‘สงกรานต์’ ยอดจองโรงแรมร่วง 25% แผ่นดินไหวฉุดต่างชาติหายเฉียด 7 แสนคน

“สมาคมโรงแรมไทย” เผยยอดจองห้องพักจาก “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” เทศกาลสงกรานต์ใน 7 เมืองหลัก ช่วง 11-17 เม.ย. ร่วงกว่า 25% เหตุแผ่นดินไหวสะเทือนเชื่อมั่น กังวลความปลอดภัย กรุงเทพฯ ติดลบ 32% ชลบุรีทรุด 67% คาดฉุดภาพรวมต่างชาติเที่ยวไทยเดือน เม.ย. หายเฉียด 7 แสนคน เตรียมชง “กทม.” ออกสติกเกอร์ยืนยันอาคารปลอดภัยเรียกความมั่นใจ
ผลกระทบเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. สั่นสะเทือนถึงภาคการท่องเที่ยวของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการเข้าพักโรงแรมซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาคารสูง
สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ประเมินว่ายอดจองห้องพักจากนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 จะลดลง 25% ใน 7 เมืองท่องเที่ยวหลัก และแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน เม.ย. เบื้องต้นอาจหายไปกว่า 6.89 แสนคน
นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ สำรวจนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. พบภาพรวมการเข้าพักเฉลี่ย 7 จังหวัดหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ กระบี่ ชลบุรี เชียงราย เชียงใหม่ ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี ลดลงประมาณ 25%
จากตัวอย่างการสำรวจโรงแรมสมาชิก 52 แห่ง มีนักท่องเที่ยวต่างชาติพักลดลง 10,517 รูมไนต์ (Room Nights : ห้องต่อคืน) เหลือยอดจอง 32,244 รูมไนต์ ขณะที่่ช่วงเดียวกันปี 2567 มี 42,761 รูมไนต์
สมาคมฯ ประเมินเบื้องต้นว่ากระทบต่อภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน เม.ย. ประมาณ 25% เช่นกัน หรือ 689,282 คน เหลือ 2,067,846 คน จากเดือน เม.ย. 2567 ที่มีจำนวน 2,757,128 คน
“คาดว่าบรรยากาศท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ปีนี้จะไม่คึกคักเหมือนปี 2566-2567 ซึ่งเป็นช่วงเปิดประเทศใหม่หลังการระบาดของโควิด-19 สมาคมฯ จึงมองว่ารัฐบาลต้องรีบกระตุ้นภาคท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดในประเทศ เร่งดำเนินโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งให้ออกมาเป็นรูปธรรม”
“กรุงเทพฯ-ชลบุรี” ยอดจองเข้าพักร่วงแรง
ส่วนผลสำรวจการเข้าพักของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 7 จังหวัด ที่โรงแรมสมาชิกฯ ตอบแบบสำรวจ 52 แห่ง พบว่านักท่องเที่ยว 3 อันดับแรก คือ ภูมิภาคเอเชีย ตามด้วยยุโรป และอเมริกา
โดยโรงแรมสมาชิกฯ ส่วนใหญ่มีการปรับตัวลดลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ มีโรงแรมตอบแบบสำรวจ 22 แห่ง จองห้องพัก 13,371 รูมไนต์ ลดลง 31.57% จากปี 2567 ที่มีการจอง 19,539 รูมไนต์
ส่วนโรงแรม จ.กระบี่ ตอบแบบสำรวจ 1 แห่ง มีการจองห้องพัก 1,022 รูมไนต์ ลดลง 3.68% จากปี 2567 ที่มีการจองห้องพัก 1,061 รูมไนต์ ด้าน จ.ชลบุรี มีโรงแรมตอบแบบสำรวจ 8 แห่ง มีการจองห้องพัก 2,208 รูมไนต์ ลดลง 67.14% จากปี 2567 ที่มีการจองห้องพัก 6,720 รูมไนต์ ขณะที่ จ.เชียงใหม่ มีโรงแรมตอบแบบสำรวจ 8 แห่ง มีการจองห้องพัก 2,414 รูมไนต์ ลดลง 10.92% จากปี 2567 ที่มีการจองห้องพัก 2,710 รูมไนต์ และ จ.สุราษฎร์ธานี มีโรงแรมตอบแบบสำรวจ 1 แห่ง มีการจองห้องพัก 552 รูมไนต์ ลดลง 18.58% จากปี 2567 ที่มีการจองห้องพัก 678 รูมไนต์
อย่างไรก็ตาม มี 2 จังหวัดคือ จ.ภูเก็ต และ จ.เชียงราย ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจองห้องพักเพิ่มขึ้น โดย จ.เชียงราย มีโรงแรมตอบแบบสำรวจ 1 แห่ง มีการจองห้องพัก 77 รูมไนต์ เพิ่มขึ้น 102.63% จากปี 2567 ที่มีการจองห้องทั้งสิ้น 38 รูมไนต์ และ จ.ภูเก็ต มีโรงแรมตอบแบบสำรวจ 11 แห่ง มีการจองห้องพัก 12,600 รูมไนต์ เพิ่มขึ้น 4.87% จากปี 2567 ที่มีการจองห้องพัก 12,015 รูมไนต์
ต่างชาติกังวลความปลอดภัยอาคาร
“อัตราการจองห้องพักล่วงหน้าที่ลดลง เป็นผลจากความกังวลเรื่องความปลอดภัยในตัวอาคารของไทย โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวจีนที่มีแนวโน้มเดินทางเข้าไทยลดลงต่อเนื่องเมื่อช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. 2568 รวมถึงนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้มีพฤติกรรมการจองห้องพักและตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าสั้นประมาณ 7 วันก่อนการเดินทาง”
ทั้งนี้ จากการประชุมติดตามสถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวไทยและชาวต่างชาติช่วงเทศกาลสงกรานต์ คาดว่าอัตราการจองห้องพักและสายการบินล่วงหน้า 2-3 วันก่อนเทศกาลสงกรานต์จะไม่หวือหวาไปกว่านี้
“ส่วนนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศขึ้นภาษีขั้นต่ำ 10% จากผู้นำเข้าสินค้าทุกประเทศ เบื้องต้นประเมินว่าอาจทำให้ประชาชนสหรัฐเดินทางท่องเที่ยวน้อยลง เพราะส่วนใหญ่จะใช้จ่ายกับสินค้าจำเป็นมากกว่า ซึ่งไม่ได้กระทบเฉพาะภาคท่องเที่ยวไทยเท่านั้น แต่กระทบกับทุกประเทศที่เป็นจุดหมายปลายของนักท่องเที่ยวสหรัฐ โดยจะไม่ได้มีผลทันที อาจเริ่มมีผลในอีก 5-6 เดือนข้างหน้า”
ชง กทม. ออกสติกเกอร์ยืนยันอาคารปลอดภัย
นายเทียนประสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ตนเข้าร่วมประชุมกับนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ข้อสรุปว่าโรงแรมที่มีจำนวนห้องเกินกว่า 80 ห้อง ให้ใช้ผู้ตรวจสอบอาคารที่จะต้องทำรายงานตรวจสอบอาคารประจำปีเป็นผู้ตรวจอาคารเบื้องต้น โดยมีแบบประเมินจากทาง กทม. แล้วสรุปผลว่าเป็นสีเขียว สีเหลือง หรือสีแดง หากเป็นสีเขียวจะสามารถลงทะเบียนแล้วบรรจุอยู่ในแดชบอร์ด (Dashboard) รายงานตรวจสอบอาคารในพื้นที่กรุงเทพฯ
“สมาคมฯ เตรียมเสนอให้ทำสติกเกอร์เพื่อยืนยันว่าอาคารนั้นๆ ผ่านการตรวจสอบแล้ว ในลักษณะเดียวกับมาตรฐาน SHA+ ที่ยืนยันความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวในช่วงวิกฤติโควิดระบาด”
ส่วนกรณีโรงแรมที่มีจำนวนห้องพักน้อยกว่า 80 ห้อง สามารถใช้วิศวกรระดับสามัญ เข้าทำการสำรวจอาคาร ใช้เกณฑ์เดียวกัน แล้วสามารถรายงานผลในแดชบอร์ดได้เหมือนกัน