ศึกตระกูล! ศาลสั่งจำคุก 'กฤษณ์ ณรงค์เดช' คดียักยอกทรัพย์กว่า 35 ล้าน

"ณพ ณรงค์เดช" ยื่นฟ้องพี่ชาย "กฤษณ์ ณรงค์เดช" ฐานยักยอกทรัพย์ค่าเช่าที่ดินแปลงหนึ่งย่านสมุทรปราการ 19 มี.ค.68 ศาลแขวงพระนครใต้ พิพากษาจำคุก "กฤษณ์" 44 เดือน ไม่รอลงอาญา
เป็นเวลา 8-9 ปีที่ อดีต 3 ทหารเสือ หรือ 3 พี่น้อง “กฤษณ์-ณพ-กรณ์ ณรงค์เดช” เปิดศึกสายเลือด ฟ้องร้องกันหลายคดี ทั้งข้อพิพาททางธุรกิจ รวมถึงทรัพย์สมบัติที่เป็นของ “กงสี” หรือครอบครัว หลังสิ้นหญิงเหล็ก “คุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช” ผู้สร้างอาณาจักร “เคพีเอ็น กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น”
ความร้าวฉานของ 3 พี่น้อง ยังคงดำรงอยู่ ควบคู่กับคดีการฟ้องร้อง
ล่าสุด ณ ศาลแขวงพระนครใต้ ผู้พิพากษา ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดี อ.1662/2566 ระหว่างนายณพ ณรงค์เดช (โจทก์) กับนายกฤษณ์ ณรงค์เดช และพวกรวม 3 คน (จำเลย) บริษัท ซีบีเอ็นพี จำกัด และกรรมการบริษัท ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ซึ่งคือ ที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างบริเวณ ตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ กิ่งอำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ออกให้บุคคลภายนอกเช่า รวมถึงได้ให้ บริษัท โทลล์ โลจิสติคส์ จำกัด เช่าโดยได้รับค่าเช่า
โดยวงเงินของการยักยอกทรัพย์คือ เงินค่าเช่า รวมเเล้วหลายครั้งมูลค่ากว่า 35 ล้านบาท
ทั้งนี้ หลังการพิจารณาคดี ศาลมีคำพิพากษาสั่งจำคุกนายกฤษณ์ ณรงค์เดช 44 เดือน ไม่รอลงอาญา โดยจำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราวในวงเงิน 400,000 บาท
นายณพ ณรงค์เดช กล่าวว่า สำหรับคดียักยอก ตนเป็นโจทก์ฟ้องพี่ชายในฐานะจำเลยเกี่ยวกับทรัพย์ของมารดา(คุณหญิงพรทิพย์) ซึ่งเป็นทรัพย์มรดกที่นำออกไปปล่อยเช่าโดยไม่แจ้งให้ทราบ รวมถึงไม่เคยแบ่งรายได้ให้กับตนเอง
สำหรับคดีในลักษณะนี้ ตนเคยดำเนินการฟ้องร้องไปแล้ว และศาลแขวงพระนครใต้ มีคำพิพากษาจำคุกนายกฤษณ์ ณรงค์เดช เป็นเวลา 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ส่วนคดีล่าสุดจำนวนกรรมเยอะกว่า คือ 11 กรรม พิพากษาจำคุกกรรมละ 4 เดือน รวมเป็น 44 เดือน โดยไม่รอลงอาญาเช่นกัน แต่จำเลยได้ดำเนินการยื่นประกันตัว และอุทธรณ์ต่อ
ด้าน นายพิชา ป้อมค่าย ทนายความส่วนตัวของนายกฤษณ์ พร้อมกับนายกรณ์ ณรงค์เดช ให้สัมภาษณ์ว่า ศาลมีคำพิพากษาคดีการนำที่ดินของบริษัท ที่ให้บริษัทเช่าช่วงต่อ ซึ่งทางโจทก์ฟ้องว่า เงินที่บริษัทได้รับมาเป็นเงินที่นายกฤษณ์ รับไป ทั้งที่ความเป็นจริงไม่ใช่ เนื่องจากเป็นเงินที่บริษัทจ่ายให้กับบริษัท แต่ศาลได้วินิจฉัยว่าเกี่ยวข้องกับนายกฤษณ์ เพราะมีหุ้นอยู่ในบริษัทดังกล่าว แต่จำเลยก็เคารพคำพิพากษา แต่ฝั่งจำเลย และทนายความไม่เห็นพ้องด้วย ประเด็นนี้ต้องดำเนินการต่อสู้ในศาลชั้นอุทธรณ์ และศาลฎีกาต่อไป
“กรณีนี้เกิดขึ้นจากพี่น้องมีความขัดแย้ง ฟ้องร้องกัน..ไม่ว่ากัน ซึ่งฝ่ายโจทก์ และจำเลย มีคดีอื่นที่ชนะบ้างแพ้บ้าง เป็นเรื่องปกติ แต่ทุกคดีที่มีคำพิพากษาออกมายังไม่ถึงที่สุด ส่วนคดียักยอกนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2563-2564 เมื่อมีคำพิพากษาออกมาเช่นนี้ ก็ต้องไปศึกษาว่าเพราะอะไรที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า คุณกฤษณ์นำเงินตรงนี้(ของบริษัท)ไป ก็อยากให้ทำความเข้าใจกับนักธุรกิจ ประชาชนทั่วไป เพราะคุณกฤษณ์เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง อยากให้คู่ค้าอย่าหวั่นไหว เรื่องนี้ไม่ได้ทุจริต ฉ้อโกง แต่เป็นเรื่องของการตีความบริษัทจ่ายเงินให้บริษัท เกี่ยวกับคุณกฤษณ์ตรงไหน ก็ต้องรอให้ศาลสูงวินิจฉัยชี้ขาดต่อไป”
สำหรับคำพิพากษาของศาล ได้ยกฟ้องจำเลยอีก 2 ส่วน คือ บริษัท และกรรมการบริษัท โดยมีเพียงนายกฤษณ์ ที่ศาลพิพากษาจำคุก 44 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
อย่างไรก็ตาม หลังคำพิพากษาของศาล เมื่อถาม "ณพ ณรงค์เดช" และ "กรณ์ ณรงค์เดช" ถึงโอกาสประสานรอยร้าวของ 3 พี่น้อง มีความเป็นไปได้หรือไม่ ทั้งคู่ตอบตรงกันว่า "ทุกอย่างเลยจุดนั้นมาแล้ว"
สำหรับการพิจารณาคดีวันนี้(19 มี.ค.68)นายกฤษณ์ ณรงค์เดช มาพร้อมกับทนาย โดยมีน้องชายคนเล็กนายกรณ์ ณรงค์เดช ตามมาภายหลัง ส่วน นายณพ ณรงค์เดช มีภรรยา และบุตรชายมาด้วย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์