ปั้นงานหนังสือใหญ่สุดอาเซียนดึงนักอ่าน 1.3 ล้านคน สะพัด 420 ล้าน

PUBAT เตรียมลุยสัปดาห์หนังสือแห่งชาติและนานาชาติ ธีม “ย ยักษ์ อ่านใหญ่” ระดม 400 สำนักพิมพ์ กว่า 2 ล้านเล่ม พร้อมจับคู่ธุรกิจซื้อขายลิขสิทธิ์ ปีนี้คาดนักอ่าน 1.3 ล้านคน
KEY
POINTS
- เตรียมจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 วันที่ 27 มี.ค.-7 เม.ย. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พื้นที่ 20,000
ภาพรวมอุตสาหกรรมหนังสือในประเทศไทยมูลค่า 16,000-17, 000 ล้านบาท โดยหนังสือที่ได้รับความนิยมสูงมีทั้งหนังสือนิยายและวรรณกรรม หนังสือเด็ก การ์ตูน รวมถึง how to ขณะเดียวกันพบกลุ่มคนรุ่นใหม่ สนใจอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนผ่านสถิติ “มหกรรมหนังสือระดับชาติ” เมื่อเดือน ต.ค.2567 จากผู้เข้าร่วมงานกว่า 1.4 ล้านคน เป็นช่วงอายุ 12-35 ปี ถึง 69% เพิ่มขึ้นจากงานก่อนหน้า 20% ส่วนช่วงอายุ 23-28 ปี จำนวนสูงถึง 23%
เป็นสัญญาณบวกและความท้าทายของงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 (53rd National Book Fair & 23rd Bangkok International Book Fair 2025) ระหว่างวันที่ 27 มี.ค.-7 เม.ย. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่ขยายความอลังการประกาศจัดงานใหญ่สุดในอาเซียน! ย้ำภาพความเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) แห่งงานหนังสือในภูมิภาค
สุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวว่า เพื่อรองรับนักอ่านที่เดินทางมาร่วมงานซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี รวมทั้งจำนวนผู้ประกอบการสำนักพิมพ์ต่าง ๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ ที่ต้องการเข้าร่วมงานที่เพิ่มขึ้น
ดังนั้นงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 จึงได้ขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 3 ฮอลล์ เป็น 4 ฮอลล์ มีพื้นที่รวม 20,000 ตร.ม.จากเดิม 15,000 ตร.ม. นับเป็นงานใหญ่สุดในรอบ 53 ปี เป็นงานซื้อขายหนังสือใหญ่ที่สุดในอาเซียน ภายใต้แนวคิดในธีม “ย ยักษ์ อ่านใหญ่” งานหนังสือครั้งใหม่ ใหญ่กว่าเดิม
ซึ่ง “ย ยักษ์” เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ อลังการ สะท้อนถึงการเติบโตของงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่เป็นมากกว่าการขายหนังสือ แต่รวบรวมหนังสือดีหลากหลายประเภททั้งไทยและต่างประเทศจากสำนักพิมพ์ชั้นนำ พร้อมเสริมทักษะสาระ ความรู้ ความบันเทิง นิทรรศการ และกิจกรรมจำนวนมาก
ภายในงาน วาง 7 โซน ประกอบด้วย โซนหนังสือนิยายและวรรณกรรม โซนหนังสือการ์ตูนและวัยรุ่น (Book Wonderland) โซนหนังสือเด็กและการศึกษา โซนหนังสือทั่วไป โซนหนังสือเก่า โซนหนังสือต่างประเทศ และ โซน Non – Book หนังสือมากกว่า 2 ล้านเล่ม จาก 400 สำนักพิมพ์และร้านหนังสือ รวม 1,200 บูธ พร้อมพื้นที่พิเศษ PUBAT Creative Zone และ 10 นิทรรศการ 100 กิจกรรม "นิทรรศการเยี่ยมยักษ์" จำลองโต๊ะทำงานของยักษ์พิเภก พร้อมเครื่องใช้ขนาด Oversized ที่เปิดให้นักอ่านเข้าไปเยี่ยมชม ขณะที่พี่ยักษ์กำลังนอนหลับ
นิทรรศการแปลหนังสือไทย เพื่อเผยแพร่ไปยังต่างประเทศ จาก สศร. จำนวน 15 เล่ม ผ่านห้องลับในหนังสือกองยักษ์ที่พลาดไม่ได้ อาทิ จิ้งจกหางด้วน โดยฤทัย จงสฤษดิ์ จากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (NSTDA Shop) นิทรรศการ Book Powerการแสดงหนังสือที่ถูกแนะนำจากคนสำคัญของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ Soft Power นิทรรศการ ๗๐ พรรษา ๗ พระราชนิพนธ์แปลทรงคุณค่าในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดย บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด
สุวิช กล่าวอีกว่า อีกกิจกรรมไฮไลต์ “Bangkok Rights Fair 2025” งานจับคู่ธุรกิจเพื่อการซื้อขายลิขสิทธิ์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 2 โดยการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ วันที่ 28-29 มี.ค.
โดยมีสำนักพิมพ์และตัวแทนลิขสิทธิ์เข้าร่วม 115 บริษัท จาก 14 ประเทศและเขตแดน อาทิ สหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลี ไต้หวัน พม่า ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย ตั้งเป้าหมายมีการเจรจาการค้า (Business Matching) มากกว่า 200 คู่ คาดมีมูลค่าการซื้อขายลิขสิทธิ์เกิดขึ้นในงานกว่า 2 ล้านดอลลาร์ หรือราว 68.5 ล้านบาท
“การตอบรับจากครั้งก่อนเป็นแรงส่งให้ได้รับความสนใจจากสำนักพิมพ์และตัวแทนลิขสิทธิ์จากหลายประเทศ ที่กำลังมองหาผลงานเขียนจากนักเขียนไทย"
นอกจากจะเปิดให้มีการพบปะระหว่างนักเขียนไทยกับสำนักพิมพ์และตัวแทนลิขสิทธิ์จากประเทศต่างๆ สมาคมฯ ยังมีแผนลงนามข้อตกลงการแลกเปลี่ยนและร่วมพัฒนางานหนังสือ และงานซื้อขายแลกเปลี่ยนลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศกับองค์กรต่าง ๆ ได้แก่ 1.Taiwan Creative Content Agency (TAICCA) ข้อตกลงแลกเปลี่ยนการสนับสนุนทุนสำหรับเข้าร่วมงานซื้อขายลิขสิทธิ์ในงาน Taipei International Book Exhibition และ Bangkok Rights Fair 2. Kota Buku ข้อตกลงการร่วมพัฒนางานซื้อขายแลกเปลี่ยนลิขสิทธิ์ ระหว่าง Asian Rights Fair และ Bangkok Rights Fair อีกด้วย
โซนต่างประเทศ ยังมีบูธจากต่างประเทศที่มานำเสนอหนังสือ ลิขสิทธิ์หนังสือ รวมถึงเผยแพร่วัฒนธรรมจาก อังกฤษ จีน เกาหลี อินเดีย อิหร่าน ไต้หวัน กัมพูชา และยูเครน
ปีนี้ยังเอาใจสายคาเฟ่ “PUBAT Cafe” ครั้งแรกกับบูธจำหน่ายเครื่องดื่มกาแฟจากร้านดัง ROWIE’S x PUBAT café มาพร้อมเมนูเอ็มคลูซีฟเฉพาะภายในงาน
คาดปีนี้ว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 1.3 ล้านคน มียอดขายกว่า 420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5-10%