Oxford ชี้ทัวริสต์คุณภาพ แห่เที่ยวเมืองฟู้ด เครื่องดื่มพรีเมียม

Oxford Economics ชี้ผลสำรวจนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพสูง ให้ความสนใจอาหารและเครื่องดื่มพรีเมียม เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสูงสุด ก่อนตัดสินใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว
เจมส์ แลมเบิร์ต ผู้อำนวยการที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย อ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ (Oxford Economics) หน่วยงานวิจัยและให้คำปรึกษาของสหราชอาณาจักร ได้เปิดเผยถึง รายงานวิจัยระหว่าง อ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ และ สมาพันธ์สุราและไวน์นานาชาติแห่งเอเชียแปซิฟิก (Asia Pacific International Spirits & Wines Alliance) หรือ APISWA กับการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพสูงสะท้อนถึง นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญในเรื่อง อาหารและเครื่องดื่ม (F&B) เป็นจุดหมายและปลายทาง มากกว่าการเลือกในสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์หรือวัฒนธรรม และการช้อปปิ้งแล้ว โดย 75% ของนักท่องเที่ยวกลุ่มรายได้สูง ให้ความสำคัญเรื่องอาหารและเครื่องดื่มสูงสุด
"นักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ 7 ใน 10 คน ระบุว่า อาหารและเครื่องดื่ม เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทาง"
พร้อมกันนี้ นักท่องเที่ยวมีแนวโน้มเลือกจุดหมายปลายทาง ที่ให้ประสบการณ์อาหารและเครื่องดื่มพรีเมียมถึง 2.5 เท่า มากกว่าจุดหมายปลายทางที่มีบริการพื้นฐาน โดยนิยมในเรื่องอาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณภาพสูง อีกทั้งต้องทำให้สามารถเข้าถึงได้สะดวก และ บริการที่ดี จากพนักงานร้านอาหารและบาร์ที่ผ่านการฝึกอบรม
อีกทั้งนักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางเข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมจ่ายเงินเพิ่มขึ้น 250 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อคนต่อวัน เพื่อมุ่งไปยังจุดหมายปลายทางที่ตอบสนองตรงกับความต้องการ
แม้ว่านักท่องเที่ยวแม้จะยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้น แต่พิจารณาในเรื่องความคุ้มค่าในการใช้จ่ายควบคู่กันด้วย ซึ่งมีความสอดคล้องกันทั้งนักท่องเที่ยวที่มีรายได้สูงและนักท่องเที่ยวในกลุ่มแมส โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มรายได้สูงให้ความสำคัญในเรื่องความคุ้มค่าในการจ่ายเงินสูงถึง 84%
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวต่างให้ความสำคัญต่อเรื่องความปลอดภัย 84% เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกจุดหมายปลายทาง รวมถึงต้องมีความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือในสินค้าและบริการของอาหารและเครื่องดื่ม
สำหรับข้อเสนอแนะต่อผู้กำหนดนโยบายของประเทศ ทั้งควรมุ่งยกระดับคุณภาพและประสบการณ์ท่องเที่ยว พร้อมรับรองว่าผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ร้านอาหารและบาร์ได้รับใบอนุญาตตามมาตรฐาน ต่อมาการส่งเสริมความหลากหลายในการพัฒนาประสบการณ์อาหารและเครื่องดื่มด้วยการกำหนดเวลาอย่างเหมาะสมและมีพนักงานที่ได้รับการฝึกอย่างดี อีกทั้งควรผลักดันในเรื่องการแข่งขันด้านราคา ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่สามารถให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการในราคาที่แข่งขันได้ เพื่อร่วมกระตุ้นการใช้จ่าย
ทั้งนี้การทำสำรวจในครั้งนี้เป็นการสำรวจนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ที่มีแผนเดินทางเข้ามาในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน 1,800 คน จากประเทศต้นทาง 5 ประเทศได้แก่ ออสเตรเลีย จีน เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา พร้อมมีการสัมภาษณ์ตัวแทนการท่องเที่ยวในภูมิภาค
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยในปี 2568 คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาอยู่ในระดับสูงเทียบกับระดับปี 2562 แล้ว