคลที่สามในปี 2568 ช่องทางต่างๆ เหล่านี้ช่วยสร้างการเข้าถึงที่เป็นเอกลักษณ์และไม่สามารถแทนที่ได้ รวมถึงการใช้งานที่ง่าย ซึ่งแสดงให้เห็นจากการครองตลาดอย่างต่อเนื่องในรายชื่อ 12 อันดับแรกของผู้สร้างรายได้จากการจองโรงแรมของประเทศไทย แต่สิ่งที่ผลการวิจัยของ SiteMinder เน้นย้ำคือความสำคัญของโรงแรมในการมอบประสบการณ์การจองที่ง่ายดายแก่นักเดินทาง ซึ่งรวมถึงการชำระเงินที่ราบรื่น และมีความปลอดภัย เช่นเดียวกับที่ช่องทางของบุคคลที่สามที่ทำได้เป็นอย่างดี

ต่างชาติทะลัก ‘โรงแรมไทย’ ฮอตติดอันดับโลก!  เปิด 12 อันดับแพลตฟอร์มคนนิยมจองห้องสูงสุด

สุภกฤษฎิ์ แผนสมบูรณ์