ลุ้นเงื่อนไขใหม่ ‘เที่ยวไทยคนละครึ่ง’ ใช้เฉพาะวันธรรมดา แบ่งสิทธิตรึงคนเที่ยวเมืองรอง

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายืนยันโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” มาแน่! สรุปอย่างเป็นทางการแล้วว่าใช้ชื่อนี้ แต่เงื่อนไขการใช้สิทธิจะเปลี่ยนไปจากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” พอสมควร ตอนนี้อยู่ระหว่างพิจารณาปรับ 2 เงื่อนไขใหม่ ได้แก่ 1.ให้ใช้สิทธิได้เฉพาะวันธรรมดาเท่านั้น และ 2.รัฐบาลจะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายท่องเที่ยว 50% แต่จำนวนการใช้สิทธิจะกระจายไปยังเมืองรองในสัดส่วนเท่ากันหรือมากกว่าเมืองหลัก
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ว่า ความคืบหน้าของโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการรับฟังความเห็นจากสำนักงบประมาณ แต่พอเกิดเหตุแผ่นดินไหว จึงเป็นข้อพิจารณาของกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวิเคราะห์และวิพากษ์อย่างครบถ้วน อย่างไรก็ตามยังให้ความสบายใจได้ว่าโครงการนี้จะเกิดขึ้น เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวไทยเดินทางในช่วงโลว์ซีซัน
จากการหารือล่าสุดเกี่ยวกับการกำหนดเงื่อนไขใช้สิทธิโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง รัฐบาลจะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายท่องเที่ยว 50% (ประชาชนจ่ายเอง 50%) สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวใน 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย ทั้งเมืองหลัก 22 จังหวัดและเมืองรอง (เมืองน่าเที่ยว) 55 จังหวัดตามชื่อโครงการ
แต่ในจำนวนสิทธิทั้งหมด 1 ล้านสิทธิ จะมีการจำกัดให้ประชาชนใช้สิทธิได้คนละไม่เกิน 10 สิทธิ (10 ห้อง หรือ 10 คืน) โดยอยู่ระหว่างพิจารณาเงื่อนไขใหม่เพื่อกระจายการใช้สิทธิไปในเมืองรองไว้ 2 แนวทางด้วยกัน ได้แก่
แนวทางที่ 1 กำหนดสัดส่วนการใช้สิทธิระหว่างเมืองหลักกับเมืองรองที่ 5:5 สิทธิ
แนวทางที่ 2 กำหนดสัดส่วนการใช้สิทธิระหว่างเมืองหลักกับเมืองรองที่ 4:6 สิทธิ
โดยยังต้องรอข้อสรุปอย่างเป็นทางการอีกทีว่าจะใช้แนวทางไหน
“ทั้งนี้จะมีการพิจารณาปรับเงื่อนไขใหม่ กำหนดให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิโครงการนี้เพื่อท่องเที่ยวได้เฉพาะวันธรรมดา (Weekday) ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์เท่านั้น เช่น ถ้าเข้าพักโรงแรมคืนวันศุกร์ ก็สามารถใช้สิทธิต่อเนื่องในวันเสาร์ได้ แต่จะไม่สามารถใช้สิทธิเข้าพักคืนวันเสาร์และวันอาทิตย์ได้ หากประชาชนต้องการเข้าพักในคืนวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ ต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง”
ขณะเดียวกัน กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาเช่นกันว่าจะกำหนดให้ กลุ่มข้าราชการสามารถใช้สิทธิโครงการนี้ เพื่อกระตุ้นให้เที่ยวไปด้วยทำงานไปด้วย (Workation) ได้ด้วยหรือไม่