ปัจจัยลบฉุด ‘ต่างชาติเที่ยวไทย’ Q1 โตต่ำ 2% ททท. จ่อปรับเป้าทัวริสต์รายตลาด

ปัจจัยลบฉุด ‘ต่างชาติเที่ยวไทย’ Q1 โตต่ำ 2%  ททท. จ่อปรับเป้าทัวริสต์รายตลาด

มรสุมปัจจัยลบกระหน่ำ “ภาคท่องเที่ยวไทย” ไตรมาสแรกปี 68 ฉุดยอดต่างชาติโตต่ำ 2% แต่รายได้ยังบวกเกิน 10% “ททท.” จ่อหารือกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ปรับลด-เพิ่มเป้าหมายทัวริสต์เป็นรายตลาด แต่ยังคงเป้าใหญ่ดึงต่างชาติเข้าไทยให้ได้ 39-40 ล้านคนตามเป้าเดิมของรัฐบาล

KEY

POINTS

  • มรสุมปัจจัยลบกระหน่ำ “ภาคท่องเที่ยวไทย” ไตรมาสแรกปี 68 ฉุดยอดต่างชาติโตต่ำ 2% แต่รายได้ยังบวกเกิน 10%
  • “ททท.” จ่อหารือกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ปรับลด-เพิ่มเป้าหมายทัวริสต์เป็นรายตลาด แต่ยังคงเป้าใหญ่ดึงต่างชาติเข้าไทยให้ได้ 39-40 ล้านคนตามเป้าเดิมของรัฐบ

ช่วง 3 เดือนแรก (ม.ค.-มี.ค.) ปี 2568 มีเหตุการณ์เชิงลบรุมเร้าภาคการท่องเที่ยวของไทย ตั้งแต่กรณี ซิงซิง นักแสดงชาวจีนหายตัวไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมาเมื่อต้นปี ต่อเนื่องด้วยการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมื่อข่าวเชิงลบลุกลามทั่วโลกโซเชียลมีเดีย ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ความปลอดภัยของประเทศไทยในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน ฉุดยอดการเดินทางของตลาดอันดับ 1 ลดลงชัดเจน

ล่าสุดเหตุแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ 8.2 ริกเตอร์ในเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มี.ค. สั่นสะเทือนถึงประเทศไทย โดยเฉพาะภาพตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม และภาพอาคารสูงโยกสั่นไหวไวรัลทั่วโลกโซเชียล เขย่าความเชื่อมั่น ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่กล้าเดินทางเข้าพักในกรุงเทพฯ ซึ่งกำลังเตรียมพร้อมสำหรับบรรยากาศการเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์อย่างยิ่งใหญ่

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าแบบเหมาเข่ง ขั้นต่ำ 10% จากทุกประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐ สร้างความกังวลต่อสงครามการค้าครั้งใหญ่ที่จะส่งผลต่อกำลังซื้อคนทั่วโลก เฉพาะไทยโดนอ่วม 37% ขณะที่คู่แข่งทางการค้าหลักอย่างจีน จะโดนสหรัฐเพิ่มกำแพงภาษีต่อสินค้าจีนอีก 34% จากเดิมที่บังคับใช้อยู่แล้ว 20% ทำให้กำแพงภาษีที่สหรัฐตั้งไว้ต่อสินค้านำเข้าจีนมีอัตราสูงถึง 54% โดยล่าสุดประธานาธิบดีสหรัฐขู่ตั้งกำแพงภาษีสินค้าจีนเพิ่มอีก 50% หลังจากจีนประกาศจะตอบโต้ ด้วยการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ 34%

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ภาคการท่องเที่ยวไทยเผชิญเหตุการณ์เชิงลบส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านการเดินทาง ส่วนใหญ่เป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ ทำให้ ททท. เตรียมประชุมหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเรื่องปรับเพิ่มหรือลดเป้าหมายรายตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ยังคงเป้าหมายภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยไว้ที่ 39-40 ล้านคนตามเป้าของรัฐบาล

“พอถึงจุดหนึ่งเราต้องมาดูตัวเลขอีกครั้ง ตอนนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ ททท. ได้มีการประเมินสถานการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดเหตุการณ์เชิงลบต่างๆ ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ในช่วง 3 เดือนแรก ส่งผลให้ภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยมีจำนวนสะสม 9,549,004 คน เติบโต 1.91% โดยตลาดที่ติดลบมีจีนและเกาหลีใต้ ส่วนตลาดที่เราเห็นสัญญาณดีคือญี่ปุ่น ยุโรป และตะวันออกกลางที่เติบโตสูงมาก”

ยอดคนต่างชาติเที่ยวโตต่ำ แต่รายได้ยังบวก 10%

รายงานข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า จากสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมในช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ มีจำนวน 9,549,004 คน แม้เติบโตเพียง 1.91% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่สร้างรายได้การท่องเที่ยว 462,747 ล้านบาท เติบโต 10.47%

สำหรับ 10 อันดับแรกของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยสูงสุดในช่วงดังกล่าว พบว่าอันดับ 1 คือ จีน จำนวนสะสม 1,331,434 คน อันดับ 2 มาเลเซีย 1,153,496 คน อันดับ 3 รัสเซีย 722,202 คน อันดับ 4 อินเดีย 543,770 คน อันดับ 5 เกาหลีใต้ 497,930 คน อันดับ 6 เยอรมนี 341,242 คน อันดับ 7 สหราชอาณาจักร 335,116 คน อันดับ 8 สหรัฐ 320,631 คน อันดับ 9 ญี่ปุ่น 316,744 คน และอันดับ 10 ฝรั่งเศส 315,116 คน

 

จีนเที่ยวไทย Q1 ติดลบ 24%

เมื่อดูเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวจีน การเดินทางเข้าไทยช่วง 3 เดือนแรกยังมากเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวน 1,331,434 คน แต่ลดลงราว 24% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมีจำนวน 1,756,337 คน จากปัจจัยเหตุการณ์นักแสดงจีนหายตัวเมื่อต้นปี ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย มาจนถึงเหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 28 มี.ค.

นางสาวฐาปนีย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดจีนเที่ยวไทยติดลบในช่วง 3 เดือนแรกก็จริง แต่ในจุดหมายปลายทางอื่นๆ ของชาวจีนก็พบว่าติดลบเช่นกัน ยกเว้นประเทศญี่ปุ่นที่เดียว ซึ่งมีจำนวนชาวจีนเดินทางไปญี่ปุ่นเติบโตจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะเรื่องเงินเยนอ่อนค่า ด้วยค่าเงินเป็นปัจจัยที่ส่งผลมากๆ ต่อการตัดสินใจเดินทางจับจ่าย โดยเฉพาะในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังทรงๆ จุดหมายปลายทางไหนที่คุ้มค่าการเดินทาง ก็จะดึงดูดนักท่องเที่ยวไปได้มาก และได้อานิสงส์สูงสุด

“อย่างไรก็ตาม เราอย่าเพิ่งตกใจกับการลดลงของตลาดนักท่องเที่ยวจีน เพราะลดในเกือบทุกจุดหมายปลายทางทั่วโลก แต่อีกมุมคือเราควรดีใจกับการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวคุณภาพจากตลาดอื่นๆ ที่เดินทางเข้าไทยด้วย”

ปัจจัยลบฉุด ‘ต่างชาติเที่ยวไทย’ Q1 โตต่ำ 2%  ททท. จ่อปรับเป้าทัวริสต์รายตลาด

 

เล็งดึง “ดาราจีน” เยือนไทยฟื้นเชื่อมั่น ก.ค.นี้

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ททท. ได้ประชุมร่วมกับสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เพื่อร่วมกันดึงตลาดกรุ๊ปทัวร์จีนกลับเข้ามา แม้จะเห็นสัญญาณว่าชาวจีนนิยมเดินทางด้วยตัวเองมากขึ้น แต่ด้วยขนาดประชากรจีนมีเป็นพันล้านคน กลุ่มที่ต้องการเดินทางกับบริษัททัวร์ยังมีจำนวนมาก และเป็นกลุ่มที่มีคุณภาพในการใช้จ่าย เพราะเขามาเที่ยวไทยครั้งแรกก็ต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ และซื้อสินค้าทุกอย่างกลับไป

“เราต้องมีอินเซนทีฟหรือมาตรการจูงใจให้กับตลาดกรุ๊ปทัวร์ด้วย ว่าบริษัททัวร์ต้องการอะไรบ้าง เพราะเขาเป็นคนกระจายข่าวและขายแพ็กเกจทัวร์ ควบคู่กับการอัปเดตสินค้าท่องเที่ยวใหม่ๆ ตอบโจทย์ประสบการณ์ คุณภาพ และความปลอดภัย ขณะเดียวกัน ททท.เตรียมร่วมมือกับพันธมิตรจัดโรดโชว์ส่งเสริมการขายในเมืองใหญ่ของประเทศจีน อาทิ เซี่ยเหมิน อู่ฮั่น และเฉิงตู เร็วๆ นี้ เพื่อปลุกความเชื่อมั่นและฟื้นภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทย ในตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตของเส้นทางการบินใหม่ๆ”

นอกจากนี้ ททท.จะมุ่งโปรโมตเรื่องอีเวนต์ความบันเทิง (Entertainment) เช่น การจัดคอนเสิร์ตและแฟนมีตในไทย ตอนนี้กำลังหารือกันเรื่องการดึงดารานักร้องและผู้มีอิทธิพลทางความคิด (KOL) ชาวจีนที่มีชื่อเสียง ทุกเจนเนอเรชัน เดินทางเยือนไทยช่วงกลางปีนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวจีน

“เราเตรียมเชิญดาราจีนมาร่วมงานเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีนครบ 50 ปีในเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นงานพิเศษ โดยเชื่อมั่นว่าอินฟลูเอนเซอร์ที่เชิญมาร่วมงานในไทย จะเป็นส่วนสำคัญในการบอกต่อสถานการณ์จริงของภาคท่องเที่ยวไทยออกไปได้ดีที่สุด”

 

ยุโรป-ตะวันออกกลางโตแรง 2 หลัก

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์นักท่องเที่ยวจากตลาดอื่นๆ ช่วง 3 เดือนแรก พบว่าตลาดระยะไกล (Long-haul) อย่างยุโรปมาแรงมาก เติบโต 2 หลักหรือมากกว่า 10% ในทุกตลาด เช่น รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี รวมถึงตลาดตะวันออกกลาง ทุกตลาดบวกหมด เข้ามาชดเชยการหายไปของนักท่องเที่ยวจีนได้ โดย ททท.จะเดินหน้ากลยุทธ์หลักคือเรื่อง แอร์ไลน์ โฟกัส (Airlines Focus) มุ่งทำตลาดสนับสนุนการเปิดเส้นทางบินเพื่อรุกตลาดใหม่ๆ และการเปิดเส้นทางบินสู่เมืองรองในตลาดหลัก

“เรายังต้องดำเนินการตามแผนเดิม แต่เพิ่มเติมด้วยการรุกบางตลาดที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก เช่น ตลาดจีน พร้อมหาตลาดทดแทนที่เติบโตสูงสุด เช่นตลาดใหม่ๆ อย่างอิสราเอล คาซัคสถาน และซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเราทำอยู่แล้วในตอนนี้”

ส่วนตลาดระยะสั้น (Short-haul) อื่นๆ เช่น ไต้หวัน ฮ่องกง และสิงคโปร์ อาจจะค่อนข้างอ่อนไหวกับเหตุแผ่นดินไหว ส่งผลให้มีการยกเลิกห้องพักโรงแรมในกรุงเทพฯ แต่ส่วนหนึ่งเป็นการเปลี่ยนจุดหมายปลายทางไปยังจังหวัดใกล้เคียงแทน เช่น พัทยา หรือภูเก็ต ที่ไม่ได้รับผลกระทบ

“เราต้องดึงสถานการณ์ท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ ให้กลับมา ภายใต้การดูแลความปลอดภัยสูงสุด ควบคู่กับการสื่อสารให้นักท่องเที่ยวเห็นสภาวะที่แท้จริง ว่าทุกอย่างกลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว พร้อมยืนยันว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ไม่มีสายการบินไหนยกเลิกเที่ยวบินนับตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหว แม้ช่วง 3 วันแรกหลังเกิดเหตุ นักท่องเที่ยวจะตื่นตระหนกจนยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางไปบ้าง”

ปัจจัยลบฉุด ‘ต่างชาติเที่ยวไทย’ Q1 โตต่ำ 2%  ททท. จ่อปรับเป้าทัวริสต์รายตลาด