‘ท่องเที่ยว’ อ่วม เร่งฟื้นเชื่อมั่น ‘แผ่นดินไหว’ กรุ๊ปทัวร์หาย 30% ยอดจองตั๋วบินรายวันวูบ 40-60%

วานนี้ (31 มี.ค.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมผลกระทบด้านการท่องเที่ยวจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชนด้านท่องเที่ยว อาทิ สมาคมโรงแรมไทย และสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า)

นายสรวงศ์ กล่าวว่า เป็นห่วงตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติในอนาคตจะชะลอเดินทางมาไทย จึงต้องรีบประชาสัมพันธ์ให้เห็นว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจริงๆ คือกรุงเทพฯ จังหวัดเดียว และต้องมอนิเตอร์การจองตั๋วเครื่องบินและการจองโรงแรมมาประเทศไทยในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์และในช่วงสงกรานต์ด้วย

ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนท่องเที่ยวเรียกร้องให้ภาครัฐออกประกาศนียบัตรหรือหนังสือรับรองอาคารที่ได้รับการตรวจสอบแล้วว่ามั่นคงแข็งแรง ซึ่งทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้พยายามอย่างเต็มที่ในการกระจายวิศวกรอาสาตรวจอาคารต่างๆ อย่างเร็วที่สุดและดีที่สุด ส่วนทางโรงแรมจะมีวิศวกรประจำของตึกอยู่แล้ว

“สิ่งที่ได้รับข้อเรียกร้องจากภาคเอกชนคือ อยากให้ออกหนังสือรับรองว่าอาคารไหน โรงแรมไหน ผ่านการตรวจสอบด้านวิศวกรรมแล้วมีความปลอดภัย จากนั้นจะให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหน่วยงานต่างๆ กระจายข้อมูลสู่ทั่วโลก”

เอกชนขอให้ยกเลิกประกาศเขตภัยพิบัติ

นอกจากนี้ ภาคเอกชนได้ขอให้ยกเลิกการประกาศเขตภัยพิบัติฉุกเฉิน เพราะในภาษาอังกฤษจะค่อนข้างรุนแรง มีผลต่อการประกันภัยต่างๆ ของภาคท่องเที่ยว จึงพยายามทำงานให้รวดเร็วที่สุดและได้นำข้อเสนอแนะของภาคเอกชนไปยังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีด้วย

“ช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีการยกเลิกห้องพักไปแล้วประมาณ 1,000 กว่าห้อง แต่บางจังหวัดก็พบว่ามีการเข้าพักเต็ม เช่น พัทยา ทำให้ต้องมอนิเตอร์ตัวเลขต่อไป ที่น่าเป็นห่วงคือการยกเลิกตั๋วเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม ผมมั่นใจอย่างหนึ่งว่าข้อความที่ออกไปจากภาครัฐโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ททท. สำนักงานทั่วโลก ได้กระจายข้อความทุกภาษา จะเรียกความมั่นใจกลับคืนสู่ประเทศไทยได้โดยเร็ว ส่วนตลาดที่เกิดความวิตกมากที่สุดคือนักท่องเที่ยวจีน ในเร็วๆ นี้จะขอหารือกับ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ว่าจะทำอย่างไรต่อไป”

ส่วนกิจกรรมในเทศกาลสงกรานต์ยืนยันเดินหน้าต่อ จัดกิจกรรมเหมือนเดิม และได้สั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยวประสานตำรวจนครบาลทั่วประเทศเรื่องดูแลความปลอดภัย เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยว

ยอดจองตั๋วบินรายวันลดฮวบ 40-60%

นายกฤษ พัฒนสาร กรรมการและเลขานุการ สมาคมสายการบินประเทศไทย ซึ่งมีสมาชิกรวม 6 สายการบิน ได้แก่ บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยแอร์เอเชีย, ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์, ไทยไลอ้อนแอร์, เวียตเจ็ทไทยแลนด์ และนกแอร์ กล่าวว่า ตัวเลขการจองที่นั่งโดยสารรายวันของสายการบินสมาชิกในช่วง 2 วันที่ผ่านมาหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ลดลงเฉลี่ย 40-60% เฉพาะตลาดจีน ลดลงเกือบ 60% อินเดีย ลดลง 45% เวียดนาม ลดลง 45% และมาเลเซีย ลดลง 43% ส่วนเทศกาลสงกรานต์ยอดจองที่นั่งโดยสารยังนิ่งอยู่

“2 วันที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนราว 1,000 เคสที่ติดต่อเข้ามายังสายการบิน โดยกว่า 90% เป็นขอเลื่อนการเดินทาง ส่วนอีก 10% เป็นการยกเลิก และที่น่าตกใจคือจำนวนการไม่มาปรากฏตัว (No Show) ที่สนามบินเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากเฉลี่ยปกติมี 5% เพิ่มเป็น 10%”

“แอตต้า”ชี้แผ่นดินไหวซ้ำเติมท่องเที่ยวไทย

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ด้วยเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้คนไทยตกใจอย่างมาก จริงๆ แล้วในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาทางหน่วยงานต่างๆ ควรให้แต่ละเขตเข้าสำรวจตรวจสอบโครงสร้างตึกก่อนอนุญาตให้คนเข้าทำงาน วานนี้ (31 มี.ค.) จะได้ไม่เกิดเหตุแตกตื่น อพยพคนซ้ำ และเป็นข่าวอีกรอบให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกังวล

“เหตุแผ่นดินไหวกระทบต่อความเชื่อมั่น ทำให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางเข้าไทยอยู่แล้ว จะมากหรือน้อยขึ้นกับข่าวนำเสนอ ยิ่งมีการอพยพซ้ำอีกรอบวานนี้ ยิ่งซ้ำเติมภาคการท่องเที่ยว”

ตลาดกรุ๊ปทัวร์หายไป 30%

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการแอตต้า กล่าวว่า รัฐบาลต้องเร่งสร้างความมั่นใจแก่คนในประเทศ อย่าให้เกิดภาวะแพนิกแบบวานนี้ เพราะยิ่งทำให้ชาวต่างชาติมองว่าเหตุแผ่นดินไหวในประเทศไทยยังไม่จบ ทำให้นักท่องเที่ยวกังวลว่ายังสามารถจองการเดินทางมาประเทศไทยได้หรือไม่ โดยสถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้า (อินบาวด์) เดินทางผ่านบริษัททัวร์ล่าสุด พบว่าจากปกติมีจำนวน 8,000 คนต่อวัน แต่หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวหายไป 30% เหลือ 6,000 คนต่อวัน

“สิ่งที่ต้องจับตามองตอนนี้คือช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะหายไปหรือไม่ เฉพาะนักท่องเที่ยวจีนประเมินว่าหายไปแน่นอน 20% เทียบกับสงกรานต์ปีที่แล้ว จากทั้งปัจจัยความเชื่อมั่นที่ยังไม่ฟื้นตัวจากเอฟเฟ็กต์แก๊งคอลเซ็นเตอร์เมื่อต้นปี และเจอเหตุแผ่นดินไหวซ้ำเติม”

ล่าสุด แอตต้าได้สำรวจทางโซเชียลมีเดียของจีน พบว่า 30% ของชาวจีนมีความรู้สึกทางลบต่อการเดินทางมาประเทศไทย เพราะกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่พัก ขณะที่ 65.8% ขอรอดูสถานการณ์ก่อน มีเพียง 4.1% มองเชิงบวกว่าประเทศไทยยังเดินทางได้

ด้านการท่องเที่ยวของไต้หวัน ได้ออกประกาศให้นักท่องเที่ยวที่จองแพ็กเกจเดินทางกับบริษัททัวร์ไว้แล้ว สามารถยกเลิกการเดินทางได้ โดยที่บริษัททัวร์ต้องไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ส่วนจีน

เตรียมจัดโรดโชว์จีนเดือน พ.ค.นี้

“แอตต้าจะสำรวจผลกระทบอย่างชัดเจนอีกครั้งในอีก 1-2 วันข้างหน้า หนึ่งในตัวอย่างการยกเลิกการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์คือ การยกเลิกเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) จากเฉิงตู ประเทศจีน มาไทย จากเดิมยอดจองที่นั่งไม่เต็มอยู่แล้ว พอเจอเหตุแผ่นดินไหวจึงได้ขอยกเลิก”

สมาคมฯ คาดการณ์ว่าปี 2568 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย 7 ล้านคน ไปไม่ถึง 8 ล้านคนตามเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการ อย่างไรก็ตาม คาดหวังว่าสถานการณ์จีนเที่ยวไทยน่าจะดีขึ้น เพราะสถาบันวิจัยของจีนระบุว่าตลาดนักท่องเที่ยวขาออก (เอาต์บาวนด์) จะดีขึ้น จาก 4 มณฑล ได้แก่ เสฉวน กุ้ยโจว ยูนนาน ทิเบต และนครฉงชิ่ง ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเป็นพิเศษ ทำให้ในเดือน พ.ค.นี้ แอตต้าเตรียมจัดโรดโชว์ที่ฉงชิ่งและกุ้ยโจว พร้อมดึงผู้ประกอบการจากเมืองรอบๆ มาด้วย

คนแห่พักโรงแรม“พัทยา-กาญจน์-หัวหิน”

นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า อยากขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวถึงพื้นที่ท่องเที่ยวที่ไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้ เช่น ภูเก็ต และพัทยา จะเห็นได้จากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โรงแรมในกาญจนบุรี พัทยา และหัวหิน มีลูกค้าเข้าพักเต็มหมด เป็นคนกรุงเทพฯ ที่หนีแผ่นดินไหว และนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อให้ภาพที่ออกไปยังต่างประเทศได้เห็นว่าประเทศไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งสามารถท่องเที่ยวได้ตามปกติ และขอว่าระหว่างนำเสนอข่าวอย่าโยงเหตุแผ่นดินไหวของไทยกับเมียนมา เพราะชาวต่างชาติแยกไม่ออก

เมื่อเช้ามีการประชุมสมาคมโรงแรมไทย ได้สำรวจเกี่ยวกับความเสียหายของโรงแรมสมาชิก ส่วนใหญ่เป็นการหลุดร่อนของผนัง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนเรื่องโครงสร้างหลัก ไม่พบโรงแรมไหนมีปัญหา

“ตัวเลขการยกเลิกโรงแรมล่าสุดมีจำนวนประมาณ 1,100 บุ๊กกิ้งทั่วประเทศในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ไม่ถือว่าเยอะ แต่ที่ต้องจับตาคือยอดจองใหม่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่มีแนวโน้มว่าจะไม่หวือหวาเหมือน 2 ปีที่แล้ว และมองว่าเทศกาลสงกรานต์ปีนี้จะสะท้อนภาพเศรษฐกิจจริงๆ โดยคาดว่าอัตราการเข้าพักตลอดเดือน เม.ย. จะอยู่ที่ 60% ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วซึ่งมี 65% จึงอยากให้ภาครัฐเร่งสร้างความเชื่อมั่น และอยากให้เร่งประกาศโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง พร้อมพิจารณาเพิ่มจำนวนสิทธิจาก 1 ล้านสิทธิ”